น้ำยาบ้วนปากดีต่อสุขภาพปากแค่ไหน จำเป็นใช้หรือไม่นะ
ปัจจุบันเราจะเห็นสื่อโฆษณาเกี่ยวกับน้ำยาบ้วนปากกันเป็นประจำ และยังมีการผลิตออกมากันหลากหลายยี่ห้อหลายแบบและหลายกลิ่นให้สามารถเลือกใช้กันได้ตามความพอใจ โดยการโฆษณาจะระบุว่าการแปรงฟันแบบปกติอาจทำให้ช่องปากไม่สะอาดพอ จึงทำให้เกิดความสงสัยกันมากขึ้นว่าจริงๆ แล้วน้ำยาป้วนปากจำเป็นกับเราหรือไม่
สำหรับเรื่องนี้ ภก.กรชัย ฉันทจิรธรรม ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการประเภทน้ำยาบ้วนปากที่มีประโยชน์อย่างมาก ซึ่งได้ระบุไว้ว่าผลิตภัณฑ์น้ำยาบ้วนปากแต่ละประเภทสามารถออกได้เป็น 5 กลุ่ม/ประเภท คือ
- กลุ่มที่ช่วยกลบกลิ่นและสร้างความสดชื่นในช่องปากด้วยน้ำมันหอมระเหย
- กลุ่มที่ผสมสารฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ร่วมกับฟลูออไรด์
- กลุ่มที่ผสมสารเพื่อลดปัญหาในช่องปากบางประการ เช่น ลดการเสียวฟัน ลดคราบหินปูน (ฟัน ขาว)
- กลุ่มสำหรับเด็ก และ
- ครอบจักรวาล คือรวมกลุ่ม 1-3 ไว้ในขวดเดียว
วิธีการใช้น้ำยาป้วนปากที่ถูกต้องจะได้แก่
1. โดยทั่วไปแล้วจากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่า ประสิทธิภาพของน้ำยาบ้วนปาก จะช่วยลดกลิ่นปากได้ชั่วคราวประมาณ 3 ชั่วโมง และจะเป็นการช่วยระงับกลิ่นปากเพียงชั่วคราว แต่ไม่ได้แก้ที่สาเหตุหลักในการเกิดกลิ่นปาก และเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ขวบ ไม่ควรใช้น้ำยาบ้วนปากเลยทุกประเภท
2. กลุ่มคนที่ทันตแพทย์แนะนำให้ใช้น้ำยาบ้วนปาก เพื่อช่วยเสริมการแปรงฟัน มักจะเป็นกลุ่มที่มีสุขภาพช่องปากไม่ดีนัก เช่น ปากเป็นแผล เป็นโรคเหงือก มีการผ่าตัดเหงือก หรือผู้ที่มีแนวโน้มฟันผุง่าย การแปรงฟันโดยใช้ยาสีฟันฟลูออไรด์อย่างเดียวอาจไม่พอ การใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมฟลูออไรด์เพิ่มเติมจะเป็นตัวช่วยที่ดี
3. ห้ามใช้น้ำยาบ้วนปากแทนการแปรงฟันโดยเด็ดขาด แต่ให้ใช้น้ำยาบ้วนปากเป็นแค่ตัวช่วยเสริมจากการแปรงฟันแบบปกติ และในคนที่มีอาการเสียวฟันควรใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของสารโพแทสเซียมไนเตรตเพื่อช่วยลดอาการเสียวฟัน
4. สำหรับผู้ที่มีกลิ่นปากเวลาแปรงฟันควรทำความสะอาดลิ้นด้วย เพราะฝ้าขาวบนลิ้นเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดกลิ่นปาก และควรจะใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดซอกฟัน จะเป็นวิธีที่สามารถช่วยลดกลิ่นปากได้ดีกว่าการใช้น้ำยาบ้วนปากเพียงอย่างเดียว
5. สำหรับผู้ที่มีสุขภาพช่องปากปกติก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้น้ำยาบ้วนปาก เพราะการใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ๆ อาจทำให้เกิดเชื้อราในช่องปากเพิ่มมากขึ้น และจะส่งผลให้สมดุลในช่องปากเสียไป เนื่องจากในน้ำยาบ้วนปากมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ในช่องปาก
หากคุณแปรงฟันได้อย่างถูกวิธี ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ และรักษาความสะอาดของช่องปากอยู่เสมอ รวมทั้งไม่อยู่ในกลุ่มที่มีปัญหาทางช่องปาก เพียงเท่านี้คุณก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้น้ำยาป้วนปากกันแล้วค่ะ
