พาไปชิม "หลักจับ" สูตรโบราณ ร้านเชนชวนชิม ถนนจันทน์

ช่วงนี้จิงไม่ค่อยมีเวลาทำอาหารเพราะงานยุ่งมากกกก แต่ยังดีที่มีเวลาไปชิมร้านอาหารอร่อย (ความสุขหลังจากทำงานมาเหนื่อยๆ อิอิ) ร้านนี้ที่รู้จักได้เพราะของน้องชายแนะนำเลยค่ะ ทีแรกน้องเรียก "ร้านหลักจับ" จิงก็งงว่าอะไรคือหลักจับ?? นึกว่าเป็นชื่อเถ้าแก่ของร้านเพราะเป็นภาษาจีนที่ไม่คุ้นเคย พอถามดูถึงได้รู้ว่าร้านนี้ขาย "หลักจับ" สูตรโบราณ ที่ไม่ใช่จะหากินกันได้ง่ายๆ แถมโชคดีไม่ต้องไปถึงเยาวราช เพราะร้านอยู่แถวๆ ถนนจันทน์ใกล้บ้าน(จิง)นี่เอง 55555 ><

คำว่า "หลักจับ" หรือ "หลักจั๊บ" ก็หมายถึง "ราดหน้ารวมมิตร" ซึ่งคำนี้เป็นภาษากวางตุ้ง ดังนั้นรสชาติของร้านนี้จะเป็น "อาหารจีนสไตล์กวางตุ้ง"ซึ่งเอกลักษณ์ของอาหารจีนกวางตุ้งก็คือกลิ่นหอมของ "น้ำมันงา" และเป็นอาหารจีนที่ได้รับความนิยมมากสุดในประเทศไทย เพราะทั้งติ่มซำ บะหมี่หมูแดง สุกี้ หูฉลาม ฯลฯ ก็ล้วนเป็นอาหารจีนกวางตุ้งทั้งนั้น เพียงแค่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้เพราะแยกอาหารจีนแต่ละสไตล์ไม่ออก ส่วนอาหารจีนที่โดดเด่นในบ้านเราก็มีจีนเสฉวน จีนไหหลำ จีนแต้จิ๋ว และจีนปักกิ่ง ซึ่งแต่ละร้านก็มีรสชาติที่แตกต่างกัน แต่ถ้าพูดถึงอาหารจีนในบ้านเราเมื่อไหร่ ต้องยกให้จีนกวางตุ้งทันที ><

สำหรับที่ตั้งของร้าน "เชนชวนชิม" จะมองหาได้ง่ายมากกกก เพราะอยู่ริมถนนจันทน์ ปากซอยจันทน์ 18/8 ตัวร้านเป็นตึกแถวคูหาเดียว มีโต๊ะให้นั่งตั้งแต่ในร้านจนถึงหน้าร้าน แถมคนก็ทยอยมากันเรื่อยๆ จนพ่อครัวผัดกันแทบไม่ทัน

น้องชายจิงกินร้านนี้เป็นประจำเพราะติดใจข้าวผัดที่ใช้ข้าวเมล็ดร่วน ผัดไฟแรงเร็วๆ จนได้กลิ่นหอมของไฟจากกระทะ เป็นรสชาติดั้งเดิมที่หากินได้ยากมาก แต่ที่หายากกว่านั้นจนต้องขอเอามาแนะนำในนี้ก็คือ "โกยซีหมี่" เพราะปกติจะเห็นแต่เส้นบะหมี่ทอดกรอบฟูๆ และน้ำราดหน้าที่เป็นคะน้ากับหมูนุ่ม ซึ่งความจริงโกยซีหมี่แบบดั้งเดิมเส้นบะหมี่จะต้องลวกแค่พอสุกครึ่งหนึ่ง แล้วเอาไปผัดไฟแรงในกระทะ เหยาะซีอิ๊วดำลงไปนิดนึง ผัดเร็วๆไปมาจนสุกดีถึงเป็นอันใช้ได้ ส่วนน้ำราดหน้าโกยซีหมี่จะต้องใส่หน่อไม้หั่นเส้นยาวกับต้นหอม เนื้อสัตว์จะเป็นหมู กุ้ง ปลาหมึก ปู ฯลฯ ก็แล้วแต่ตามชอบ แต่ต้องเสิร์ฟคู่กับจิ๊กโฉ่ว (ซอสเปรี้ยว) และพริกไทยป่น ซึ่งความจริงแล้วแทบจะไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเลย เพราะลำพังจิ๊กโฉ่วก็ช่วยดึงรสหวาน เปรี้ยว เค็ม ได้เกือบหมด แต่ใครที่ชอบรสจัดจ้านกว่านี้จะปรุงเพิ่มก็ได้เช่นกัน

เอกลักษณ์อีกอย่างของอาหารกวางตุ้งก็คือ "หมูแดง" โดยเฉพาะร้านนี้ถ้าสั่งราดหน้าหรือโกยซีหมี่รวมมิตรเมื่อไหร่จะมีหมูแดงใส่มาให้ด้วย ต่อให้ไม่ได้สั่งบะหมี่หมูแดงก็ตาม (เพราะที่ร้านก็ไม่มี 5555) ทีแรกแอบแปลกใจเหมือนกัน แต่พอรู้ว่าเป็นร้านสไตล์กวางตุ้งก็เลยเข้าใจ แถมชอบด้วย อิอิ

ตรงหน้าเมนูจะมีแนะนำทั้งประวัติร้านแบบคร่าวๆ และความหมายของคำว่าหลักจับ และคำอื่นๆ อย่าง "จับหวุ่ยฟาน" ที่แปลว่า ข้าวผัดราดหน้ากวางตุ้ง (แต่เมนูนี้ไม่ได้สั่ง เพราะใจจดจ่ออยู่ที่โกยซีหมี่ 555555)

ราคาอาหารมีตั้งแต่ 40 -90 บาท และมีบอกไว้ทุกเมนูว่าราคาเท่าไหร่บ้าง

ดังนั้นสั่งได้สบายใจ ไม่ต้องห่วงว่าจะชาร์จเพิ่มทีหลัง อิอิ

ด้านหลังเป็นเครื่องดื่ม และรายการหรือสื่อต่างๆ ที่เคยรีวิวแนะนำ จิงยังแปลกใจที่ตัวเองไม่รู้จักร้านนี้ ทั้งที่อยู่ใกล้บ้านแท้ๆ และน้องชายก็ไปกินเป็นประจำ

ร้านนี้เปิดมาตั้งแต่ พ.ศ. 2486 ถ้านับดูปีนี้ พ.ศ. 2559 ก็เท่ากับเปิดมาได้ 73 ปี (โอ้ววว นานมากจริงๆ ><) ได้อ่านประวัติร้านจากเว็บอื่นที่เคยรีวิวไว้เห็นว่าเดิมทีที่ร้านขายราดหน้า จากนั้นก็ค่อยๆ ปรับไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นร้านอาหารตามสั่งที่มีความโดดเด่นตรง "หลักจับ" นี่แหละค่ะ

ใครที่อยากอ่านข้อมูลเพิ่ม ดูตามลิงค์นี้ได้เลยนะคะ http://www.thairath.co.th/content/254605

บนโต๊ะจะมีช้อนส้อม พริกไทยป่น และพวงพริกไว้ให้ปรุงรสต่างๆ เหมือนร้านอาหารอื่นๆ ที่สำคัญคือมี "จิ๊กโฉ่ว" ตั้งไว้ให้เป็นขวดเลย คนที่ชอบกินจิ๊กโฉ่วอย่างจิงเห็นแล้วปลื้มปริ่มมากกกก เพราะร้านส่วนใหญ่จะเสิร์ฟมาให้แบบถ้วยเล็ก ต้องขอเพิ่มเป็นประจำ แหะๆ><

ที่ชอบอีกอย่างคือร้านนี้มีซีอิ๊วขาวให้ด้วย เพราะอาหารจีนแท้ๆจะกลิ่นรสไม่จัดมาก ถ้าใส่น้ำปลาจะทำให้มีกลิ่นคาว การเพิ่มรสเค็มด้วยซีอิ๊วขาวจึงเป็นสิ่งที่เหมาะมากสำหรับอาหารจีน ^^

เอาล่ะค่ะ... เวลาที่รอคอยก็มาถึงแร้วววว จานแรก(ของน้องชาย) เป็น "ข้าวผัดกุ้ง" ยิ่งวันนี้หิวมากก็สั่งแบบพิเศษมาเลยยย แน่นอนว่าจิงก็ไม่พลาดที่จะขอชิม อิอิ และก็ไม่ผิดหวังจริงๆ เพราะการผัดข้าวให้ได้เมล็ดร่วนแบบนี้ นอกจากต้องรู้จักเลือกชนิดของข้าวแล้ว ยังต้องรู้จังหวะไฟ ผัดให้เร็ว และใช้เวลานานพอที่จะให้ข้าวมีกลิ่นหอมจากกระทะอีกด้วย บอกตรงๆ ว่าไม่ง่ายเลย เพราะต้องใช้ฝีมือฝุดๆ ><

จานต่อมาเป็นของเพื่อนสาว "ข้าวผัดทะเลรวมมิตร" ที่ร้านก็จะใส่กุ้ง ปลาหมึก และปลาหมึกรอบมาให้แบบนี้  และที่ชอบมากอีกอย่างคือร้านนี้ใช้กุ้งตัวใหญ่ สำหรับราคาจานละ 60 บาท ถือว่าไม่แพงเลยถ้าเทียบกับข้าวผัดทะเลร้านอื่นที่ราคา 40-50 บาท (เพราะไซส์กุ้งต่างกันเจ็งๆ 55555)

ต่อมาเป็น "เส้นใหญ่ราดหน้าปลาหมึก" ที่จริงน้องคนนี้สั่งราดหน้าปลาหมึกกรอบ แต่ไม่รู้ว่าผิดพลาดทางเทคนิคตอนไหน เลยกลายเป็นราดหน้าปลาหมึก(สด)แทน 555555 แต่สุดท้ายก็กินหมดนะคะ สบายๆ

และแน่นอนว่าถ้ามาถึงที่ก็ต้องกินให้หายอยากชิมิคะ น้องก็เลยสั่งมาซ้ำอีกรอบให้ได้กินสมใจ อิอิ "ราดหน้าเส้นใหญ่ปลาหมึกกรอบ" นี่เป็นเมนูโปรดอีกจานของน้องเค้าเลยค่ะ (คอเลสเตอรอลค่อยว่ากันทีหลัง ฮ่าๆๆๆ) โอยยย ปลาหมึกกรอบชิ้นใหญ่มากกกกก น่ากินสุดๆ

ส่วนจานนี้คือ "บะหมี่ราดหน้า" ชื่ออาจฟังแปลกนิดหน่อย แต่พอเห็นแล้วก็เข้าใจ เพราะเป็นเส้นบะหมี่แบบที่ใช้ทำโกยซีหมี่ แต่เอามาทำเป็นราดหน้าที่มีผักคะน้าแทนหน่อไม้ดอง และแน่นอนว่ากุ้งมาเต็มอีกแล้ว ดีงามมากจริงๆ

หลังจากที่ทุกคนได้เมนูกันครบแล้ว ก็มาถึง "โกยซีหมี่รวมมิตร" ที่รอคอย

V

v

ทะแล๊นนนนนน.... หน้าโกยซีหมี่มาเต็มมากๆค่ะ ทั้งหมูนุ่ม กุ้ง ปลาหมึก ปลาหมึกกรอบ เห็ดหอม และที่สำคัญคือ มีหมูแดงด้วยยยย ชิ้นตรงกลางสังเกตเห็นไม๊คะ (แบบว่าไม่เคยกินหมูแดงในโกยซีหมี่เลยตื่นเต้น 555555 ><)

หน้าตาของเส้นก็เป็นแบบนี้เลยค่ะ ไม่เห็นโกยซีหมี่ดั้งเดิมมานานแล้วจริงๆ น้ำตาจิไหล 55555

เท่าที่ถามน้องพนักงานเสิร์ฟเค้าบอกว่าที่ร้านจะเอาเส้นไปนึ่ง แล้วค่อยผัด ทำให้ตัวเส้นมีกลิ่นหอมของไฟ ส่วนตัวน้ำราดของที่นี่รสชาติจะไม่จัดมากแต่หอมมากๆ ใครชอบหวานเค็มกว่านี้ก็ปรุงเพิ่มได้เลยนะคะ

แต่ที่ยังอยากรู้อีกอย่างก็คือ "สุกี้" เลยลองสั่งอีกชาม เพราะบ้านจิงเป็นจีนแต้จิ๋วกับไหหลำ ไม่ค่อยได้กินอาหารจีนกวางตุ้งแท้ๆ ถ้ามีโอกาสมาร้านอาหารกวางตุ้งเมื่อไหร่เป็นต้องขอชิมสุกี้สูตรต้นตำรับทุกครั้ง

พอเสิร์ฟถึงโต๊ะ สิ่งแรกที่เห็นคือตัวน้ำจิ้มไม่ได้ใช้เต้าหู้ยี้ล้วนเพราะมีซอสพริกผสมอยู่ด้วย (ที่จริงก็แอบผิดหวังนิดๆ เพราะอยากกินน้ำจิ้มสุกี้แบบโบราณ 55555) แต่รสชาติใช้ได้เลยค่ะ น้ำซุปรสชาติกลมกล่อมแถมมีไข่นุ่มๆกระจายทั่วชาม หมูหมักก็นุ่มอร่อย ส่วนน้ำจิ้มแอบรู้สึกว่าหวานไปนิดนึง แต่คิดว่าน่าจะถูกปากหลายคน อิอิ ><

ภาพน้ำจิ้มแบบโคลสอัพ 55555

และที่ชอบอีกอย่างคือกุ้งตัวโตเหมือนเดิมมมม ทั้งสดและกรอบเด้ง ฟินนนน (อิ่มแค่ไหนก็ยังฟินนน อิอิ ><)

สุดท้าย... ไม่มีอะไรค่ะ น้องชายจิงยังไม่อิ่ม เลยขอซ้ำด้วยข้าวผัดกุ้งแบบธรรมดาอีกจาน

เอานะคะ มาถึงที่ต้องกินให้อิ่ม จะอิ่มมากอิ่มน้อยก็ขออิ่มไว้ก่อน 5555555 และจานนี้ก็หมดไม่มีเหลือค่ะ อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ ><

พออิ่มแล้วค่อยเดินเก็บภาพบรรยากาศร้าน ><

มองไปซ้ายขวาของร้านจะเห็นโต๊ะวางเรียงกันยาวหลายโต๊ะ ลูกค้าก็มีทั้งนั่งกินที่ร้านและสั่งกลับบ้าน (แต่แนะนำว่านั่งกินร้อนๆที่ร้านอร่อยกว่านะคะ แปลกมากเลย ไม่รู้ทำไม 55555)

ถ้ามองจากที่นั่งนอกร้านจะเห็นป้ายซอยชัดเจน แถมมาได้หลายเส้นทางด้วยค่ะ รับรองว่าหาไม่ยากเลย

ร้านเชนชวนชิมเปิดตั้งแต่ 10.00 น. ถึง 02.00 น. (สิบโมงเช้าถึงตีสอง) ไม่มีวันหยุด หรือสนใจเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่เฟซร้านตามลิงค์นีเลยค่าาา >>> ร้านเชนชวนชิม หลักจั๊บ

สรุปวันนั้นไป 5 คน จ่ายประมาณ 570 บาท เฉลี่ยคนละประมาณ 115 บาท รวมน้ำเรียบร้อยแล้ว แถมเบิ้ล 2 จานกันเกือบทุกคน 55555  ถ้าเทียบกับรสชาติและคุณภาพถือว่าคุ้มค่ามากทีเดียว (นั่งเขียนบล็อกไปก็หิวไป ฮ่าๆๆๆ)

ใครที่ชอบอาหารจีนกวางตุ้งแบบดั้งเดิมอย่าลืมแวะไปนะค๊าาาา รับรองไม่ผิดหวัง ><

ใครมีเรื่องราวดีๆ อยากแนะนำหรือพูดคุยก็ทักทายกันมาได้ที่

Jingerbreadsanook@gmail.com

หรือพูดคุยกันทางเฟซบุ๊ก Jingerbread ได้เลยค่าาาา ><