Jossy Berry | Review : เปิดกรุน้ำหอมสำหรับผู้หญิงที่ผู้ชายต้องหลงใหล
สวัสดีค่ะ บล็อกวันนี้ว่าด้วยเรื่องน้ำหอมผู้หญิง คือจอสเป็นคนหนึ่งที่บ้าซื้อน้ำหอมมากๆ
ส่วนตัวเป็นคนที่มีน้ำหอมอยู่ในกรุค่อนข้างเยอะ แต่ก็ไม่ค่อยได้รีวิวจริงจังสักเท่าไหร่
วันนี้เลยอยากจะหยิบบางส่วนที่มีอยู่ มารีวิวและแชร์ความคิดเห็นส่วนตัวให้กับเพื่อนๆค่ะ
โดยครั้งนี้จอสขอเน้นไปที่กลิ่นหอมหวาน กลิ่นผู้หญิงๆ ที่สามารถฉีดได้ทุกวันละกันเนอะ
ขอย้ำว่าน้ำหอมที่จะมารีวิวในวันนี้เป็นน้ำหอมที่จอสซื้อใช้เองทั้งหมดค่ะ
รีวิวนี้เกิดจากความชอบส่วนตัวและรสนิยมล้วนๆ ซึ่งแต่ละคนอาจจะไม่ได้ชอบตรงกันนะคะ
เอาเป็นว่าพูดมาเยอะแล้ว เราไปดูรีวิวกันเลยดีกว่า
และนี่ก็คือน่าตาของสาวงามทั้งหลายที่หยิบมารีวิวค่ะ ทั้งหมด 8 ขวด
ย้ำอีกทีว่าเน้นกลิ่นหอมหวาน สไตล์ผูหญิงๆ ฉีดแล้วผู้ชายรักผู้ชายหลงค่ะ ฮ่าๆ
มาดูที่ขวดแรก Chloe Love Story EDP
Notes : white floral, citrus, musky, sweet, woody, soapy
หอมค่ะ หอมมาก ได้กลิ่นครั้งแรกก็ตัดสินใจซื้อเลย เพราะก่อนหน้านี้จอสใช้รุ่น signature อยู่ก็ชอบ
เลยอยากจะลองเปลี่ยนกลิ่นใหม่ดูบ้าง นี้กลิ่นจะออกไปทางดอกไม้ขาวค่ะ
กลิ่นจะหวานๆนวลๆ แต่ไม่ฉุน ได้ฟิลสาวหวาน เหมาะกับฉีดช่วงที่อากาศเย็นๆแบบปลายปี
หรือจะฉีดหน้าร้อนก็พอได้ค่ะ เพราะบ้านเราส่วนใหญ่อากาศร้อนอยู่แล้ว แต่จอสก็ใช้ได้เรื่อยๆ
ความติดทนค่อนข้างดีถึงดีมากค่ะ ฉีด 3-4 สเปรย์ก็อยู่ได้ทั้งวัน แถมหอมติดเสื้อผ้าไปอีกหลายวัน
ใครที่ชอบกลิ่นโทนดอกไม้ๆ หอมหวานนวลๆ สดชื่นและไม่ฉุนอยากให้ลองขวดนี้ค่ะ
Viva La Juicy Couture EDP
Notes : sweet, white floral, caramel, vanilla, citrus, fruity
จูซี่กูตูร์ ขวดนี้ซื้อเพราะแพกเกจล้วนๆค่ะ สอยมาจากงานเซลล์ คือเห็นว่าราคาถูกมาก กลั้นใจไม่ไหว
กลิ่นขวดนี้จะหอมหวานอบอวน เป็นกลิ่นแนวขนมหวาน วานิลา คาราเมล ผสมกับดอกไม้
เป็นกลิ่นที่ฉีดแล้วจะได้ฟิลสาวน้อย สดใสร่าเริง ใครที่ไม่ชอบกลิ่นแรงๆ ขวดนี้จะถือว่าฉุนเลยค่ะ
แต่ข้อดีคือกลิ่นหอมฟุ้งกระจายและติดทนดีค่ะ ฉีดแค่ 1-2 สเปรย์ก็อยู่ได้ทั้งวันแล้ว ฉีดเยอะจะเวียนหัวหน่อย
จอสจะชอบหยิบมาฉีดในวันที่ต้องการความมีชีวิตชีวา ได้กลิ่นแล้วเหมือนกลับไปเป็นเด็กสาวอีกครั้ง ฮ่าๆ
Miss Dior EDT
Notes : patchouli, rose, citrus, warm spicy, earthy
ขวดนี้คือลูกรัก รักที่สุดในบรรดาน้ำหอมทั้งหมดทั้งมวลที่เคยใช้เลยค่ะ
คือเค้าจะเป็นกลิ่นดอกกุลหลาบผสมกับซิตรัส กลิ่นจะออกไปในทางที่หอมหวานอมเปรี้ยว แต่หรู
คือมันเป็นการผสานกลิ่นที่ลงตัวมากๆ และเราคิดว่ากลิ่นนี้มันคือตัวเราเลย คือมันใช่ชั้นอ่ะแก!
กลิ่นนี้เหมาะกับช่วง สปริง ซัมเมอร์ ฉีดได้ทุกวัน วันไหนจะสาวหวาน สาวมั่น สาวเปรี้ยวก็ฉีดได้
ด้วยความที่มันเป็น EDT กลิ่นเลยจะอ่อนกว่าตัว EDP และจะออกแนวสดชื่น ไม่ฉุน ติดทนปานกลางค่ะ
ต่อไป Fan Di Fendi EDP
Notes : fruity, citrus, white floral, leather, animalic
ขวดนี้เป็น Signature ของเฟนดิค่ะ กลิ่นของเค้าจะออกแนวกลิ่นหนังผสมกับผลไม้
คือจะเป็นกลิ่นที่เหมาะกับสาววัยทำงาน ที่มีรสนิยมเรียบหรู คลาสสิก
เหมาะกับฉีดในวันที่อากาศเย็นๆหน่อยค่ะ เพราะถ้าอากาศร้อนๆมาฉีดนี่มีฉุนแน่
ส่วนตัวจอสคิดว่าเหมาะกับการฉีดไปเดินห้าง หรือทำกิจกรรมที่อยู่ในห้องแอร์ค่ะ
โดยรวมแล้วก็ชอบนะ เพราะมีความรู้สึกว่าฉีดแล้วดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น มีความภูมิฐาน เป็นผู้เป็นคนดี ฮ่าๆ
ความติดทนอยู่ที่ปานกลางถึงติดทนมาก แต่แนะนำให้ฉีดแค่ 2 สเปรย์ก็พอค่ะ
Fan Di Fendi EDT
Notes : green, yellow floral, white floral, citrus, leather, sweet
หลังจากสอยขวด signature ไปแล้วก็ไปเจอขวดนี้อีกที่งานเซลล์
พอลองดมดูแล้วรู้สึกว่ากลิ่นมันหอมดี ตัดภาพมาอีกทีคือกำลังจ่ายตังค์แล้ว
คือกลิ่นจะออกแนวดอกไม้ หอมหวานและสดชื่น เหมาะกับสภาพอากาศบ้านเรามากกว่า
เป็นกลิ่นที่สามารถฉีดได้ทุกวันเลยค่ะ เพราะเค้าจะไม่ฉุน ฉีดแล้วเป็นสาวหวาน หอมแบบคลีนๆ
แต่ส่วนตัวแล้วจอสยังไม่ได้ชอบอะไรมากมาย เพราะรู้สึกว่าก็กลิ่นงั้นๆ ยังไม่โดนใจสักเท่าไหร่
ความติดทนอยู่ที่ปานกลาง โดยรวมแล้วรู้สึกเสียดายตังค่ะ เพราะแทบไม่ได้ฉีดเลย
Givenchy Ange Ou Demon Le Secret
Notes : fresh, green, citrus, floral, white floral, fruity
น้ำหอมจีวองชี่ปกติก็ขึ้นชื่ออยู่แล้ว แต่จอสเลือกขวดนี้เพราะแพกเกจล้วนๆเลยค่ะ
เพราะตอนที่ซื้อไม่สามารถลองได้เนื่องจากซื้อที่งานเซลล์ ก็เลยสุ่มซื้อมาลองดูเพราะขวดสวย
ปรากฎว่าเป็นอะไรที่ชอบมาก เป็นน้ำหอมลูกรักอีกตัวนึงเลยค่ะ อยูกับจอสมานานแล้ว ใช้เกือบหมดแล้วด้วย
กลิ่นของเค้าจะหอมหวานอ่อนๆ สดชื่น คลีนๆ เป็นกลิ่นโทนดอกไม้ ซิตรัส กลิ่นไม่แรงไม่ฉุนค่ะ
สามารถฉีดได้ทุกวันเลยโดยเฉพาะอากาศแบบบ้านเราจะเหมาะมากๆ เพราะมันทำให้เรารู้สึกสดชื่น
ที่สำคัญเวลาฉีดกลิ่นนี้แล้วผู้ชายชอบชมตลอดๆเลยค่ะ เขินมาก ฉีดจนจะหมดขวดแล้วค่ะ ได้ใจ ฮ่าๆ
ความติดทนอยู่ที่น้อยถึงปานกลางนะคะ ใครที่ชอบกลิ่นที่ติดทนกว่านี้ขอให้เลื่อนดูข้างล่างเลย
Givenchy Ange Ou Demon Le Secret EDP
Notes : green, fresh, white floral, fruity, citrus
มันคือตัวข้างบนแต่มาในรูปแบบที่เข้มข้นและติดทนกว่าค่ะ กลิ่นจะคล้ายกันมากๆ
แต่ไม่ได้เหมือนเป๊ะเลยทีเดียวนะคะ ส่วนตัวจอสเพิ่งได้มาจากงานเซลล์เมื่อไม่นานมานี้
โดยรวมแล้วโอเคมากค่ะ เพราะขวดเก่ากำลังจะหมดพอดี และขวดนี้ก็ติดทนกว่า
ถือว่าสามารถใช้แทนกันได้เลย รักค่ะ รักกลิ่นโทนนี้มาก ฟิลสาวหวาน สะอาด
มันหอมสดชื่น กลิ่นหวานอมเปรี้ยวอ่อนๆ แต่ดูมีอะไรๆ แถมติดทนอีกด้วย เอาใจไปเลยค่ะ
ขวดสุดท้าย Burberry Body Tender
Notes : rose, fruity, citrus, aromatic, bitter, fresh
เป็นอีกหนึ่งขวดที่ใช้มานานแล้ว และก็ชอบเช่นกัน แต่ยังไม่ชอบเท่า Miss Dior และ Givenchy ข้างบนนะ
กลิ่นนี้จะออกแนวดอกกุหลาบผสมผลไม้อย่างแอปเปิ้ล ลูกพีชอะไรประมาณนั้น หอมกรุ่นๆ
กลิ่นจะเฟรชกว่าตัวที่เป็น Burberry Body นะคะ เพราะฉะนั้นจึงเหมาะกับอากาศบ้านเรามากกว่า
ฉีดแล้วไม่ฉุนค่ะ ความติดทนปานกลาง กำลังดีเลยค่ะ
ใครที่ชอบกลิ่นแนว fruity floral ที่ไม่หวานเลี่ยนจนเกินไปแนะนำกลิ่นนี้ค่ะ
และนี่ก็เป็นน้ำหอมทั้งหมดที่จอสยกมารีวิวในวันนี้นะคะ
สังเกตุว่าส่วนใหญ่แล้วจอสจะชอบกลิ่นโทน อ่อนๆ หวานอมเปรี่ยว และสดชื่น
อันนี้ก็จะขึ้นอยู่กับรสนิยมและความชอบส่วนตัวเนอะ กลิ่นที่จอสว่าหอมบางคนอาจไม่ชอบก็เป็นได้
ช่วงนี้มีงานเซลล์น้ำหอมบ่อยมากๆ บางงานก็ไม่มีตัวอย่างให้ดม บางงานไปแล้วถึงกับมึน เพราะเยอะเกิน
เมื่อก่อนเวลาไปงานเซลล์ก็จะบอกตัวเองว่า ต้องซื้อไว้ๆเพราะเดี๋ยวมันไม่เซลล์แล้ว แต่ตอนนี้ไม่แล้วค่ะ
ใครที่บอกว่าพลาดงานเซลล์นี่ไม่ต้องกลัวนะคะ เพราะเดี๋ยวนี้เล่นเซลล์กันทั้งปีเลยค่ะ ฮ่าๆ
จอสก็หวังว่ารีวิวนี้จะพอเป็นตัวช่วยได้ สำหรับคนที่อยากจะเลือกซื้อน้ำหอมสักขวดสองขวดไว้ครอบครองนะคะ
ติดตามและเม้าท์มอยกันได้ที่
Instagram : Jossyberryblog