สุดฟินนนนน กับบุฟเฟต์แซลมอนเกรดพรีเมียม ราคามิตรภาพที่ Shin Kai - J Arena

สวัสดีค่าาา สบายดีนะคะทุกคน ช่วงนี้หายหน้ากันไปนานเพราะจิงงานยุ่งสุดๆ แถมไม่ค่อยมีเวลาเข้าครัวเลยยย มีแต่เวลาไปกินนนน 555555

อย่างที่บอกน่ะค่ะ ว่าร้านที่จะแนะนำคราวนี้เป็นบุฟเฟต์แซลมอนที่เกรดพรีเมียมมากกกกกก เพราะเค้าใช้แซลมอนสดกันเลยทีเดียว ในราคาท่านละ 499 บาท รวมค่าน้ำ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และเซอร์วิสชาร์จ ก็ราว 600 บาท นิดๆ
โดยเฉพาะซูชิแซลมอน และซาซึมิ กัดแต่ละคำนี่แทบละลายในปาก อร่อยจนอยากเก็บเข้ากระพุ้งแก้มไว้กินวันถัดไป >///<

ร้านนี้ชื่อ Shin kai อยู่ในโครงการ J Arena (เจ อารีน่า) ถนนราชพฤกษ์ ถ้าใครนึกไม่ออก ให้นึกง่ายๆ ว่าอยู่ตรงข้าม The Circle ราชพฤกษ์ แต่ถ้ายังนึกไม่ออกก็ให้ลองถามอากู๋เกิ้ล (Google) ดูนะคะ เพราะถ้าขับตามถนนราชพฤกษ์มาเรื่อยๆ ยังไงก็เห็นแน่นอน หาไม่ยากเลย (ที่จริงคืออธิบายทางไม่เก่งน่ะค่ะ เดี๋ยวยิ่งบอกจะยิ่งหลง 55555)

เพื่อนที่ออฟฟิศเป็นคนแนะนำมา เพราะร้านนี้อยู่ใกล้กับออฟฟิศจิงพอดี ผ่านเกือบทุกวัน แบบนี้ก็ยิ้มหวานเลยสิคะ อ่านรีวิวมาหลายครั้งแล้วจะรอช้าอยู่ใย จัดไปโลดดดดด อิอิ

V

V

เข้ามาปุ๊บก็จะเห็นร้าน Shin Kai ชัดเจนเลยค่ะ มองหาง่ายมั่กๆ

พอหันหลังจะมองเห็น The Circle สาขาราชพฤกษ์ อยู่ฝั่งตรงข้ามเลย
(ถ้ามาจากเส้นเพชรเกษม ท่าพระ หรือกัลปพฤกษ์ จะต้องยูเทิร์นนะคะ ^^)

วันนั้นที่ไปจะนั่งตรงกลางร้านพอดี ร้านไม่ใหญ่มาก เห็นว่าวันหยุดหรือช่วงเย็นคนจะแน่นร้านเลยทีเดียว ทำให้ตัดสินใจไปวันจันทร์ เพราะคนน้อยจะได้ไม่ต้องรอนาน ><

ด้านซ้ายมือที่นั่งจะเป็นบาร์ซูชิ มีเชฟคอยปั้นซูชิและแล่ปลากันสดๆ ตรงนี้เลย
แต่วันนี้ตั้งใจมากินโดยเฉพาะ  เลยเก็บภาพในร้านมาฝากกันน้อยหน่อยนะคะ แหะๆ

มาต่อกันที่อาหารค่ะ
สั่งบุฟเฟต์ไป 2 ที่ พร้อมกับชาเขียวรีฟิล แก้วละ 50 บาท ถ้าเป็นน้ำเปล่าขวดละ 25 บาท

ส่วนอันนี้เซฟมาจากเฟซบุ๊กของร้านนะคะ จะได้เห็นชัดๆ ว่ามีเมนูอะไรบ้างในชุดบุฟเฟต์ 5555

ตั้งใจว่าจะเน้นซาซึมิ และแซลมอนโรล เลยไม่ได้สั่งครบทุกเมนู
แต่ที่ตั้งใจมากินอีกอย่างก็คือ Salmon Nitsuke หรือ "หัวปลาแซลมอนต้มซีอิ๊ว"
ขอบอกว่าอร่อยมากกกกกก และที่สำคัญคือหัวปลาชิ้นใหญ่มากกกกกกก จนต้องเอาตะเกียบมาวางเพื่อให้เห็นว่าชิ้นใหญ่แค่ไหน

ที่ชอบคือเนื้อปลานุ่มละลายในปาก มีบางส่วนที่แข็งบ้างเล็กน้อยโดยเฉพาะส่วนที่ไม่ค่อยมีมันแทรก เช่น ช่วงกลางของหัวปลา แต่นอกนั้นนิ่มมากกกก เนื้อเยอะ และช่วยเรียกความสดชื่นแบบฝุดๆ

ส่วนรสชาติรู้สึกว่าหวานไปนิดนึง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะถ้าชอบเค็มกว่านี้ก็เติมโชยุได้ ที่สำคัญได้ความสดชื่นจากต้นหอมญี่ปุ่นซอย ขิงซอย และสาหร่ายวากาเมะอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ต้องสั่งคราวต่อไปแน่นอน

ส่วนซุปมิโซะมีสั่งไป 1 ถ้วย เผื่อซดให้คล่องคอ รสชาติค่อนข้างธรรมดาทั่วไป ไม่ค่อยมีกลิ่นน้ำซุปปลาแห้ง และรสเค็มของมิโซะเท่าไหร่ แต่อย่างที่บอกว่าวันนี้เน้นแซลมอน เลยสบายๆๆ รอจานต่อไป ><

จานนี้ต้องบอกว่าให้แทบจะเต็ม 10 เลยค่ะ อร่อยมากกกกกกกกก เป็นเมนูที่ชอบสุดในวันนั้น เพราะแซลมอนสดมาก ละลายในปากจริงๆ และน้ำยำก็เข้มข้น เปรี้ยว หวาน เค็ม ลงตัวมากๆ ที่สำคัญคือไม่เผ็ดเกินไป (เพราะกินเผ็ดไม่ค่อยได้ 5555) แบบนี้ต้องสั่งเบิ้ลสองจานเลยค่ะ อร่อยมากจริงๆ ><~

ส่วนชื่อภาษาอังกฤษก็สะกดกันตรงๆ เลยค่ะ Salmon Yum

ต่อมาคือ Salmon Roll เป็นเมนูที่เล็งว่าต้องสั่งให้ได้ แล้วก็อร่อยสมใจจริงๆ เพราะแทบจะไม่ต้องออกแรงเคี้ยวก็เกือบละลายเข้าปากไปแล้ว

เนื้อแซลมอนโรลอยู่ด้านนอก ส่วนตรงกลางก็สอดไส้ด้วยแซลมอนและชีส พอกินใกล้หมดคำจะรู้สึกถึงรสชาติเข้มข้นของชีสขึ้นมาเบาๆ ใครที่ชอบซูชิแบบนิ่มๆ แต่รสไม่อ่อนเกินไปคงถูกใจเมนูนี้แน่นอน

ส่วนซอสสีส้มที่ราดด้านบนน่าจะเป็นซอสค็อกเทล เพราะค่อนข้างเผ็ดนิดๆ อมหวาน และเปรี้ยวหน่อยๆ ส่วนตัวข้าวแอบรู้สึกว่าอ่อนเปรี้ยวและจืดไปนิดนึง รสเค็มไม่เป็นไรเพราะจิ้มโชยุได้ แต่รสเปรี้ยวถ้าเพิ่มได้กว่านี้จะอร่อยมั่กๆ

ถัดมาคือ Salmon Combo เมนูนี้คนไม่ชอบแซลมอนสดก็ทานได้ เพราะแซลมอนจะลนไฟพอให้สุกด้านบนเล็กน้อย มีทั้งกลิ่นหอมไหม้นิดๆ และอร่อยชุ่มฉ่ำจากเนื้อแซลมอนสด

1 ที่จะมี 3 ชิ้น แต่มาสองคนก็เลยจัดไป 2 ที่ ชิ้นแรกอยู่ใกล้สุดจะราดด้วยมิโซะหวาน รสชาติเค็มๆหวานๆ เข้มข้นมาก ชิ้นที่สองรสชาติจะคล้ายกับ Salmon Roll แต่เพิ่มเติมคือความหอมจากเนื้อปลาเผา ชิ้นสุดท้ายราดซีอิ๊วหวานและเพิ่มความสดชื่นด้วยต้นหอมซอย เป็นอีกเมนูที่ไม่ควรพลาดจริงๆ

ก่อนจะถึงซาซึมิที่รอคอย ก็ต้องไม่พลาดเมนูนี้ด้วยเช่นกัน Salmon Don (ออกเสียงว่า แซลมอนด้ง) หรือ "ข้าวหน้าแซลมอน" นั่นเอง แซลมอนหั่นชิ้นหน้าจุใจมากกกกก ตัวข้าวมีรสเค็มนิดๆ อร่อยฝุดๆ ราดโชยุมาให้เล็กน้อย ฟินอย่าบอกใคร

พี่สาวที่ไปด้วยกันชอบเมนูนี้มากกกกก สั่งเบิ้ลไปสอง ไม่รู้กินได้ยังไง ฮ่าๆๆๆๆๆ แต่รอบสองเนื้อปลาชิ้นบางลง (แต่ก็ดีแล้วเพราะถ้าชิ้นเท่าเดิมคงกินไม่หมดแน่ๆ ><)

และแล้ว.... Salmon Sashimi ที่รอคอยก็มาถึงงงงงงง หั่นชิ้นหนามากกกกกก อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ อ่านรีวิวก็หลายที่ บวกกับเพื่อนๆ เล่าให้ฟัง ขอบอกว่าไม่ผิดหวังเลย  ทั้งสดใหม่ รสชาติดี และไม่คาว ช่างฟินนนนนนฝุดๆ

สำหรับแซลมอนซาชิมิ 1 ที่ จะมีทั้งหมด 4 ชิ้น ถ้าสั่ง 2 ที่ และเสิร์ฟมาให้พร้อมกันแบบนี้ เป็นเมนูที่รอนานหน่อย เพราะตอนแรกเหมือนน้องพนักงานจะลืมออเดอร์ เลยต้องตามกันนิดนึง อิอิ

และสุดท้าย... Skin Maki ที่แปลเป็นภาษาไทยตรงๆ ว่า "ซูชิหนังปลาแซลมอน" ซึ่งหนังปลาจะมีทั้งที่ห่อเป็นไส้อยู่ในซูชิ และเป็นชิ้นใหญ่ราดซีอิ๊วหวานวางอยู่ข้างๆ

เป็นเมนูเดียวที่ไม่เหมือนในภาพ เพราะตอนแรกเหมือนจะเป็นโฮโซมากิ (Hosomaki) ที่ชิ้นเล็กไม่ใหญ่มาก แต่ของจริงเป็นฟุโตมากิ (Futomaki) ที่ชิ้นใหญ่เท่า Salmon Roll แถมเสิร์ฟตอนนี้เล่นเอากินเกือบไม่หมด 55555 ใครที่คิดจะสั่งอย่าลืมเผื่อกระเพาะไว้นะคะ

เมนูนี้มีไส้แตงกวาเพิ่มความสดชื่นมาให้ด้วย ส่วนหนังปลาก็ทอดได้กรอบ ไม่อมน้ำมัน แต่เสียดายมาตอนเริ่มอิ่มแล้ว ถ้ามาจานแรกรับรองอร่อยกว่านี้แน่ เพราะเป็นเมนูออร์เดิฟได้สบายๆ อิอิ

เสร็จแล้วก็เช็คบิล ค่าเสียหายคราวนี้ 1,208 บาท คิดแล้วก็ตกคนละ 604 บาท ถ้าไม่เป็นบุฟเฟต์ต้องคนละพันกว่าบาทแน่นอน เลยถือว่าคุ้มมากกกกกกก กับคุณภาพและปริมาณขนาดนี้ (เหลือแค่อย่างเดียวคือเพิ่มรสเปรี้ยวในข้าวซูชิจะเพอร์เฟ็คมาก >< 555555)

รวมถึงการบริการต่างๆ ก็โอเค พนักงานยิ้มแย้มน่ารักทุกคน

ส่วนเมนูที่ไม่ได้สั่งคือ Salmon Sushi (ซูชิแซลมอน) Salmon Yaki (แซลมอนย่าง)  และ Tamako (ซูชิไข่หวาน) เพราะถ้าสั่งครบคงตัวแตกกลับบ้านไม่ไหวแน่นอน ฮ่าๆๆๆ

ใครที่ชอบทานแซลมอนขอแนะนำแรงๆ เลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะของเค้าดีจริงๆ ><

โปรโมชั่นบุฟเฟต์แซลมอน 499 มีทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ - จันทร์ 
ตั้งแต่เวลา 12.00-22.00 น.(ตามเวลาเปิด-ปิดร้าน)
รับประทานได้ท่านละ 1 ชั่วโมง 30 นาที
เบอร์โทร 085-295-5245

ตอนนี้มีโปรโมชั่นใหม่ บุฟเฟต์แซลมอน + บุฟเฟต์เนื้อวากิว 999 ทุกเสาร์ - อาทิตย์ - จันทร์ ด้วยนะคะ ใครสนใจงานนี้ต้องไปลองค่ะ อิอิ  

นอกจากบุฟเฟต์แล้ว ก็มีอาหารจานเดียว (A la carte) ขายด้วยนะคะ มีเมนูเยอะแยะเลย สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก Shin kai sushibar เลยค่าาาา

ปล. แนะนำว่าให้โทรจองก่อนจะดีสุด เพราะน้องที่เคยไปบอกถ้าช่วงคนเยอะต้องรอโต๊ะนานเกือบชั่วโมง  ><

เอาล่ะค่ะหลังจากอิ่มหนำสำราญกันเรียบร้อยแล้ว จิงก็ขอตัวไปปั่นงานก่อนนะคะ

ไว้คุยกันใหม่ค่าาาาาา บ๊ายบายยยยย

ใครมีเรื่องราวดีๆ อยากแนะนำหรือพูดคุยเพิ่มเติม ก็ทักทายกันมาได้ที่

Jingerbreadsanook@gmail.com

หรือพูดคุยกันทางเฟซบุ๊ก Jingerbread ได้เลยค่าาา ><