ยาคุมกำเนิด...กับผลกระทบที่สาวๆ ควรระวัง
ยาคุมกำเนิด ..เป็นตัวช่วยลดความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ของผู้หญิงที่ยังไม่พร้อมจะมีบุตร เป็นฮอร์โมนสังเคราะห์ที่ทำหน้าที่เหมือนเอสโตรเจนในร่างกาย
ปริมาณของฮอร์โมนที่ได้รับเข้าไปจะเข้าไปขัดขวางการทำงานของผนังมดลูก ไม่ให้สามารถรองรับการฝังตัวของไข่ได้ อีกทั้งยังเปลี่ยนแปลงเยื่อบุมดลูกไม่ให้หนาตัว ส่งผลให้โอกาสในการตั้งครรภ์ลดลง
ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.popsugar.com/
ดาบสองคมของยาคุมกำเนิด
ยาคุมกำเนิดกลายเป็นยาที่ได้รับการใช้อย่างแพร่หลาย กลายเป็นเครื่องมือป้องกันการคุมกำเนิดในระยะยาว ต่างจากยาคุมฉุกเฉินที่มีความเข้มข้นของฮอร์โมนมากกว่า และใช้เพียงแค่ในช่วงที่จำเป็นจริงๆ ซึ่งอาจเกิดจากความผิดพลาด ไม่ว่าจะเป็นการถูกข่มขืน ถุงยางรั่ว และการมีเพศสัมพันธ์ขณะที่ยังไม่พร้อม ซึ่งยาคุมชนิดนี้จะมีความเสี่ยงในการเกิดอันตรายต่อร่างกายได้มากกว่า แพทย์จึงไม่แนะนำให้รับประทานกันเกินปีละ 1-2 ครั้ง
ส่วนยาคุมกำเนิดแบบทั่วไปที่ต้องกินติดต่อกันจนหมดแผง กลายมาเป็นทางเลือกทดแทนยาคุมฉุกเฉิน นิยมรับประทานกันตั้งแต่ในวัยรุ่น และดูเหมือนว่าอายุเฉลี่ยของเด็กที่รับประทานจะลดลงอย่างน่าตกใจ ทำให้มันกลายเป็นดาบสองคมที่แฝงเอาไว้ด้วยอันตรายที่หลายคนมองข้าม ความไม่ตระหนักรู้ต่อผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะคนที่เกิดๆ หยุดๆ ไม่เป็นไปตามที่ยาระบุเอาไว้ ยิ่งที่ให้เกิดผลกระทบตามมาได้อย่างมากมาย
ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.recapo.com/
ผลกระทบจากการกินยาคุมกำเนิด
ผลกระทบที่พอจะเห็นได้ชัดเจนก็คืออาการข้างเคียงตั้งแต่ที่เริ่มรับประทานยา เนื่องจากเป็นฮอร์โมนที่เข้าไปส่งผลต่อร่างกาย ทำให้บางคนรู้สึกเวียนหัว อยากอาเจียน หน้ามืด หากรับประทานเป็นประจำ อาจเสี่ยงที่จะทำให้ประจำเดือนมาผิดปกติ ปวดท้อง ประจำเดือนมากระปิดกระปรอย เป็นสิวมากขึ้น ช่องคลอดแห้ง ไม่ค่อยร่าเริง รู้สึกเบื่ออาหาร และอ่อนเพลียได้ง่าย หากรุนแรงก็สามารถส่งผลให้เกิดความผิดปกติบริเวณมดลูกตามมาได้เช่นกัน
การป้องกันอันตรายจากยาคุมฉุกเฉิน
เมื่อการห้ามมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องยาก เนื่องจากเป็นสัญชาตญาณความอยากของมนุษย์และสัตว์ทั่วไป แต่เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายในอนาคตสำหรับผู้หญิง โดยเฉพาะในกลุ่มที่เริ่มรับประทานตั้งแต่วัยรุ่น การตระหนักว่าตนเองยังไม่พร้อมจะมีบุตร ความรับผิดชอบจึงไม่ควรมาตกอยู่ที่ฝ่ายหญิงเพียงผู้เดียว แต่ต้องเป็นการทำความเข้าใจระหว่างสองฝ่าย เพื่อลดการรับประทานยาคุมกำเนิดให้น้อยลง ด้วยทางเลือกที่ปลอดภัยมากขึ้นอย่างการใช้ถุงยางอนามัยที่มักจะได้รับคำแนะนำมากที่สุด
การใส่ห่วงถุงยางฝังเอาไว้ในช่องคลอด การใช้แผ่นแปะ หรือไปจนถึงการทำหมันกรณีที่ไม่ต้องการมีบุตรอีก เหล่านี้ถือว่ามีอันตรายน้อยกว่า และมีอัตราเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้น้อยกว่าการใช้ยาคุมกำเนิด
ดังนั้น ทางที่ดีเมื่อยังไม่พร้อม ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อวางแผน ซึ่งดีกว่าการตัดสินใจด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของตนเอง