“รีวิวคลีนซิ่งสูตรน้ำ ใหม่ จาก Biore เช็ดออกทั้งเมคอัพและความมัน และช่วยลดสิว”

   สวัสดีค่าสาวๆ เชื่อว่าทุกคนต้องแต่งหน้าไปทำงาน/ไปเรืยนเพื่อความสวยงาม
และส่งเสริมบุคลิกภาพให้ตัวเองกันใช่มะ อาจจะแต่งเบาๆ หรือ
จัดเต็มก็คงแล้วแต่หน้าที่การงานของแต่ละคนเนอะ

อีฟเองก็แต่งหน้าทุกวัน และที่ผ่านมาอีฟใช้ทั้ง Cleansing water / Cleansing oilหลากหลายแบรนด์
เพราะชอบลองของใหม่ๆไปเรื่อยค่ะ และเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในชีวิต
ถึงไม่แต่งหน้าอีฟก็จะใช้ Cleansing เช็ดเอาสิ่งสกปรก พวกฝุ่น มลภาวะออกจากผิวหน้าก่อนค่ะ

และตอนนี้ Biore เค้ามี Cleansing Water สูตรใหม่ออกมา เห็นว่าน่าสนใจดี
ปกติก็เป็นยี่ห้อที่คุ้นเคยอยู่แล้ว เพราะเคยใช้มาก่อน

สูตรนี้เค้าบอกว่ามี Micelles เข้มข้น และผสานน้ำแร่ Japan Alps ซึ่งเป็นแบรนด์เดียว!ที่เป็น Cleansing Water สูตรน้ำแร่ โดยออกมา 2 สูตรที่เหมาะกับผิวสาวไทยอย่างเราด้วย

1. Biore Perfect Cleansing Water สูตร Oil Clear (ขวดสีฟ้า)  สำหรับผิวผสม-ผิวมัน ช่วยให้ผิวหน้าไม่มันและไม่ก่อให้เกิดสิวอุดตัน
2. Biore Perfect Cleansing Water สูตร Soften up (ขวดสีชมพู) สำหรับผิวธรรมดา - ผิวแห้ง ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น นุ่ม ไม่ก่อให้เกิดสิวอุดตัน

ทั้ง 2 สูตร เป็นสูตร Anti-Acne ช่วยลดปัญหาสิว และมีการพัฒนาเทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่น
เพิ่ม Micelles เข้มข้น โดยที่ micelles ที่เข้มข้นกว่าเดิมจะช่วยดูดจับเครื่องสำอาง
และความมันออกมาได้ดียิ่งขึ้น ถึงรูขุมขน ทำให้สะอาดกว่าตั้งแต่ครั้งแรกที่เช็ด
และ มีส่วนผสมจากน้ำแร่ธรรมชาติแหล่งที่มาจาก Japan Alps ซึ่งเพื่อนๆรู้มั้ยว่าน้ำแร่จะช่วยทำให้ผิวเนียนใสด้วยนะ

นอกจากนั้น Biore Perfect Cleansing Water สูตรใหม่นี้จะช่วยรักษาความชุ่มน้ำของ Cleansing Water
ให้อยู่ในสำลีได้นานขึ้น ทำให้ไม่ต้องใช้เยอะ ไม่ต้องเช็ดซ้ำๆหลายๆรอบ ไม่ต้องถูแรงก็ออกและสะอาดด้วย
เช็ดเมคอัพและความมันบนผิวออกได้หมดจ้า และสามารถเช็ดรอบดวงตาได้ด้วย ดีงาม

ทางแบรนด์ เค้าบอกว่า Cleansing ตัวนี้การันตีความอ่อนโยน

1. มีการทดสออบอาการแพ้มาแล้วว่าไม่ก่อให้เกิดการแพ้
2. ใช้บริเวณรอบดวงตาได้
3. ไม่อุดตัน
4. ค่า PH เทียบเท่าผิวหน้า
5. ไม่มีแอลกอฮอล์
6. ไม่มีสี
7. ไม่มีน้ำหอม

วันนี้จะลองพิสูจน์ประสิทธิภาพกับ Cleansing Water ใน Drugstore ตัวอื่นๆนะคะ

เปรียบเทียบกับอีก 3 แบรนด์นะคะ ตามนี้เลย ขออนุญาตใช้ตัวย่อตามนี้นะจ้ะ

อีฟแบ่งแขนออกเป็น 4 ส่วนนะคะ เครื่องสำอางที่ใช้ทดสอบเป็นเครื่องสำอางที่ติดทนมากๆและกันน้ำทั้งหมดจ้า

เปรียบเทียบหลังเช็ด 1 ครั้ง

ออกมาปุ๊ปปป ของ Biore หลุดออกเยอะพอสมควร สี เฉดดิ้ง ลิป eyeliner จางลง ไม่เป็นขุย
Brand N เฉดดิ้งก็พอหลุดบ้าง eyeliner หลุดมาเป็นขุยๆ ส่วนลิปหลุดน้อยมากก
Brand B1 พอๆกับ Biore นะ แต่ Shading หลุดออกน้อยกว่า
Brand B2 Shading หลุดออกดีเลย ส่วน eyeliner ดูไม่ค่อยหลุดออกเท่าไหร่ ลิปออกพอประมาณค่ะ

หลังจากที่เราทำการเช็ดไปเรื่อยๆอีก 2 ครั้ง

Biore หลุดออกหมดเลยจะมีรอยลิปสีชมพูติดอยู่จางๆๆนิ๊ดดเดียวแค่นั้นเอง
Brand N ทุกอย่างยังเหลืองจางๆและ eyeliner หลุดออกมาเป็นขุยๆ
Brand B1 ทุกอย่างหลุดหมดเหลือแค่สีลิปจางๆ
Brand B2 ทุกอย่างหลุดหมดเหลือแค่สีลิปจางๆ

หลังจากที่เราทำการเช็ดไปอีกประมาณ 1 ครั้ง

Biore สะอาดหมดจด
Brand N พยายามถูแล้วจริงๆจนเริ่มแสบแขน คราบลิปสติกยังออกไม่หมด
Brand B1 สะอาดหมดจด
Brand B2 เหลือรอยลิปจางๆเบาๆ

:: สรุปว่า ::

• Biore ทำความสะอาดได้ดีมากๆเช็ดเมคอัพหลุดออกเร็วดี เอาไป 5 / 5
• Brand N ถูๆจนแสบแขนแล้วคราบลิปสติกยังไม่หลุด แต่ เฉดดิ้งกับ eyeliner
  หลุดออกแบบเป็นขุยๆ เอาไป 2 / 5
• Brand B1 สะอาดหมดจด แต่ต้องเช็ดนานกว่า Biore เอาไป 4.5 / 5
• Brand B2 สะอาดหมดจดเลยจ้า เหลือแค่รอยลิปจางๆเบาๆ  เอาไป 4 / 5

อีฟจะเช็ดบนผิวหน้า โดยข้างขวาในภาพ จะใช้ Biore

ส่วนข้างซ้ายในภาพ จะใช้ Brand B1 ค่ะ เพราะเป็นแบรนด์ที่ทำความสะอาดได้ดีพอๆกัน
อีฟเท Cleansing ออกมาจนชุ่มสำลีทั่วทั่งแผ่นปริมาณพอๆกันนะคะ

อีฟแต่งหน้าโดยเขียน eyeliner ปัดมาสคาร่าแบบกันน้ำ รองพื้นกันน้ำ
ลิปติดทนสุดๆ (ตัว Maybelline ที่ใช้ทดสอบนั่นแหละค่า) เอาเป็นว่ากันน้ำทั้งหมด

เริ่มปาดไปบนผิวหน้าครั้งแรก

เช็ดรองพื้นออกทั้งหมด อีฟใช้สำลีทั้งสองด้านเลยนะ อีฟว่าสะอาดพอๆกันค่ะ
แต่ฝั่ง Biore สามารถเช็ดออกได้มากกว่าแม้เช็ดไม่กี่รอบ

เช็ดรอบดวงตาโดยกดทิ้งไว้ฝั่งละ 20 วินาที

ฝั่ง Biore เช็ด  eyeliner ออกได้เยอะกว่า ส่วนมาสคาร่าก็ละลายออกมาได้ดีกว่า
อีกฝั่ง eyeliner ก็หลุดออกนะ แต่มาสคาร่าไม่ค่อยละลาย มันจะออกมาเป็นขุยๆเม็ดๆ

หลังจากเช็ดจนหมด อันนี้พูดได้เลยว่าฝั่ง Biore สามารถละลายมาสคาร่าออกมาได้ดีในรอบการเช็ดที่น้อยกว่า
แม้เช็ดมาสคาร่ามันกันน้ำ

ส่วนฝั่ง Brand B1 ก็ล้างออกนะ แต่มาสคาร่าออกมาเป็นผงๆ เม็ดๆ มันทำให้เข้าตาบ้างแอบระคายตานิดนึงค่ะ
แต่ไม่ได้แสบตาเพราะ Cleansing นะ

ส่วนลิปสติกเช็ดไปประมาณ 3 ครั้ง ฝั่ง Biore สีหลุดออกมามากกว่า Brand B1 ซึ่งต้องเช็ดหลายคร้ังมากกว่า
เพราะลิปสีค่อนข้างแน่น

โดยรวม แบบไม่ได้เข้าข้างแบรนด์ใดนะ ทาง Biore รู้สึกว่าจะดูด Makeup ออกมาได้ดีเลย ไม่ต้องเช็ดซ้ำหลายๆรอบ
ทำให้ไม่ระคายเคืองผิว สำลียังคงชุ่มน้ำ สะอาด ไม่มีความมันสบายผิว
ทาง Brand B1 ก็ทำได้ดี แต่ต้องเช็ดหลายรอบกว่าจะสะอาด ใช้ไปสักพักสำลีเริ่มแห้งเร็วกว่า

หลังจากเช็ดหน้าแล้วสำลีของทาง Biore ยังชุ่มน้ำมากกว่า และไม่ยู่ยี่เท่าอีกฝั่ง สังเกตได้จากใยของสำลีว่ามันจะเป็นขุยๆออกมา เพราะว่าเช็ดหลายรอบมากกว่าและ Cleansing เริ่มเหือดแห้งไปแล้ว 

สำหรับตัวนี้เค้าบอกว่าสูตร Oil Clear สามารถลดความมันส่วนเกิน เลยจะทดสอบความมันบนในหน้า
แต่เนื่องจากว่าช่วงนี้อีฟหน้าไม่ค่อยมันเท่าไหร่ ช่วงแก้มก็เลยไม่เกิดความมันใดๆขึ้นเลยทั้งคู่ค่ะ

ลองทิ้งไว้สักพักนึงประมาณ 5นาที แล้วซับให้ทั่วทั้งหน้า ทั้งแก้มและจมูกเลยค่ะ
(ยังไม่ได้ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าหรือโฟมล้างหน้าใดๆตามนะ) ซึ่งแบรนด์ B1 ยังทิ้งความมันหลงเหลือหลังใช้ผลิตภัณฑ์ แต่ Bioreไม่เหลือความมันตกค้างใดใด

เรามาสรุปข้อดีและข้อเสียของ Biore Perfect Cleansing Water กันนะ

ข้อดีก่อนแล้วกัน

1. ทั้งสองสูตรเป็นสูตร Micelles เข้มข้นกว่าเดิม และมีน้ำแร่ธรรมชาติ เช็ดแล้วสบาย ผิวหน้าดูเนียนใสดีค่ะ
2. ลดจำนวนครั้งที่เช็ดหน้าได้ ทำให้ไม่ต้องใช้สำลีถูหน้าบ่อยเกินไป ไม่ทำให้ผิวระคายเคือง
3. เช็ดรอบดวงตาได้ ไม่ก่อให้เกิดสิว
4. ลดความมันส่วนเกิน

ข้อเสีย

1. ฉลากบนขวด งงๆนิดนึง แบบเขียนไม่ชัดเจนว่าแต่ละสูตรต่างกันยังไง สีฟ้าสำหรับคนผิวมัน สีชมพูสำหรับคนผิวแห้ง-ธรรมดา แต่ส่วนอื่นๆเหมือนกันหมดเลย

เพิ่มเติมนิดนึงค่ะ ที่บอกว่าใช้เช็ดรอบดวงตาได้ แต่ถ้าวันไหนที่แต่งตาหนักมากๆแบบ smoky eye จัดเต็ม
ฟาดกลิตเตอร์มาเต็มที่ อีฟว่าเช็ดด้วย Eye&Lip Make up Remover โดยเฉพาะก็ดีที่สุดค่ะ
เพราะรอบดวงตานี่บอบบางมากๆอะไรที่ทำมาเฉพาะย่อมดีกว่าอยู่แล้วจ้า

วันนี้ลาไปก่อนนะคะ แล้วเราพบกันใหม่ Review หน้าน๊า   บายๆค่า ^^