ปอ-แคท แฝดนะย่ะ สะดุดใจ

 

Cover Story
Miracle Twin!!
ใกล้จะลงจอเต็มทีแล้วค่ะ สำหรับละครเรื่อง "แฝดนะยะ" ซึ่งเรื่องนี้ สาว "แคท" แคทรียา อิงลิช รีเทิร์นกลับมาเล่นละครอีกครั้ง หลังจากที่ห่างหายไปนาน งานนี้เธอประกบคู่กับพระเอกแถวหน้าวิก 3 "ปอ" ทฤษฎี สหวงษ์ เรื่องราวความชุลมุน ลุ้นรักวุ่นๆ ของฝาแฝด ที่จะทำให้คุยยิ้มได้ ขำได้ และแอบร้องไห้ตามได้ในบางซีน บทหนักเรื่องนี้ตกอยู่กับแคท เมื่อเธอต้องรับบทเป็นฝาแฝด แถมแฝดที่ว่ายังเป็นแฝดชายที่กลายเป็นสาว กับแฝดสาวที่ห้าวเหมือนชาย แล้วสุดท้ายต้องมาแปลงร่างเป็นสาวประเภทสอง ด้านปอ ก็คิดว่าตนต้องตกหลุมรักสาวประเภทสอง ความชุลมุนเลยกลายเป็นเหตุแห่งรัก ที่คุณไม่ควรพลาดการติดตาม แต่ก่อนจะไปติดตาม วันนี้ภาพยนตร์บันเทิงเลยขอพาทุกท่านมาอ่านความคิดของคนทั้งคู่ เกี่ยวกับฝาแฝดและสาวประเภทสองกันก่อน แล้วคุณจะรู้ว่า ในมุมมองของพระ-นางเรื่องนี้ มีสิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก (ด้วยความเข้าใจ) ซ่อนอยู่

 

เมื่อคุณตื่นขึ้นมาพบว่าคุณมีฝาแฝด
ปอ : ผมจะพยายามหลับต่อครับ (หัวเราะ) อยากให้มันเป็นความฝันนะ คือตื่นมามีแฝดไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี แต่ถ้าต้องมีจริงๆ ขอตื่นมาเจอสัก 7 คนเลย ให้ครบอาทิตย์ เอามาแบ่งกันทำงาน (หัวเราะ) อย่างคนเป็นแฝดคือเขาจะมีสายใยที่เรามองไม่เห็น ถ้ามีคนช่วยคิด 7 หัว 7 วันมันคงจะดีกว่า ไม่ต้องช่วยทำงานหรอกครับ แค่ช่วยคิดก็พอแล้วครับ อยากได้ 3 ผู้ชาย 3 ผู้หญิง อีกหนึ่งเป็นกะเทยครับ

แคท : ดีนะแคทชอบ ขอมี 2 คนพอ เอามาช่วยงานค่ะ เยอะกว่านี้เดี๋ยววุ่นวาย แต่จะว่าไปถ้าให้สนุก 3 คนก็ดีนะ ถ้า 7 คนอย่างปอก็ไม่ไหวนะ ชีวิตจะดูฟรีเกินไป แต่เราขอ 2 เพราะมองว่ากำลังพอดีๆ จะได้แบ่งภาระกันได้ แล้วก็อยากให้เหมือนแคทเป๊ะ เป็นผู้หญิงเหมือนกัน มันคงเป็นความอบอุ่นอีกแบบหนึ่งนะ ตอนแคทเด็กๆ แคทรู้จักแฝดคู่นึงน่ารักมาก ตอนนี้เขาก็ดังมากที่มาเลเซีย เป็นนักแสดง เขาจะแบบทำอะไรด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกัน ใส่เสื้อผ้าเหมือนกัน คือมันดูแล้วคงสนุกดีอีกแบบหนึ่ง อ้อ!แล้วถ้ามีแฝด ก็แกล้งหนุ่มได้สนุกไปอีกแบบ แต่อย่ามาแย่งแฟนกันเท่านั้นล่ะ (หัวเราะ)

 

คุณเคยมีประสบการณ์รักแฝดบ้างหรือยัง
ปอ : ไม่เคยเจออ่ะครับ จีบแฝดคงขำนะ สำหรับผมถ้าเจอ แล้วชอบผู้หญิงคนนึงคงไม่สนใจหรอกว่าเป็นแฝดหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นแฝดก็ดีนะ จะได้มีคนเอาไปฟ้องว่า ดูสิผมไปทำอย่างนี้ (หัวเราะ) เอาไว้ช่วยจับผิดไง

แคท : ไม่เคยเหมือนกันค่ะ แต่ถ้ามีล่ะก็มาเป็นแฝดไม่กลัวนะ แต่กลัวเขาจะมาแกล้งมากกว่า กลัวสับสนว่าฉันไปเดตกับคนถูกหรือเปล่าเนี่ย หรือว่าไปกับอีกคนนึง กลัวโกหก กลัวอะไรประมาณนี้มากกว่า

ถ้าปอเจอสถานการณ์ตกหลุมรักสาวนะยะ จะทำยังไง
ปอ : ก็คงต้องจีบอ่ะครับ ปอคิดว่าความรักมันไม่มีการแบ่งเพศ รักอะไรก็ได้ รักหมารักอะไรก็ได้นะ ที่เราอยู่แล้วมีความสุขทุกวันนี้ ก็เพราะเรามีความรัก รักทุกอย่างได้หมด เรื่องที่เขาใช้นายนำหน้าชื่อ ผมมองว่า วันใดวันหนึ่งที่ผมคิดจะรัก ชอบคนคนนึง ผมจะชอบเขาคนนั้น ไม่ว่าเขาจะเป็นยังไงก็ตาม อีกอย่างถ้าผมรักไปแล้วไม่มีหรอกครับ ต่อให้มารู้ทีหลังว่าเขาไม่ใช่ผู้หญิงก็คงไม่โกรธนะครับ ผมว่าเรื่องอย่างนี้เช็หกได้นะ (หัวเราะ) มันหลอกกันไม่ได้หรอก ถ้าไม่ได้เมานะ (หัวเราะ) แต่ถ้าเจอตอนเมาก็อีกเรื่องนึง นั่นไม่ใช่ความรัก เป็นความใคร่อะไรก็ว่ากันไป (หัวเราะ)

 

แคทเชื่อไหมอ่ะ ว่าจะมีคนรักกะเทยจริงๆ ในโลกของชีวิตจริง
แคท : มีค่ะ แคทเชื่อนะ เพราะเคยเจอมาแล้ว กะเทยสาวประเภทสองเขาเหมือนผู้หญิงมาก บางคนก็มีแฟนเป็นผู้ชายเลย ก็ดีนะ แคทมองว่าสังคมเดี๋ยวนี้เริ่มยอมรับได้ จากเมื่อก่อนคือ สาวประเภทสองอาจจะถูกมองอีกแบบ กับการที่แคทได้รู้จักกับสาวประเภทสอง จากที่ร่วมงาน แคทไม่ได้รู้สึกอะไรเลยนะ คิดเลยเขาเป็นผู้หญิงเหมือนเรามีหัวใจ เขาเป็นคนสนุกนะ ตลกด้วย เขาเป็นคนคนนึงที่ไม่ต่างกับเราหรอก

แล้ววันนึง ในมุมกลับกันถ้าแคมมีทอมมาจีบล่ะ
แคท : ไม่เคยก็ไม่รู้นะ แต่ยังไงล่ะ ถ้าเป็นแคทไม่ได้จั๊กเดียมนะ แต่แคทก็อยากมีแฟนเป็นผู้ชายมากกว่า (หัวเราะ) ไม่ได้รังเกียจนะคะ แคทรู้จักทอมเยอะมาก เขาน่ารักมาก แต่ถ้าเอาตัวเองล่ะก็ไม่เอาค่ะ แคทคิดว่าอนาคตของแคทยังไงก็ต้องลงเอยกับผู้ชายแท้ๆ อยากมีครอบครัว อยากมีลูกอะไรแบบนี้มากกว่า แต่ถ้ามาเป็นเพื่อนกันล่ะก็ แคทยินดีนะ ลั้นลากันไปดีกว่า แคทว่าแล้วแต่รสนิยมของแต่ละคน แต่แคทขอผู้ชายแท้ๆ ดีกว่าค่ะ

ถ้าให้ปอเลือกรับบท ระหว่างสาวประเภทสอง กับบทเกย์แอ๊บแมน ปอมองว่าบทไหนยากกว่ากัน
ปอ : ผมว่าสาวประเภทสองยากกว่าครับ เพราะเขาจะคิดว่าเขาไม่ใช่ผู้ชาย คิดว่าเขาเป็นผู้หญิง ส่วนเกย์เขายังมีรูปลักษณ์เป็นผู้ชาย แต่จิตใจเขาเป็นผู้หญิง เป็นสาวละกัน เกย์ก็เป็นท่าแอ๊บๆ แต่สาวประเภทสองเขาจะชัดเจนว่าเขาเป็นกะเทย เป็นผู้หญิง ไม่ใช่เก้งกวาง ผมมองว่ามันยากสำหรับผมเพราะในเรื่องความคิดเราต้องคิดว่าเราเป็นผู้หญิง นั่นล่ะที่ยาก ที่จะทำให้เราสื่อสารออกมาไม่ว่าจริตจะก้าน ความเขินอายในแบบของผู้หญิง

สำหรับแคท บททอม กับสาวประเภทสอง อันไหนยากกว่ากัน
แคท : แคทว่ายากง่ายเหมือนๆ กันนะ คือเล่นเป็นผู้หญิงเราก็แก่น แสนซนไม่ห่วงสวย เป็นตัวเอง แต่ส่วนกะเทย ต้องคิดตลอดเวลา สะกดจิตตัวเองว่า ฉันสวย ฉันเริ่ด ฉันสวย ตลอดเวลาจริงๆ (หัวเราะ) คือความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกของกะเทยจริงๆ ไงคะ แล้วคิดอย่างนี้มันก็จะมาเอง อีกอย่างในกองเรื่องนี้ 80% เป็นสาวแบบนี้ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นเราได้แม่แบบเยอะแยะเลย นี่นับวันก็เหมือนกะเทยแล้ว แล้วใครเห็นก็บอกว่ายิ่งมองแคมยิ่งเป็นกะเทย เพราะในเรื่องเล่นเป็นกะเทยซะส่วนใหญ่ด้วย ส่วนที่ยาก แคทว่าตรงที่ต้องห้ามคิดว่า ตัวเองเป็นผู้หญิง ทั้งๆ ที่เราเป็นผู้หญิง แต่ต้องคิดว่าเราเป็นผู้ชายที่อยากสวย ฉันอยากสวย ฉันอยากเป็นผู้หญิง

สาวนะยะ ในความคิดของคุณ
ปอ : สวยครับ อย่างที่ได้เจอในเรื่องสวยมาก เขาไม่ใช่กะเทยแบบแอ๊ะๆ ไปวันๆ นะ เขาก็ทำงานกัน เขามีจิตใจที่อยากเป็นผู้หญิง ทำงานหาเงินโดยสุจริต มีความรับผิดชอบเยอะมากในเรื่องการทำงาน ผมมองว่าบางเรื่องผู้ชายหรือผู้หญิงที่ขี้เกียจควรจะมาดูตรงนี้บ้าง คือเราสามารถทำงานด้วยกันกับเขาได้สบายนะ ไม่ต้องมากังวลว่าเราเป็นผู้ชาย เขาเป็นสาวประเภทสอง จะมาจ้องจีบเราไม่ใช่ คือผมมองสาวๆ ที่ผมเจอคือเขาก็เป็นคนที่มีความคิด ต่างจากที่ผมเคยคิดว่า เขาก็คงแค่เจอผู้ชายแล้ววิ่งตาม อืมม์ เขาไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

แคท : แคทว่าสำหรับแคท เขาคือผู้หญิงคนนึงค่ะ ยิ่งได้เขาใกล้เขา ได้รู้ความรู้สึกของเขา เรานับถือนะ เขาเก่ง และแต่ละคนสู้ชีวิตมากๆ ที่สำคัญคนเหล่านี้มีศิลปะในตัวเยอะมากเลยนะคะ แคทไม่เคยรังเกียจเลย เขาก็คนเหมือนเรา บางคนอาจจะมองว่าประหลาด แต่แคทไม่เลย

 

คุณมองว่าละครเรื่องนี้ นอกจากความสนุก สาระที่สะท้อนอีกมุมของละครเรื่องนี้คือ
ปอ : ทำให้ได้เห็นอีกหนึ่งมุมของกะเทยครับ ที่เราไม่ได้มองถึง คิดว่ากะเทยคงไร้สาระไปวันๆ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ ก่อนหน้านี้ผมก็เคยคิด เคยมองในมุมนี้ เพราะที่เราเห็นผ่านมาเขาก็จะแต๊ดๆๆๆ แต่จริงๆ เขาก็มีอีกมุมเป็นคนที่รักแม่ รักครอบครัว แล้วก็เป็นคนที่มีญาติพี่น้องมีเพื่อน เขาต้องโดนคนถากถาง โดนกดดันในสังคม อยากให้ดูนะครับ ว่านี่เป็นอีกหนึ่งเพศ และอีกหนึ่งอาชีพที่มีเกียรติ และจำเป็นต่อสังคมเช่นกันครับ

แคท : เราจะเข้าใจชีวิตของสาวประเภทสองมากขึ้นนะ แล้วก็จะเห็นชีวิตของเขา ว่าเขาต้องต่อสู้แค่ไหน กว่าคนในสังคม หรือครอบครัวยอมรับเขา จากที่เราเคยฟัง หรือได้ยินจากน้องๆ มา เขาเล่าเลยนะว่าพ่อแม่ไม่ยอมรับเขา รับไม่ได้เลย ส่วนตัวเราอาจจะยังไม่มีลูก เคยคิดนะถ้าลูกเราเขาโตมาเป็นสาวประเภทสอง แคทจะรู้สึกอย่างไร ณ ตอนนี้มันยังไม่เกิดเราก็ไม่รู้ แต่แคทก็มองว่ามันเป็นชีวิตของเขา เขาไม่ได้เลือกที่จะเป็นแบบนี้ แต่เขาเกิดมาเพื่อที่จะเป็นแบบนี้ แคทอยากให้ครอบครัวมองว่า ยังไงนี่ก็คือลูก คือคนในครอบครัวคุณ มันก็เป็นอีกรูปแบบนึงของชีวิต ละครจะเปิดโลกให้เห็นถึงชีวิตของกะเทยคนนึงที่ไม่ธรรมดาเลย ชีวิตที่เรามองแล้วสงสาร ครอบครัวไม่ยอมรับ สังคมไม่ยอมรับ ซึ่งแคทว่าจริงๆ ในสังคมเราก็ยังมีคนที่ไม่ยอมรับสาวๆ กลุ่มนี้สักเท่าไหร่ค่ะ