Kokekokko ไก่ทอดสไตล์ญี่ปุ่น+เกาหลี กรอบและอร่อยมว๊ากกกก จนต้องบอกต่อ \(^0^)//

Kokekokko ไก่ทอดสไตล์ญี่ปุ่น+เกาหลี กรอบและอร่อยมว๊ากกกก จนต้องบอกต่อ \(^0^)//

Kokekokko ไก่ทอดสไตล์ญี่ปุ่น+เกาหลี กรอบและอร่อยมว๊ากกกก จนต้องบอกต่อ \(^0^)//
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พอดีช่วงนี้มีโอกาสไปงานแฟร์หลายที่มว๊ากกก (ไปทั้งงานในหน้าที่และงานส่วนตัว ฮ่าๆๆๆ) ล่าสุดในงาน Happy Eating Festival 2015 ที่สยามพารากอน เลยมีโอกาสได้ชิมไก่ทอดสไตล์ญี่ปุ่น&เกาหลี ที่ทั้งกรอบและอร่อย จนต้องรีบมาบอกต่อนี่แหละค่ะ อิอิ

ร้านนี้ชื่อ "Kokekokko" ที่อ่านออกเสียงว่า "โค เค ค๊อก โค่" เจ้าของร้านบอกตั้งชื่อนี้เพราะต้องการเลียนเสียงไก่ขัน และที่สำคัญคือเพิ่งเปิดมาได้แค่เดือนกว่า เรียกว่าเป็นร้านไก่ทอดน้องใหม่ แต่รสชาติและความอร่อยถือว่าไม่ธรรมดาเลย ><

เจ้าของร้านเล่าให้ฟังถึงที่มาของร้านว่าบังเอิญกินไก่ทอดที่ญี่ปุ่นแล้วติดใจ จึงเอามาปรับและทดลองสูตรให้ถูกปากคนไทย จนในที่สุดก็สำเร็จ ได้เป็นไก่ทอดแสนอร่อยทั้ง 3 รส คือ "โชยุกาลิค" (Shoyu Garlic) รสชาติสไตล์ญี่ปุ่น "อะตอมมิคฮ็อท" (Atomic Hot) สไตล์ไทยเผ็ดจี๊ดจ๊าด สุดท้ายคือ "สวีทออเรนจ์" (Sweet Orange) เป็นสไตล์อเมริกันหอมกลิ่นส้ม

และที่สำคัญคือร้านนี้ "ไม่ใส่ผงชูรส" ซึ่งเป็นเรื่องที่จิงอเมซิ่งมากกกกกก เพราะปกติเห็นใช้ผงปรุงรสกันเกือบทุกร้าน บางทีกินเสร็จก็แสบปากแสบลิ้นไปหมด แฮ่ๆ

ว่าแล้วก็มาดูบรรยากาศร้านและหน้าตาไก่ทอด Kokekokko กันเลยค่าาา ว่าจะเป็นยังไง \\(>,<)//

V

V

ถ้าเห็นป้ายสีเหลือง มีไก่สามตัวเรียงกันแบบนี้ แสดงว่ามาถูกร้านแล้วค่ะ (โดยเฉพาะมีคนยืนมุงหน้าร้านแบบนี้ 555555)

kokekokko 01

kokekokko 02

ตรงหน้าร้านจะเห็นไก่ทอดรสต่างๆ วางเรียงบนตะแกรง
เริ่มจาก Shoyu Garlic รสเค็มอมหวาน หอมกลิ่นโชยุกับกระเทียม เป็นรสพื้นฐานที่เด็กกินได้ผู้ใหญ่กินดี เพราะกลมกล่อมมั่กๆ ><

kokekokko 03

ต่อมาคือ  Atomic Hot ถึงจะเป็นไก่ทอดรสเผ็ดแบบไทย แต่ตอนกินคำแรกจิงนึกถึงไก่ Bon Chon รสเผ็ดทันที
ทั้งที่ปกติก็ไม่ใช่คนกินเผ็ดมาก  แต่กลับเป็นรสที่ชอบมากสุดซะงั้น แปลกใจตัวเอง 55555  >///<
(ซื้อกลับมาที่บ้านทุกคนก็ชอบรสเผ็ดที่สุดเหมือนกัน ทำให้รสนี้ชนะเลิศด้วยมติเอกฉันท์ อิอิ)

kokekokko 04

และสุดท้าย "สวีทออเรนจ์" (Sweet Orange) รสเปรี้ยวอมหวานและเค็มนิดๆ มีกลิ่นหอมสดชื่นจากส้ม เป็นอีกหนึ่งรสที่รับรองว่าถูกใจเด็กๆแน่นอน ^^

kokekokko 05

ระหว่างยืนรอก็ได้มองขั้นตอนการทำไปด้วย 55555

kokekokko ok

พอทอดเสร็จก็เอามาคลุกกับซอสที่เตรียมไว้แล้วทาให้ทั่ว ตักใส่กล่อง แล้วโรยงาขาวคั่วอีกนิดหน่อย

kokekokko 08.1

สำหรับราคามี 2 แบบ คือ 6 ชิ้น 135 บาท และ 10 ชิ้น 199 บาท
ใครกินมากกินน้อย ก็จัดกันไปเรยค่าาา เพราะอร่อยทุกแบบ อิอิ

kokekokko 09.1

ใครที่กลัวมือเลอะ เค้าก็มีถุงมือให้ด้วยน๊าาา ><

kokekokko 09

ตอนซื้อจะมีไม้แหลมปักไว้ให้หนึ่งอัน  จะได้จิ้มหยิบสะดวกขึ้น

ส่วนจิงก็เลือกทั้ง 3 รส เพราะอยากรู้ว่าแต่ละรสเป็นยังไง ถึงจะชอบรสเผ็ดมากสุด แต่ขอบอกว่าอร่อยทั้ง 3 รสเลยค่าาา แหม... ของเค้าดีจริงๆ ฟินนนน  ><

สำหรับไก่ทอดของที่นี่จะใช้ปีกไก่บน หรือเรียกว่าน่องไก่เล็กก็ได้ (แต่แอบเห็นแผ่นป้ายด้านข้างเหมือนจะมีปีกไก่กลางด้วย)

kokekokko 10

แต่ถ้ากลัวไม่อิ่ม ที่ร้านก็มีข้าวเหนียวดำไว้บริการเพิ่มด้วยค่าาา ><

kokekokko 11

เสียดายอย่างเดียวคือร้านนี้จะขายเฉพาะในงานอีเวนท์ต่างๆ ไม่มีหน้าร้านประจำ ดังนั้นใครอยากลองชิมต้องติดตามต่อในเฟซบุ๊ก Kokekokko ตามลิงค์นี้เลยค่าา  >>>  https://goo.gl/Iyb88L

หรือไม่ก็มาในงานนี้ที่ชั้น 5 รอยัลพารากอนฮอล์ สยามพารากอน ร้าน Kokekokko จะอยู่ฮอลล์ 2 บูธ D12 เดินเข้าประตูกลางก็เจอลยค่ะ (แต่ถ้าจะมาก็ต้องรีบนิดนึงนะคะ เพราะงานหมดวันอาทิตย์ที่ 8 พ.ย. นี้แว้วววว ><)

 kokekokko 12

 

ใครที่ได้กินคงแอบรู้สึกว่าไก่ทอด Kokekokko กับไก่ Bon Chon ค่อนข้างเหมือนกัน ซึ่งจิงก็เห็นด้วยฝุดๆ เพราะทีแรกยังนึกว่าเจ้าของร้านทำเป็นไก่ทอดเกาหลีแบบบอนชอนซะอีก แต่พอเห็นว่าไปชิมที่ญี่ปุ่นก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นไก่ทอดลูกผสมระหว่างญี่ปุ่นกับเกาหลี และพอถามดูก็จริงด้วย เพราะเค้าตั้งใจให้เป็นไก่ทอดแบบญี่ปุ่นผสมเกาหลี แถมยังมีรสชาติสไตล์อเมริกันแบบรส Sweet Orange มาให้อร่อยเพิ่มกันอีก 

เอาเป็นว่าใครชอบกินไก่ทอดแป้งกรอบเวอร์แบบไก่ Bon Chon ขอบอกเลยว่าไก่ทอด Kokekokko ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน แถมยิ่งกินตอนร้อนยิ่งอร่อยสฝุดๆ 5555 หรือถ้าไม่กินทันทีก็ยังกรอบได้นาน 3-6 ชั่วโมงเลยทีเดียว (จิงลองพิสูจน์แล้ว ดีงามมากเจ็งๆ กรอบอร่อยฟินเวอร์ ><)

ส่วนความแตกต่างดูเหมือน Kokekokko จะแป้งพองกว่า และเนื้อไก่นุ่มชุมฉ่ำกว่าไก่ Bon Chon แต่สรุปแล้วก็อร่อยทั้งคู่ เพราะความกรอบและความแซ่บใกล้เคียงกันมาก (แต่จิงจะเอียงมาทาง Kokekokko นิดหน่อย เพราะชอบเนื้อไก่แบบชุ่มฉ่ำ อิอิ)

 

ถ้าใครมีโอกาสไปเจอร้านนี้ก็อย่าลืมแวะชิมกันได้นะค้าาา รับรองไม่ผิดหวัง

สำหรับวันนี้ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ ไว้คราวหน้าจิงจะมีร้านอร่อย หรือสูตรอาหารอะไรมาฝากอีก อย่าลืมติดตามกันนะค้าาาา ^^

jingerbread circle mini

ใครมีเรื่องราวดีๆ อยากแนะนำหรือพูดคุยก็ทักทายกันมาได้ที่

Jingerbreadsanook@gmail.com

หรือพูดคุยกันทางเฟซบุ๊ก Jingerbread ได้เลยนะค้าาา ><

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook