เรื่องที่คุณไม่เคยรู้เกี่ยวกับ "เพชร"
1. เพชรแตกได้
แม้ว่าเพชรจะเป็นสสารที่ขึ้นชื่อว่าแข็งที่สุดในโลก แต่ในความแข็งที่ได้รับการทดสอบโดยโมห์ สเกล นั้นเป็น "ความแข็ง" ของความทนทานรอยขีดข่วน ที่เรารู้กันว่า ไม่มีวัตถุไหนในโลกที่ทำให้เพชรเป็นรอยได้ แต่เพชรก็ยังแตกได้อยู่ดี ถ้าหล่นกระแทกพื้นแข็งๆ ในมุมที่เป็นจุดอ่อน เพชรก็สามารถแตกบิ่นได้เหมือนกันนะจะบอกให้
2. แหวนเพชร ควรใส่เพื่อ "ประดับ" เท่านั้น
ขึ้นชื่อว่า "เครื่องประดับ" เราไม่แนะนำให้ใส่แบบถูลู่ถูกัง ล้างจาน ทำอาหาร ป้อนนมลูก แต่ควรใส่เมื่อต้องการ "ประดับ" เพราะเครื่องประดับไม่ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการสมบุกสมบัน ดังนั้น ถอดเก็บสักนิด ชีวิตแหวนเพชรจะยืนยาวขึ้นเยอะเลยจ้ะ
3. เมื่อเพชรเม็ดใหญ่ขึ้น ราคาต่อกะรัตจะสูงขึ้น
ถ้าเพชร 1 กะรัตราคา 200,000 บาท เพชร 2 กะรัตในสเป็คเดียวกันจะราคาโดดลิ่วล่องลอยไปไกลกว่า 400,000 บาท เพราะราคาของเพชรจะสูงขึ้น เมื่อเพชรเม็ดใหญ่ขึ้น ดังนั้นคุณอาจจะต้องเก็บเงินเพิ่มอีกเป็นสามเท่า กว่าจะอัพเกรดเพชรได้ตามขนาดที่ตั้งใจ
4. เพชรกับทอง คือการลงทุนที่ต่างกันแบบฟ้ากับเหว
ฟ้ากับเหวในที่นี้คือความยากง่ายในการซื้อ เพราะทองมีการซื้อขายกันราคาเดียว ประกาศชัดเจนหน้าร้านทุกวันไม่ยุ่งยาก จึงทำให้การซื้อง่ายแสนง่าย พอมาเทียบกับเพชรซึ่งมีหลายคุณภาพ ทำให้ทุกคนถึงกับเอ่ยปากบ่นว่าจะยากไปไหน? หารู้ไม่ว่าธรรมชาติของทรัพย์สินเพื่อการลงทุนแต่ละชนิดนั้นไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ดังนั้น การนำเพชรมาเทียบกับทองจึงเป็นแค่มวย 1 คู่ ซึ่งยังมีการลงทุนอีกหลายประเภทที่ยากกว่าการซื้อเพชร นั่นก็ได้แก่การซื้อที่ดิน อสังหาริมทรัพย์และการซื้อหุ้นนั่นเองล่ะจร้า
5. ราคาเพชรถูกกำหนดด้วยคุณภาพ
สิ่งที่ทำให้ราคาของเพชรแต่ละเม็ดไม่เท่ากัน ก็คือคุณภาพของเพชรแต่ละเม็ด ซึ่งประกอบไปด้วย 4 คุณสมบัติอันได้แก่เรื่องของน้ำหนัก สี ความสะอาดและการเจียระไน ถ้าหากรู้ไม่ครบ 4 อย่างนี้แล้วก็ยากที่จะบอกราคาได้ ไม่ต่างอะไรจากการซื้อรถมือสองที่หากไม่มีประสบการณ์แล้วก็ยากจะบอกว่า คันไหนเคยชนหนัก คันไหนย้อมแมวกรอเลขไมล์ ไม่ต่างจากการซื้อเพชรแบบดูไม่เป็น ซึ่งอาจจะมีโอกาสซื้อผิดคุณภาพสูงทีเดียว
ภาพจาก http://retailer.gia.edu/
More Blogs from Doctor Diamond at : www.diamondguru.co.th