เพชรเหลี่ยมกุหลาบ Single Cut Diamond
Single Cut Diamond หรือที่เรียกว่า เพชรเหลี่ยมกุหลาบ เป็นเหลี่ยมที่ได้รับการเจียระไนมาเป็นเวลาช้านาน ก่อนที่จะมีการค้นพบการเจียระไนที่ใสแจ๋วกว่าเดิม นั่นก็คือ เหลี่ยมเกสร ที่เราใช้กันอยู่ในทุกวันนี้
เพชรเหลี่ยมกุหลาบน่าจะแผลงมาจากชื่อ Rose Cut ที่มีเหลี่ยมแค่ 17 เหลี่ยม (ถ้ามีการตัดก้นเพชรด้วยก็จะเพิ่มเป็น 18 เหลี่ยม) ซึ่งพอเพชรมีเหลี่ยมน้อย ก็ทำให้แสงที่ตกลงในตัวเพชร มีเหลี่ยมมุมในการวิ่งชนซ้ายขวาหน้าหลังน้อย ผลก็คือ แสงสีรุ้งวิ้งๆ ที่สะท้อนกลับเข้าตาเรามันก็น้อยไปด้วยโดยปริยาย
ด้วยวิวัฒนาการที่ยังไม่ได้แจ่มเท่าปัจจุบัน ทำให้การเจียระไนเพชรในสมัยนั้นมีเหลี่ยมไม่เยอะ พัฒนากันมาตั้งแต่นับพันปีก่อน ที่ได้นำเพชรมาตัดเป็นก้อนๆ ดูแล้วหน้าตาขมุกขมัวจนอดคิดไม่ได้ว่านี่เพชรหรือเปล่า? ขอให้อย่าได้สงสัย เพราะสมัยนั้นเค้าเจียกันได้แค่นี้แหละ
หรือไม่ก็เจียแบบตัดก้นแบนแต๊ด คล้ายกับเม็ดคริสตัลชวารอฟสกี้ตอนนี้ ที่ก้นแบนราบและใช้วิธีติดกาวเวลาต้องการนำไปติดกับวัตถุ // เอ่อ... แอบบอกกันตรงนี้ก่อนเลยว่าการฝังเพชรไม่ได้ใช้กาวติดนะจ๊ะ
จะว่าไป ก็ต้องขอบคุณเจ้าเพชรเหลี่ยมกุหลาบอันนี้ เพราะนี่ถือเป็นบรรพบุรุษของเพชรรุ่นปัจจุบันที่เจียออกมาได้สวยใส แสงไฟอลังการวูบวาบที่เราได้ใช้กันอยู่นี่ทีเดียว
แถมให้อีกนิดว่า ตอนนี้ อย่าได้เที่ยวถามร้านเพชรไหนเชียว ว่าเพชรที่ใช้เป็นเหลี่ยมกุหลาบหรือเกสร เพราะจะเป็นการปล่อยไก่ตัวใหญ่มาก ตอนนี้เพชรกุหลาบแทบจะสูญหายตายจากไปหมดแล้ว ใครมาสั่งอยากได้สักกะรัตนี่ถึงกับเครียด เพราะไม่รู้จะไปหาที่ไหนให้
ถ้าจะเจอ ก็เจอแค่ในนาฬิการาคาไม่แพงนักที่เคลมว่าฝังเพชร ซึ่งมีเม็ดจิ๋วอยู่เม็ดเดียว หรือเครื่องรางของขลังที่นำเพชรมาประกอบแล้วบอกว่า นี่จี้ฝังเพชรนะ .. คือมันก็เพชรจริงแหละ แต่เป็นเพชรกุหลาบเม็ดจิ๋วเม็ดเดียว ซึ่งมูลค่าแค่หลักร้อย
แต่เอามาฝังให้ฟังดูแพงขึ้นเท่านั้นเองล่ะจ้ะ