เคล็ดลับดูแลผิวในผู้สูงอายุ เก็บล็อกผิวสวยอ่อนเยาว์ดุจราววัยสาว
เมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงวัยที่สภาพผิวแห้งเหี่ยว ความชุ่มชื้นของผิวถูกทำลาย และระบบภูมิกันผิวอ่อนแอลงอย่างต่อเนื่อง เป็นช่วงเดียวกันกับอายุที่เพิ่มมากขึ้น การดูแลผิวในผู้สูงอายุจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนที่รักสวยรักงาม ยังคงชอบการแต่งหน้าเพื่อให้ตัวเองดูดี ไม่ชอบความเสื่อมโทรมของผิว
การดูแลอย่างถูกวิธีจึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยชะลอความเสื่อมสภาพ ให้ผิวของผู้สูงวัยดูดีได้ กระนั้นผู้สูงอายุก็ต้องเข้าใจถึงการดูแลผิวที่แตกต่างไปจากช่วงวัยอื่นๆ เนื่องจากความเปล่งปลั่ง ความเต่งตึงที่ถูกทำลายลง การใช้ครีมตัวเดียวกันกับวัยหนุ่มสาวไม่ได้ผลที่ดีเสมอไป อีกทั้งการแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางก็จะต้องเลือกด้วยความละเอียดอ่อน ใส่ใจกับส่วนผสมให้มากขึ้น เพราะโอกาสผิวแพ้ง่ายมีสูง อาจตามมาด้วยความหมองคล้ำและรอยด่างดำจากอาการแพ้เอาได้
ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.beautystylo.com/
การเปลี่ยนแปลงของสภาพผิวของวัยสูงอายุ
การเปลี่ยนแปลงของผู้สูงอายุ จะเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งพบได้ตั้งแต่อายุ 25-30 ปี ถือว่าเป็นวัยที่ควรดูแลตัวเองให้มากขึ้น เมื่อย่างเข้าสู่อายุ 50 ปี รอยย่นและริ้วรอยจะเริ่มเด่นชัดมากขึ้น โดยเฉพาะบนผิวหน้า คาง จมูก ริมฝีปาก ร่องแก้ม แล้วค่อยๆ ลึกมากขึ้น ผิวหน้าจากที่เคยเนียนนุ่มมีความชุ่มชื้น จะแห้งกร้าน มีความหยาบเมื่อใช้มือลูบ ผิวหนังหลุดลอกเป็นขุยได้ง่าย รูขุมขนขยายตัว ส่งผลให้น้ำใต้ชั้นผิวระเหยออกไปได้ง่าย เกิดความหมองคล้ำ ความไม่สม่ำเสมอของผิว เนื่องจากกระบวนการผลัดเซลล์ผิวที่ช้าลง มีการสะสมของสารเคมีและสิ่งสกปรก กลายสภาพเป็นผิวแพ้ง่าย อาจมีอาการคัน เป็นผื่นแดงและแสบเกิดขึ้น จนทำให้ผู้สูงอายุเกิดความหงุดหงิดและไม่มั่นใจในตัวเอง
ขอบคุณภาพประกอบจาก http://beautyteenstyle.com/
ปัญหาผิวหน้าในผู้สูงอายุที่พบได้บ่อย
ผู้สูงวัยต้องเข้าใจว่าผิวพรรณของตัวเองรวมไปถึงโครงสร้างของผิวหน้าเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก กลายเป็นปัญหารบกวนใจ ฮอร์โมนที่ลดลงโดยเฉพาะในเพศหญิงวัยหมดประจำเดือน สังเกตได้ว่าผิวหนังจะเปลี่ยนแปลง เกิดรอยย่นขึ้นมาตามใบหน้า ร่องแก้ม หน้าผาก หางตา เป็นต้น ความหย่อนคล้อยยังส่งผลทำให้ผิวไม่ชุ่มชื้น การผลัดเซลล์ผิวที่เคยหมุนเวียนอย่างสมดุลจะลดลง ชั้นผิวที่มีเกราะป้องกันเชื้อโรคลดลง
ขอบคุณภาพประกอบจาก http://skin-care-information.com/
ซึ่งเป็นในส่วนของหนังกำพร้าที่บางลงได้มากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ รวมไปถึงความสามารถในการสร้างสี อีกทั้งส่วนของชั้นหนังแท้ที่มีเส้นใยเชื่อมต่อกันก็จะขาดความยืดหยุ่น เนื่องจากชั้นผิวที่บาง เกิดเป็นรอยเหี่ยวย่น ต่อมเหงื่อลดลง ร่างกายขับเหงื่อออกได้น้อย ผู้สูงอายุจึงรู้สึกหงุดหงิดเมื่อมีอากาศร้อน ยิ่งการแต่งหน้าแบบผิดวิธี ยิ่งจะส่งผลให้รู้สึกไม่สบายผิว เกิดเป็นอาการแพ้ตามมาได้อย่างง่ายดาย
ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.stylecraze.com/
การดูแลผิวหน้าเพื่อลดความเสื่อมสภาพ
ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมจากมอยส์เจอไรเซอร์ และควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาพผิวด้วย โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาผิวแห้ง ยิ่งไม่ควรมองข้ามผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากมอยส์เจอไรเซอร์เข้มข้นเด็ดขาด นอกจากนี้ ส่วนประกอบของครีมบำรุงผิวควรมีคุณสมบัติในการลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินไปพร้อมๆ กัน ไม่เพียงเท่านั้นนะคะ แสงแดดก็เป็นตัวการทำลายผิวให้เกิดริ้วรอย ฝ้า กระและจุดด่างดำ ทำให้เกิดปัญหาผิวเสื่อมสภาพอย่างครบวงจร การทาครีมกันแดดปกป้องรังสี UV จึงนับว่าสำคัญไม่น้อยเช่นกัน
หากต้องการให้สภาพผิวหน้ายังคงอ่อนเยาว์ ไม่แก่ก่อนวัยไปมากกว่านี้ การกินอาหารที่มีประโยชน์เน้นผักผลไม้ที่ให้วิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ ดื่มน้ำสะอาดมากๆ และนอนพักผ่อนให้เพียงพอก็เป็นอีกปัจจัยที่จะช่วยให้ผิวของผู้สูงอายุยังคงดูเต่งตึงและอ่อนเยาว์ขึ้นได้