:: รีวิวเปรียบเทียบ Cleansing Water 5 ยี่ห้อ สุดฮิต ::
สวัสดีค่ะ วันนี้วาจะมารีวิว Cleansing Water ให้ได้ชมกัน จริงๆวามี 10 กว่ายี่ห้อเลย แต่ขอหยิบมาพูดถึงแค่ 5 ยี่ห้อก่อน ที่หยิบใช้บ่อยๆ จริงๆการหยิบมาเปรียบเทียบค่อนข้างที่จะยากนะ ทั้งในเรื่องความแตกต่างของราคา ปริมาณ แล้วก็ความหาซื้อยากง่าย แต่ละตัวมีจุดเด่นต่างกันไป แต่ยังไงวันนี้ที่หยิบมาพูดถึง ก็น่าจะเป็นยี่ห้อคุ้นๆกันอยู่และราคาไม่ห่างกันมากนักค่ะ
Cleansing Water โดยส่วนตัวแล้ว วาเชื่อว่ามันสามารถทำความสะอาดได้พอๆกัน แต่ถ้าเอามาวัดกันในเรื่องของ เวลาที่ใช้ในการทำความสะอาดเครื่องสำอางค์แต่ละครั้ง แบรนด์ไหนจะเช็ดได้สะอาดและไวที่สุด? ตามปกติเราก็จะหยิบ ปั้มใส่สำลี แล้วก็เช็ดถูๆไปเรื่อยเปื่อย จนเราเห็นว่ามันสะอาดแล้ว แต่บางทีก็ลืมคิดไปว่า สะอาดก็จริง แต่ใช้เวลาไปนานกว่ายี่ห้ออื่นไหม ยังไง เลยเกิดเป็นรีวิวนี้ขึ้นมาค่ะ
Cleansing Water 5 แบรนด์ที่หยิบมา (เรียงจากซ้ายไปขวา) ก็คือ
NIVEA Make Up Clear Cleansing Water (สีเขียว Bright Acne Oil Control)
Bifesta Cleansing Lotion Sebum (สีม่วง Brightup)
Biore Makeup Remover Perfect Cleansing Water
Smooth E Extra Sensitive Makeup Cleansing Water
Purevivi Cleansing Lotion
เปรียบเทียบ ปริมาณ และ ราคา ของแต่ละยี่ห้อ
NIVEA ปริมาณ 200ml ราคา 189 บาท
Bifesta ปริมาณ 300ml ราคา 390 บาท
Biore ปริมาณ 300ml ราคา 390 บาท
Smooth E ปริมาณ 300ml ราคา 490 บาท
Purevivi ปริมาณ 500ml ราคา 490 บาท
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เปรียบเทียบแพคเกจผลิตภัณฑ์ ความสะดวกในการใช้ * ความเห็นส่วนตัว
จากผลิตภัณฑ์ทั้ง 5 ตัวนี้ ขอเรียงลำดับ พร้อม Comment ไปด้วยในตัวเลยนะคะ
อันดับที่ 1 ยกให้ Biore และ Bifesta เป็นหัวปั๊ม กดใช้งานง่าย คุมปริมาณการใช้ได้ ไม่หกเลอะเทอะ ไม่เปลือง ถ้าจะพกพาก็มีตัวลอคที่คอขวดได้ เหมือนกันเป๊ะ
อันดับที่ 2 ยกให้ NIVEA และ Purevivi เป็นฝาเปิดปิด ดันขึ้น กดลง ความแน่นปิดสนิทใช้ได้ทั้งคู่ แต่ NIVEA เหมาะกับการพกพามากกว่า เพราะขวดเล็กกว่า
อันดับที่ 3 ยกให้ Smooth E ฝาขวดออกแบบมาให้ใช้งานง่าย แต่ยาก กดปั้มออกมาทีนึง มันไม่พอดีกับการใช้งานแต่ละครั้ง รู้สึกว่า มากไปน้อยไปตลอด ยิ่งถ้าจะกดใส่สำลีก้านยาว เช็ดเก็บรายละเอียด ตัวนี้ จะกดออกมาเลอะเทอะ เหลือนองทุกที เหมาะกับการใช้เยอะๆพื้นที่ใหญ่ๆมากกว่า แต่ข้อดี คือ ฝาหมุนลอคได้ด้วย แต่ก็ไม่ได้สะดวกพกพานัก เพราะขวดก็ใหญ่
เปรียบเทียบ กลิ่น สัมผัส และ การแสบตา เมื่อเอามาเช็ดรอบดวงตา
ปกติแล้ววาจะใช้ Cleansing Water เช็ดรอบดวงตาไปเลย เพราะเคยใช้ออยเช็ดแล้วหลงเข้าตามันแอบมัวๆ เช็ดแรงๆกระจกตาอักเสบอีก เลย ค่อยๆใช้ คลีนซิ่งแบบน้ำเช็ดทั้งหน้าดีกว่า ซึ่ง จากการทดสอบเปรียบเทียบกัน เรื่องความเหนอะหนะ มีความต่างน้อยมาก แยกลำบาก แต่อาจจะมี Biore ที่จะรู้สึกบางเบา ที่สุด ตรงนี้วาจะเรียงลำดับตามที่ทำการทดลอง โดยไม่ได้เรียงตามความชอบดังนี้ค่ะ
NIVEA ไม่มีกลิ่น ถ้าเข้าตาไม่แสบตา
Bifesta ไม่มีกลิ่น ถ้าเข้าตาไม่แสบตา
Biore ไม่มีกลิ่น ถ้าเข้าตาไม่แสบตา บางเบา สบายผิว
Smooth E มีกลิ่นน้ำหอมค่อนข้างแรง ถ้าเข้าตาแล้วแสบตา
Purevivi ไม่มีกลิ่น ถ้าเข้าตาแสบตานิดๆ
ปล. ช่วงนี้วาเป็นคนที่ตาค่อนข้างเซนส์ซิทีฟค่ะ ไปหาหมอมาในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ตาเป็นต้อลมเบาๆ ที่วาแสบตาหลายๆคนบอกไม่แสบตา อันที่เคยแสบตาตอนนี้ไม่แสบ ที่เคยไม่แสบ ก็มาแสบตาทีหลังได้อีก อันนี้ต้องลองเองเนอะ
เปรียบเทียบ ความสะอาดในการล้าง เมื่อใช้เวลาเท่าๆกัน
ตรงนี้วาทำการทดลอง 2 แบบนะคะ แบบแรก วาใช้ eyeshadow ที่ติดทนมากกกกกก เรียกว่า Long Lasting มาทำการทดสอบเลย เพราะถ้าใช้แบบธรรมดา คิดว่า อันไหนก็คงลบออกได้หมด จริงไหม ที่หยิบมาเป็นรุ่นที่แบบว่าถ้าลบด้วย eye remover ยังต้องใช้เวลานิดนึง คิดดู โหดมากๆ เรามาเทียบกันชัดๆเลยค่ะ
เริ่มแรก เขียนอายชาโดว ลงไปก่อนเลยค่ะ 5 เส้น สำหรับ Cleansing Water 5 ยี่ห้อค่ะ ตามลำดับ
เท Cleansing Water ลงบนสำลี ประมาณ 3 ปั๊ม เท่าๆกัน หรือใกล้เคียงนะคะ
แปะสำลีทิ้งไว้ประมาณ 5 วินาที แล้วปาดลงบน อายชาโดว รูดลง ทำเหมือนกันทุกอัน
แปะไว้ประมาณยี่ห้อละ 30 วินาที ผลออกมาก็คือ
ทุกยี่ห้อ เช็ดอายชาโดวแบบติดทนไม่ค่อยได้ค่ะ แต่ก็ดูจะโหดไปที่เทสแค่นี้แล้วสรุปเลย
เพราะ อายชาโดวติดทน ควรล้างด้วย คลีนซิ่งที่มีส่วนผสมของน้ำมัน จะออกดีมากกว่า
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
สรุป การเทสความสะอาดแบบที่ 1
วัดจากการเช็ดอายชาโดวแบบติดทน และเช็ดแบบรวดเร็ว
อันดับที่ 1 ยกให้ Biore
อันดับที่ 2 ยกให้ Purevivi
อันดับที่ 3 ยกให้ Smooth E
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
การทดสอบแบบที่ 2
เพราะฉะนั้นเราเลยทำการทดสอบอีกแบบนึงค่ะ เป็นการลองใช้เครื่องสำอาง หลายๆแบบกันบ้างค่ะ มีทั้งแบบที่ลบง่ายๆ และแบบที่ลบยากๆ ด้วย มีทั้งรองพื้น คอนซีลเลอร์ ลิปสติก อายไลน์เนอร์ waterproof อายไลน์เนอร์เมจิก อายชาโดว waterproof ลิปสติกเนื้อแมต โดยจะปาดลงบนแขนแบบนี้ เดี๋ยวจะใช้ Cleansing แต่ละยี่ห้อลบ แล้วเปรียบเทียบดู
คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยายค่ะ
จากการทดสอบ วาใช้สำลี 1 แผ่น เช็ดครึ่งนึงในรอบแรก 3 ครั้งให้ดูความสะอาดที่ได้เปรียบเทียบกัน แล้วเช็ดต่อทั้งหมดอีก 5 ครั้ง รวมเป็น 8 ครั้ง เพื่อทดสอบค่ะ
NIVEA ล้างไม่ค่อยสะอาด เมื่อใช้การถูเพียง 8 ครั้งแบบนี้ ที่ล้างออกมีเพียง รองพื้น กับ คอนซีลเลอร์ ลิปสติก ยังเห็นจางๆ อายไลน์เนอร์ waterproof ถือว่าเหลือตกค้างค่อนข้างเยอะทีเดียวค่ะ
Bifesta โดยรวมเช็ดได้ออกค่อนข้างดี แต่เช็ด 8 ครั้งก็เหลือเป็นอายไลน์เนอร์แบบ waterproof ไว้เล็กน้อย ที่เช็ดไม่ออกค่ะ
Biore ถือว่าค่อนข้างล้างได้สะอาดรวดเร็วพอสมควรในการเช็ด 8 ครั้ง เหลือรอย อายไลน์เนอร์ waterproof จางๆ ไม่เหนอะหนะ ถือว่าโดยรวมทำได้ดีค่ะ
Smooth E เรื่องทำความสะอาดในข้อจำกัด 8 ครั้ง เหลือเป็นรอย อายไลน์เนอร์ waterproof ให้เห็น พร้อมกับ ลิปแมตจางๆ ตัวนี้เหมือนกับว่า เช็ดได้สะอาดแบบโดยรวม เครื่องสำอางค่อยๆจางลงพร้อมๆกันนะ แต่เวลาเท่านี้ยังไม่พอค่ะ
Purevivi ได้ผลคือ มีเหลือรอยจางๆ ของเครื่องสำอาง หลายตัว แต่เหมือนกับว่ามันค่อยๆจางลง ไม่ได้ลบอะไรหายไปก่อน มันค่อยๆลบเลือนเรื่อยๆ คล้ายๆ สมูทอี แต่ดูสะอาดมากกว่านิดนึง
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
สรุป การทดสอบแบบที่ 2 ความไวในการเช็ดให้สะอาดในเวลาเท่าๆกัน
อันดับที่ 1 ยกให้ Biore เช็ดได้สะอาดที่สุดในเวลาจำกัดเท่าๆกัน
อันดับที่ 2 ยกให้ Bifesta เช็ดได้สะอาดรองลงมา แต่เช็ดอายไลน์เนอร์ไม่ค่อยออก
อันดับที่ 3 ยกให้ Purevivi เช็ดได้สะอาดรองลงมา แต่ยังเห็นรอยจางๆของหลายๆตัว
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
มาถึงบทสรุปทั้งหมด
กับการทดลองใช้แต่ละยี่ห้อมาระยะนึง เปรียบเทียบกับทุกๆเหตุผล ราคา ปริมาณ ความรู้สึกหลังใช้ กลิ่น สี ผลิตภัณฑ์ ค่ะ วาขอสรุปง่ายๆเลยแล้วกันนะ ถ้าจะต้องซื้อเลือกจากความคุ้มค่า ในทุกกรณี ก็สูสีกันมากกกกกก แทบจะแยกไม่ออก ซึ่งแล้ววาค่อนข้างที่จะเน้นเรื่องการล้างสะอาด ในเวลาที่รับได้ ซึ่ง Biore สูสีกับ Smooth E และ Purevivi มากๆ มีเช็ดออกเร็วกว่า เหลื่อมกันนิดหน่อย แต่ขอหักคะแนน Smooth E มีน้ำหอม และแสบตา เป็นอันว่าตกไป ส่วน Purevivi แพ้ไปตรงหาซื้อยากกว่าตัวอื่นๆนิดนึง และ Bifesta ที่สูสีกันทั้ง ราคา ปริมาณ การเช็ด การใช้ เรียกว่าเบียดกันมาตลอด แต่มาตกม้าตายตรงเช็ด อายไลน์เนอร์แบบติดทนไม่ค่อยออกเท่าตัวอื่น
เพราะฉะนั้นสรุปได้ว่า .... Cleansing Water ใน 5 ตัวนี้ ตัวที่คุ้มค่าน่าซื้อที่สุด
ขอยกให้ Biore รับมงกุฎไปเลยค่ะ
รีวิวนี้เป็นการทดลองด้วยวิธี และความรู้สึกของวาเอง คนอื่นอาจจะ ชอบหรือไม่ชอบ แตกต่างกัน เลือกเอาที่สบายใจ สบายกระเป๋าของทุกๆคนเลยนะคะ โปรดใช้ วิจารณญาณในการเสพรีวิว ผลลัพท์ที่ได้อาจจะตรง หรือไม่ตรงใจใครหลายๆคน ยังไงก็มาแชร์กันได้นะคะ วันนี้ ขอจบรีวิวเพียงเท่านี้ ขอบคุณและสวัสดีค่าาาา
