ภัยจากผู้ใช้ถนนพระรามห้า
เรื่องมีอยู่ว่า วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2549 ผมได้ขับรถกลับบ้านโดยใช้ถนนเส้นสะพานพระรามห้า ต่อด้วยถนนราชพฤกษ์ หรือที่เรียกว่า พระรามห้า-สาธร
ขณะที่ผมขับรถมาเป็นเวลาประมาณ 19.30 น. หรือทุ่มกว่าๆ ผมขับรถข้ามสะพานพระรามห้ามาเรื่อยๆ จนถึงประมาณตรงข้ามร้านอาหารเสวย โดยเวลานั้นผมขับรถอยู่ช่องทางขวาสุด ซึ่งใช้ความเร็วพอประมาณ สักร้อยนิดๆเห็นจะได้
ผมมองกระจกหลังสังเกตว่ามีรถขับตามมา แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร จนผมเปลี่ยนเลนจากขวาสุดเข้าซ้าย เพื่อจะออกทางขนาน และเลี้ยวเข้าวงเวียน เพื่อเลี้ยวซ้ายไปถนนราชพฤกษ์ มุ่งหน้าสู่สาธร รถคันดังกล่าวที่ขับจี้ผมในตอนแรกซึ่งผมก็คิดว่าเค้าแค่จะขับแข่งด้วย เพราะรถผมเป็นรถแต่งนิดๆ แต่เมื่อถึงทางเลี้ยว เขาขับมาประกบทางด้านขวาตีคู่กับผม และคนนั่งตอนหลังเปิดกระจกพร้อมชี้ที่ล้อขวาของผม
ตอนแรกผมนึกว่าประตูปิดไม่สนิท เพราะก่อนออกจากที่ทำงานเปิดเก็บของ จึงชิดซ้ายแล้วเอื้อมมือปิดประตู ขณะนั้นเองคนที่ชี้ยางรถผมก็วิ่งลงมาจากรถคันนั้นแล้วบอกว่ายางรถด้านซ้ายผมแบน ทีแรกผมเกือบจะลงไปดูแล้ว แต่คิดได้ว่าขณะขับมาก็ไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างใด และยางผมก็ใหม่จึงรู้สึกว่าท่าไม่ดีแน่ เพราะคนที่ลงจากรถมาแสดงความหวังดีก็ดูท่าทางไม่น่าไว้ใจ ผมเลยขับรถออกมาโดยไม่ลงจากรถไปดูตามที่คนคนนั้นแนะนำ และรีบขับรถออกมาจากบริเวณนั้นซึ่งค่อนข้างเปลี่ยว และรถเส้นนี้ขับกันไวมาก หากเกิดอะไรขึ้นมาจริงๆคงไม่มีใครสนใจแน่
ขณะที่ผมขับรถออกมาแล้ว รถคันดังกล่าวก็ยังขับตามผมอยู่ ผมจึงตัดสินใจจอดรถหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งมีรปภ.อยู่ แล้วลงมาดูยาง ปรากฏว่ายางรถไม่ได้เป็นอะไรเลย
ระหว่างที่ผมลงมาดูยาง รถคันนั้นจอดดูผมอยู่ห่างไปประมาณห้าสิบเมตร คราวนี้ผมมั่นใจชัวร์ว่ารถคันนั้นเป็นมิจฉาชีพแน่ๆ ระหว่างที่ผมดูรถอยู่นั้น รปภ.ก็เดินเข้ามาสอบถาม พอเห็นรปภ.เดินเข้ามาหาผม รถคันนั้นก็ออกตัวไป ผมจึงขับรถกลับบ้านต่อ
แต่ขับมาได้ไม่ไกลก็เจอรถคันนั้นจอดอยู่ทางซ้ายมือ ผมจึงรีบซิ่งอย่างเร็วเพื่อไม่ให้เค้าตามได้ ผมอยากจะเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนเอาไว้ว่าถ้าเกิดได้เจอเหตุการณ์อย่างผม ต้องคิดและระวังให้ดี เพราะถ้าผมตัดสินใจลงไปดูยางรถตั้งแต่ครั้งแรก ก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง เพราะฉะนั้นผมขอเตือนไว้เลยว่า...
1. ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้อย่าลงจากรถเด็ดขาด
2. ทุกครั้งที่ขับรถต้องล็อกรถ
3. ถ้าอยากจอดเช็กความแน่ใจ ให้จอดในที่สว่างและมีผู้คน อย่าจอดในที่เปลี่ยวเด็ดขาด
4. ถ้ายางรถเกิดแตกจริงๆยอมให้ยางมันบดถนนเลยดีกว่า ยางเสีย แมกซ์เสียซ่อมได้ ซื้อใหม่ได้ แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับตัวคุณมันไม่คุ้มกัน อาจจะเสียมากกว่าค่ายางค่าแมกซ์ก็ได้ หรืออาจจะไม่มีโอกาสได้ซ่อมเลย เพราะฉะนั้นถ้าจะห่วงรถ ห่วงตัวคุณก่อนดีกว่า
5. การขับรถคนเดียวต้องใช้ความระมัดระวัง อย่าขับเพลินไม่สนใจอะไรเลย ต้องหมั่นดูกระจกรอบคันบ่อยๆ สังเกตอาการรถตัวเองตลอดทาง
สำหรับรถต้องสงสัยที่ผมเจอ เป็นรถโฟล์ค สีฟ้าน้ำทะเล ใครเจอรถคันนี้ หรืเจอเหตุการณ์คล้ายอย่างนี้ ขอให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าไม่ปลอดภัยแน่
และสำหรับคนที่ใช้ถนนเส้นนี้ก็ต้องระวังกันให้มากหน่อย เพราะมันมืดและเปลี่ยวมาก หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ผมได้แจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วเพื่อเป็นข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ คุณตำรวจยังบอกเลยว่าผมโชคดีมาก ทุกๆคนก็ระวังกันมากๆ หน่อยนะครับ อันตรายเดี๋ยวนี้มันมีสารพัดรูปแบบจริงๆ