รีวิวร้าน มิยาซากิเทปันยากิ (Miyazaki) พร้อมชมบรรยากาศโครงการ London Street คอมมูนิตี้ ฟู้ดมอลล์สุดช
ลอนดอน สตรีทเป็นคอมมูนิตี้ ฟู้ดมอลล์ ต้นแบบแห่งแรกของเอ็มเค กรุ๊ป บนถนนพัฒนาการ 43-45 ออกแบบสไตล์ลอนดอนชิค โดดเด่นด้วยไอคอนต่างๆที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศอังกฤษ เช่น หอนาฬิกาบิ๊กเบน รถสองชั้นคู่ลอนดอน ( Red Bus ) ตู้โทรศัพท์สาธารณะ ฯลฯ โดยรวบรวมร้านอาหาร 5 แบรนด์ไว้ที่นี่ที่เดียว เริ่มจากพี่ใหญ่ร้านเอ็มเคสุกี้ ร้านอาหารญี่ปุ่นยาโยอิ ร้านมิยาซากิเทปปันยากิ ร้านอาหารไทย เลอสยาม (Le Siam) และ ร้านเลอ เพอทิท คาเฟ่ เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 มี.ค.58 ที่ผ่านมานี้เองค่ะ
โดยร้านที่ชิ้งเลือกมารีวิวในวันนี้เป็นร้านเทปันยากิค่ะ ชื่อร้านว่า Miyazaki ตามความชอบส่วนตัว อิอิ มาเริ่มรีวิวกันดีกว่า ถึงหน้าร้านแล้วค่ะ
ร้านนี้เป็นร้านไม่ใหญ่มากค่ะ มีสเตชั่นสำหรับพ่อครัวปรุงอาหารโชว์ 3 โต๊ะเท่านั้น โต๊ะนึงให้บริการได้ประมาณ 10-15 ท่าน ซึ่งเชฟไม่ได้ทำอาหารให้ดูแบบเบๆนะคะ แต่มีการวาดลวดลายทั้งส่งเสียงร้อง ควงตะหลิว เคาะถ้วยเครื่องปรุง และโชว์ลีลาการใช้มีดยาวๆหั่นเนื้อเป็นชิ้นๆให้ดูด้วย เพลินดีจุง ชิ้งเคยไปทานร้านอาหารที่มีโชว์แบบนี้ที่โรงแรม Merriott ค่ะ ซึ่งปรกติมักจะอยู่ในโรงแรมใหญ่ๆหรูๆ พอมาเจออยู่ในร้านแบบนี้ ค่อยรู้สึกจับต้องได้หน่อย
ก่อนเริ่ม เหล่าเชฟที่จะให้บริการเราในวันนั้นๆ จะมาสวัสดีพร้อมแนะนำตัวกันก่อนค่ะ แค่เปิดก็สนุกแล้วอ๊ะ 555
หลังจากสั่งเมนูแรกไป ก็เริ่มแล้วค่ะ เชฟจะหั่นหอมใหญ่แล้ววางซ้อนกันแบบนี้ จากนั้นก็เทอะไรซักอย่าง ปุ๊บเดียวจะมีไฟขึ้นแบบนี้เบย เจ๋งป๊ะล่ะ
จากนั้นเชฟจะร้องว่าปู๊นๆ (รถไฟม้าง) แล้วเคลื่อนหอมใหญ่ไปด้านข้าง จากนั้นค่อยหั่นเป็นชิ้นๆ ก่อนไปผัดกับผักรวมมิตรที่จะใช้เสิร์ฟ ด้วยความใฝ่รู้หรือเป็นคนเยอะก็ไม่รู้สินะ ชุ้งชิ้งรีบถามเชฟจุดไฟเพื่ออะไรหรอคะ? เชฟก็ตอบว่าเพื่อให้ลูกค้าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งได้ผลแฮะ 555
ส่วนเชฟอีกคนจะดูแลเรื่องข้าวผัดกระเทียม ซึ่งเชฟคนนี้ไม่ค่อยโชว์ลีลาพริ้วไหวเท่าไหร่ แต่แค่ดูเค้าผัดข้าว พยาธิในกระเพาะทำงานทันทีเบย แหะ แหะ
ช่วงนี้ขออุ่นเครื่องด้วยลีลาเชฟไปก่อนนะคะ ก่อนจะเสิร์ฟอาหารที่สั่งทั้งหมดในวันนั้นแล้วค่ะ จิงๆแล้วถ้าดูดีๆ น่าจะพอเดาออกค่ะว่าเป็นเมนูอะไรบ้าง
ลองเดานะคะว่าที่เชฟกำลังผัดคืออะไร เดี๋ยวมาเฉลยจ้า
เอาหล่ะค่ะ พร้อมเสิร์ฟแย้วจ้า เชฟจะยื่นมาเสิร์ฟแบบนี้เลย อิอิ
จานแรกเป็นชุดซีฟู้ดเซ็ทค่ะ เพื่อนๆดูขนาดหอยเชล์สิจ๊ะ กรีสสสสสสสสเลอ แถมสดมากๆ จานที่เห็นนี่ 4 ร้อยกว่าบาทเท่านั้นนะคะ กินคู่กับข้าวผัดกระเทียม สำหรับจานนี้แนะนำให้ทานคู่กับน้ำจิ้มแบบนี้ค่ะ ต่อไปนี้จะเรียกว่าน้ำจิ้มแบบที่ 1
และแล้วก็ถึงเวลาเฉลย ที่เมื่อซักครู่ชิ้งทิ้งคำถามไว้ว่ารู้รึเปล่าว่าที่เห็นเชฟผัดอยู่ คืออะไร เฉลยนะคะ มันคือมันหมู หรือ มันเนื้อ ขึ้นอยู่กับว่าเราชุดอะไรไป ถ้าสั่งเซ็ตหมู ข้าวผัดกระเทียมก็จะมีมันหมูหอมๆเสิร์ฟมาด้วย ซึ่งแตกต่างจากร้านอื่นๆทั่วไป ทำให้ได้ texture กรุบๆเวลาทานข้าวผัดกระเทียม แต่ถ้าใครกลัวอ้วนก็ไม่ต้องทานเข้าไปค่ะ
จานถัดมาเป็นอาหารแนะนำค่ะ เซ็ต Angus Beef ซึ่งเป็นเนื้อวัวคุณภาพระดับพรีเมียมนำเข้าจากอังกฤษเลยนะคะ สั่งระดับความสุกได้ วันนั้นเลือกแบบ Medium rare ค่ะ ซึ่งได้สมใจ บางร้านสั่ง Medium rare กลับได้ Well done >.<
เมนูประเภทเนื้อ หมู หรือไก่ แนะนำให้ทานคู่กับน้ำจิ้มพริกไทยดำจ้า อร่อยมากกกกก เผลอตัวจิ้มน้ำจิ้มเดียวกับซีฟู้ดไปครึ่งจาน ^ ^’ โชคดีนะกลับลำทันเอาครึ่งจานหลัง 555
เซ็ต Angus Beef นี้รักที่สุดเลย เชื่อมั้ยว่านั่งเขียนรีวิวอยู่เนี่ย ท้องร้องไปด้วยเลยค่ะ 555 เนื้อเค้านุ่มมาก แทบละลายในปาก ยิ่งกินแบบ Medium rare ยิ่งฟิน ในเซ็ตมีซุปและยำสาหร่ายมาให้ค่ะ ซึ่งรสชาติอร่อยได้มาตรฐาน
จานต่อมาเป็นเซ็ตหมูคุโรบุตะสเต็ก เสิร์ฟมาพร้อมผัดผักรวมมิตรรถไฟปู๊นๆ ^ ^
จานนี้เสิร์ฟแล้ว แนะนำให้รีบกินค่ะ เพราะเนื้อหมูจะยังคงความฉ่ำและนุ่มมากๆ รสชาติเข้มข้นกล่อมกล่อม อีกเหมือนเคยแนะนำให้ทานคู่กับน้ำจิ้มพริกไทยดำค่ะ มีผัดผักให้กินแนม รู้สึกสบายท้องดีค่ะ
ยังไม่หมดนะคะ เพราะเราไปกัน 3 คน 555 ขอต่อด้วยเมนูนี้ค่า
เซ็ตแซลม่อนเรียงรายมาเต็มจานเบย เนื้อปลาสดค่ะ เป็นชิ้นบางๆดี รสชาติอร่อยได้มาตรฐานอีกแย้ว จานนี้แนะนำให้กินกับน้ำจิ้มแบบแรกเน้อ
และแล้วเมนูอาหารคาวสุดท้ายของวันนั้นก็คือ จานนี้ค่ะ
ขอปิดท้ายด้วยเนื้อสันในอีกจาน บอกแล้วติดใจความนุ่มของเนื้อมากกกกกกกกกกกก จิงๆยอมรับว่าอิ่มแล้วนะ แต่มาทั้งที ต้องเอาให้สุดค่ะ ทำเพื่อผู้อ่านทุกท่าน หรา? ^ ^’ ซึ่งมาถึงจานนี้ถ้าจะลองเปลี่ยนไปจิ้มน้ำจิ้มแบบแรกก็เปลี่ยนบรรยากาศดีค่ะ
และขอตบท้ายด้วยเมนูขนมหวานดังนี้
เมนูเครื่องดื่มที่สั่งกันในวันนั้น มีน้ำมะนาว ชามะนาว และชาเขียวเย็น ดื่มน้ำเย็นๆค่อยชื่นใจหน่อยค่ะ
เอาหล่ะค่ะ มาดูเมนูกันค่ะ แล้วลองนึกดูน้า ว่าอยากสั่งอะไรกันบ้าง เพื่อนๆสามารถสำรวจราคาคร่าวๆได้พร้อมกันเลยค่ะ (ปล. ต้องขออภัยที่ตัวหนังสือไม่ค่อยชัดมา ณ ที่นี้) เก๋มั้ยหล่ะ เมนูเค้าเป็น tablet แบบนี้เลย เจ๋งเน๊าะ
อยากบอกให้สังคมรู้ว่า เรากินหมดทุกจานเลยจ้า แต่เก็บภาพหลักฐานมาได้เท่านี้ ลืมถ่ายเฉย 555
พอกินกันอิ่ม หันไปอีกที คนนี่แน่นร้านเลยค่ะ แถมมีคิวต่อยาวเลยที่หน้าร้าน
อิ่มแล้ว มาเดินย่อยชมบรรยากาศลอนดอนชิคกันซักหน่อยก่อนกลับค่า ใครมาแต่ไม่ทาน แค่มาถ่ายภาพก็คุ้มแร้น ไม่เชื่อ ตามมาจ้า
สรุปแว้
รสชาติอาหาร
- สะอาด รสชาติอร่อย เห็นถึงความพิถีพิถัน ความสดของวัตถุดิบ รสชาติเข้มข้น น่าจะถูกปากคนไทย แต่ที่ตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กันคือ presentation ของเชฟ ที่วาดลีลาให้เราเพลิดเพลินจิงๆ เหมือนเรานั่งอยู่ในโรงแรมหรูๆ
บริการ
- เกือบให้ 3 ผ่านแร้น แต่เนื่องจากไม่แนะนำเรื่องน้ำจิ้ม เลยขอตัด1 คะแนนค่ะ ก็แหม เกือบกลับลำไม่ทัน ^ ^’
ราคา/ ความคุ้มค่า
- เรื่องนี้ให้คะแนนเต็มบวกคะแนนพิศวาสอีก 2 แต้ม อย่างที่เกริ่มไว้ตอนต้นค่ะว่า ปรกติจะเห็นร้านเทปันยากิดีๆแบบนี้ที่โรงแรมหรูๆเท่านั้น ซึ่งไปกัน 2 คน อย่างต่ำๆมี 3 พัน แถมต้องให้ทิปอีก แต่ที่ร้านนี้ เมนูไก่เสต็กอยู่ที่ 155 บาท เท่านั้น! จ่ายแค่นี้ก็ได้ชมลีลาให้ฟินแล้ว จะไปหาได้จากที่ไหนอีกเล่า
เมนูแนะนำมาแล้วห้ามพลาด!
- ถ้าทานเนื้อได้แนะนำ เซ็ต Angus Beef ค่ะ แต่ถ้าทานเนื้อไม่ได้ แนะนำ set seafood และ set หมูคุโรบุตะ เพราะอร่อยโดดเด่น และคุ้มค่า ไว้จิไปลองเมนูอื่นๆอีกค่ะ ฮึ่มๆ >.<
วิธีการเดินทาง
- ไปไม่ยากค่ะ อยู่ถนนพัฒนาการ ติดถนนใหญ่เลย อยู่ซอยระหว่าง 43 กับ 45 และอยู่ติดกับโลตัส สาขาพัฒนาการเลยค่ะ
สิ่งที่อยากให้ปรับปรุง
- นอกจากเรื่องไม่แนะนำน้ำจิ้มยังคิดไม่ออกค่ะ อ้อ! อยากให้มีหลายๆสาขาเลยค่ะ