❤..How To..❤ Working Day แต่งหน้าไปทำงานให้สวยเร็วทันใจ
สวัสดีค่ะสาวๆทุกคน
นี่ก็เป็น Blog แรกของอีฟในเวป sanook.com นะคะ
ยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวไว้ ณ ที่นี้นะคะทุกคน
ประเดิมด้วย Look แรก เป็น Look ที่สาวๆหลายคนในแฟนเพจของอีฟ request มาว่า
อยากได้ลุคที่แต่งไปทำงานไม่เอาแบ๊ว
เพราะงานที่ทำต้องอาศัยความน่าเชื่อถือ มาลิปชมพูๆก็คงไม่เหมาะและก็ขอแบบแต่งง่ายๆและรวดเร็วด้วย
ขออีกนิดด ขอติดทนนานไม่เยิ้มระหว่างวัน โอ้วว ขอจำกัดเยอะจริงๆ
วันนี้เค้าเลยจัดให้คิดว่าสาวๆส่วนใหญ่สามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับตัวเองได้ไม่ยากเนอะ
ฺBefore & After ตามระเบียบ
งั้นเรามาเริ่มแต่งกันเลยค่ะ
มาเริ่มที่งานผิว
อีฟเป็นคนที่ผิวมันดังนั้นจะลง Base Kiss เพื่อ Block ความมันไว้ ใครผิวแห้งข้ามไปนะคะ
1 อีฟใต้ตาดำ ดังนั้นจะลง CC Eye Cream เพื่อปรับสีผิวใต้ตาให้กระจ่างใสขึ้น
2 ลงคอนซิลเลอร์บริเวณรอยสิว และรอยแดงข้างจมูก
3 ใช้ CC Cream จาก Innisfree เพื่อปรับสีผิวให้ขาวกระจ่างใสดูตื่นนอนแล้ว
4 ใช้แป้งผสมรองพื้นปัดเบาๆทั่วหน้า
2 ลงคอนซิลเลอร์บริเวณรอยสิว และรอยแดงข้างจมูก
3 ใช้ CC Cream จาก Innisfree เพื่อปรับสีผิวให้ขาวกระจ่างใสดูตื่นนอนแล้ว
4 ใช้แป้งผสมรองพื้นปัดเบาๆทั่วหน้า
ขั้นต่อมาอีฟจะให้ความสำคัญกับการปรับรูปหน้าก่อนสิ่งอื่นใดเสมอ
ไปทำงานหน้าก็ต้องเล็ก ดั้งก็ต้องมีนะ 555
ไปทำงานหน้าก็ต้องเล็ก ดั้งก็ต้องมีนะ 555
Shading บริเวณกรอบหน้า เพื่อให้หน้าเราดูไม่แบน มีโครงหน้าชัดเจน
จากนั้นก็ไล้ดั้งถ้ารีบจริงๆ แค่นี้คือจบสำหรับเรานะ ลิปติกไปทาในรถ คิ้วไปเขียนที่ทำงานต่อ 555แต่ถ้ามีเวลาอีกหน่อยสัก 5-10 นาทีก็จัดต่อเลย
จากนั้นก็ไล้ดั้งถ้ารีบจริงๆ แค่นี้คือจบสำหรับเรานะ ลิปติกไปทาในรถ คิ้วไปเขียนที่ทำงานต่อ 555แต่ถ้ามีเวลาอีกหน่อยสัก 5-10 นาทีก็จัดต่อเลย
1. ทา eyeshadow อีฟใช้แค่สีเดียว เป็นสีน้ำตาลตุ่นๆ บีบออกจากหลอดแล้วทาไปเลยปื้ดเดียวจบ
อีฟใช้ของ essence สี 06 UK's Stonehenge มันดีมากเว่อร์ ไม่ตกร่อง ไม่เยิ้ม ไม่มัน
2. กรีด eyeliner ให้ชิดโคนขนตา
3. เขียนขอบตาล่างด้วยดินสอสีน้ำตาลเข้ม
4. เขียนหัวตาด้วย eyeliner สีขาว
5. ดัดขนตา ปัดมาสคาร่า จบ !จริงๆแล้วมาสคาร่าเป็นสิ่งสำคัญนะ ถึงไม่กรีด eyeliner ก็ปัดขนตาสักหน่อยก็ยังดีค่ะ
เพราะการปัดมาสคาร่าจะทำให้เส้นขนตาเราไม่เป็นสีขาวๆจากการทาแป้ง
จะช่วยทำให้เราดูเหมือนแต่งหน้าเสร็จแล้ว ถึงแม้จะมีอะไรๆให้เติมอีกมากมายก็ตาม 555ต่อมาเขียนคิ้วกัน
อีฟใช้ของ essence สี 06 UK's Stonehenge มันดีมากเว่อร์ ไม่ตกร่อง ไม่เยิ้ม ไม่มัน
2. กรีด eyeliner ให้ชิดโคนขนตา
3. เขียนขอบตาล่างด้วยดินสอสีน้ำตาลเข้ม
4. เขียนหัวตาด้วย eyeliner สีขาว
5. ดัดขนตา ปัดมาสคาร่า จบ !จริงๆแล้วมาสคาร่าเป็นสิ่งสำคัญนะ ถึงไม่กรีด eyeliner ก็ปัดขนตาสักหน่อยก็ยังดีค่ะ
เพราะการปัดมาสคาร่าจะทำให้เส้นขนตาเราไม่เป็นสีขาวๆจากการทาแป้ง
จะช่วยทำให้เราดูเหมือนแต่งหน้าเสร็จแล้ว ถึงแม้จะมีอะไรๆให้เติมอีกมากมายก็ตาม 555ต่อมาเขียนคิ้วกัน
เราคิ้วบางมาก แถมยังแหว่งอีก ยังไงก็ต้องเขียน
แต่เราเลือกเขียนให้เป็นธรรมชาติ
ไม่ให้คิ้วดูแข็งจนเกินไป
แต่เราเลือกเขียนให้เป็นธรรมชาติ
ไม่ให้คิ้วดูแข็งจนเกินไป
วิธีการดูได้จากรุปภาพเลยจ้า
ปัดแก้มและทาปาก
เลือกสีแก้มที่ใกล้เคียงสีธรรมชาติของแก้มเรามากที่สุด เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ
โดยจะใช้แปรงปัดเบาๆพอค่ะสุดท้ายทาปาก
โดยจะใช้แปรงปัดเบาๆพอค่ะสุดท้ายทาปาก
1. อีฟใช้นิ้วแตะๆๆลิปติก จาก Wet & Wild สี Cinnamon spice แตะให้ทั่วปากรองไว้ก่อน
สีนี้ติดแน่น ทนนาน ไปกินชาบูบังไม่หลุดเลย!
2. ใช้สี Chocolate velvet จาก Revlon ทาทับ และเก็บขอบปากให้เรียบร้อยแค่นี้ก็จะได้สีปากสีแดงที่ไม่ฉูดฉาด และดูสุภาพ เป็นเงางาม สลวยสวยเก๋(ไม่ใช่ละ)ไปทำงานได้แล้วเสร็จแล้วค่าาา
สีนี้ติดแน่น ทนนาน ไปกินชาบูบังไม่หลุดเลย!
2. ใช้สี Chocolate velvet จาก Revlon ทาทับ และเก็บขอบปากให้เรียบร้อยแค่นี้ก็จะได้สีปากสีแดงที่ไม่ฉูดฉาด และดูสุภาพ เป็นเงางาม สลวยสวยเก๋(ไม่ใช่ละ)ไปทำงานได้แล้วเสร็จแล้วค่าาา
.
.
.
ก็หวังว่าเพื่อนๆจะเอาไปแต่งตามกันได้ไม่ยากนะคะ
ถ้าหากผิดพลาดประการใดก็ติชมกันได้ จะพัฒนา How to ต่อไปเรื่อยๆจ้าช่วงนี้ก็โค้งสุดท้ายของปี ขอให้สู้ๆกับการทำงานนะคะ
ทำงานจ้องคอมนานๆก็บริหารลูกตาโดยการพักสายตา กรอกตาไปมา ยืดเส้นยืดสายบ้างนะคะ
จะได้ห่างไกลจากโรค office syndrome กันเน้อวันนี้ต้องไปแล้ว
พบกันใหม่ How to หน้าบายยยยๆ
ถ้าหากผิดพลาดประการใดก็ติชมกันได้ จะพัฒนา How to ต่อไปเรื่อยๆจ้าช่วงนี้ก็โค้งสุดท้ายของปี ขอให้สู้ๆกับการทำงานนะคะ
ทำงานจ้องคอมนานๆก็บริหารลูกตาโดยการพักสายตา กรอกตาไปมา ยืดเส้นยืดสายบ้างนะคะ
จะได้ห่างไกลจากโรค office syndrome กันเน้อวันนี้ต้องไปแล้ว
พบกันใหม่ How to หน้าบายยยยๆ
ถ้าเพื่อนๆอยากพูดคุยหรือมีข้อสงสัยอะไรก็เข้าไปที่เพจอีฟได้นะค้า
^^
Facebook Fanpage : Evefeemakeup
IG : cooky_evefee
Blog : www.bemyeve.com