เหตุผลที่ทำให้ต้องเปลี่ยนงาน
คนส่วนใหญ่มักจะไฟแรงตอนเรียนจบใหม่ๆ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จะขยันหางานดีๆให้กับตัวเอง แต่เมื่อเวลาผ่านไปไฟก็ย่อมมอดไปตามกาลเวลา ทุกวันนี้เราอาจทนทำงานนี้อยู่เพราะไม่รู้จะไปที่ไหน หรือกลัวว่างานใหม่จะแย่กว่าเดิมลองทดสอบดูว่า ถ้างานของเรามีลักษณะดังต่อไปนี้ นั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเราสมควรหางานใหม่ได้แล้ว
งานที่ทำย่ำอยู่กับที่ หากงานที่ทำอยู่ไม่ทำให้เราได้พัฒนาศักยภาพ ไม่ทำให้เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆเพิ่มเติม หรือจำเจเป็นกิจวัตรเสียจนหลับตาทำได้ อาจต้องพิจารณาหางานที่ท้าทายมากกว่านี้ อย่าลืมว่าเราไม่ได้ทำงานนี้ไปตลอดชีวิต แต่หากว่าความรู้ความสามารถในอีกห้าปีข้างหน้าของเราไม่ได้พัฒนาไปจากเมื่อ ห้าปีที่ผ่านมา โอกาสได้งานดีๆในอนาคตคงเป็นไปได้ยาก
เจ้านายไม่เห็นค่า เงินเดือนที่ได้รับอยู่เป็นอัตราเดิมมาหลายปีแล้ว แถมยังไม่มีวี่แววว่าจะได้เพิ่มหรือเลื่อนขั้น มิหนำซ้ำเจ้านายยังไม่เคยมอบหมายโปรเจ็กต์สำคัญๆให้ทำอีกและไม่เคยเรียกให้ เข้าประชุมเรื่องใหญ่ๆ หรือหาคนที่ด้อยประสบการณ์กว่ามานั่งแท่นเป็นหัวหน้าเรา เมื่อเจ้านายไม่เห็นค่าของเราขนาดนี้ จะเปลี่ยนความคิดเขาก็คงเป็นเรื่องยากเกินไป ดังนั้นอย่ารอช้าที่จะหางานใหม่ได้แล้ว
งานไม่ตรงใจ ต่อให้งานที่กำลังทำมีตำแหน่งสูง และเงินเดือนก็สูง แถมบริษัทยังมีชื่อเสียงโด่งดัง แต่งานกลับไม่ใช่งานที่เรารัก อาจต้องคิดพิจารณากันใหม่ว่าควรลาออกจากงานนี้หรือไม่ จริงอยู่ว่าเงินเดือนและตำแหน่งหน้าที่อาจชดเชยโอกาสที่จะได้ทำงานในฝัน แต่อย่าลืมว่าเงินทองและตำแหน่งไม่อาจซื้อความพึงพอใจในเรื่องงานได้เสมอไป ตามปกติคนเราใช้เวลากับการทำงานมากกว่ากิจกรรมอื่นๆในแต่ละวัน หากงานที่ทำอยู่ไม่ได้ตอบสนองความพอใจแสดงว่าชีวิตคงมีความสุขได้ไม่เต็มที่
แน่ใจว่าได้ไปจริง ก่อนยื่นจดหมายลา ขอให้มั่นใจว่ามีงานใหม่รองรับแล้ว ตราบใดที่ยังไม่ได้รับการยืนยันแน่ชัดจากนายจ้างใหม่ อย่าเพิ่งปล่อยข่าวออกไปโดยเด็ดขาดเพราะอะไรๆย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ เช่น อยู่ดีๆบริษัทใหม่เปลี่ยนผู้บริหารกะทันหัน แล้วล้มโครงการทุกอย่างหมดรวมทั้งการว่าจ้างพนักงานใหม่ ฉะนั้นเมื่อจะยื่นใบลาออก ตรวจสอบกับบริษัทใหม่ให้แน่ชัดว่าเราจะไปเริ่มงานใหม่ตามเวลาที่กำหนดจริงๆ และต้องมีสัญญาว่าจ้างงานอยู่ในมือแล้วก่อนลาออก
กำลังใช้อารมณ์ ถามตัวเองว่าที่ยื่นใบลาออกเพราะต้องการประชดเจ้านาย ต้องการตอบโต้อีกฝ่าย หรือเป็นการประกาศความไม่พอใจออกมาใช่ไหม ถ้าคำตอบคือใช่ ถามตัวเองต่อไปอีกว่า คุ้มหรือไม่ที่ใช้ตัวเองเป็นเหยื่อของอารมณ์ แม้ว่าผลของการยื่นใบลาออกอาจสร้างความสะใจให้เราได้วินาทีนั้น แต่อย่าลืมว่ามันเป็นความสะใจที่ต้องแลกกับเงินเดือน งานที่มั่นคง และการต้องอยู่ในสภาพตกงานไปอีกระยะหนึ่งอย่าลืมว่าฝ่ายที่ถูกเราตอบโต้อาจ เสียอารมณ์ไปแค่ไม่กี่วัน (หรือไม่กี่ชั่วโมง) แต่เราต้องแบกรับความวุ่นวายหลังจากนั้นอีกเป็นเดือน
ขอบคุณข้อมูลประกอบ : http://www.elle.co.th
Story : จิตราพร โนโตดะ