เสริมพัฒนาการสร้างจินตนาการ “ลูกรัก” ด้วย “บรา” ตัวเก่ง
คุณแม่บางท่านอาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับ "บรา" ตัวน้อยของลูกสักเท่าไหร่ เพราะด้วยความคิดที่ว่า เด็กใส่อะไรก็ได้ ไม่ต้องวุ่นวายเรื่องขนาดและทรง เหมือนกับชุดชั้นในของผู้ใหญ่ แต่รู้หรือไม่ว่า "บรา" มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างจินตนาการและพัฒนาการของเด็กได้อย่างไม่น่าเชื่อ!
"ซาบีนี่" ผู้นำด้านนวัตกรรมชุดชั้นในสำหรับเด็ก โดย บริษัท ซาบีน่า ฟาร์อีสท์ จำกัด เผยว่า เด็กในช่วงอายุ 5-12 ปี เป็นช่วงวัยแห่งการเตรียมความพร้อมในการเรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญา ถ้าหากเด็กได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี พัฒนาการของเด็กก็จะสามารถพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งอันดับแรกจะต้องเริ่มจากสิ่งใกล้ตัวก่อน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในบ้าน คุณแม่จะต้องให้ความใส่ใจกับเรื่องความเป็นอยู่ของลูกๆ ทั้งเรื่องอาหารการกิน สุขภาพ อารมณ์ ความรู้สึก รวมถึงเรื่องใกล้ตัวอย่างเสื้อผ้า ยิ่งชุดชั้นในด้วยแล้ว เป็นส่วนที่สัมผัสกับผิวของลูกตลอดเวลา ถ้าเด็กสวมใส่ไม่สบาย สมาธิในการเรียนรู้จะสั้นลง ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อพัฒนาการของเด็ก
นอกจากนี้ "ซาบีนี่" ยังได้แนะเคล็ด (ไม่) ลับสำหรับการเลือกชุดชั้นในให้เหมาะกับหนูน้อย เพื่อช่วยในการเสริมสร้างพัฒนาการ และจินตนาการ ด้วยขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
เลือกบราให้ถูก "ไซส์"
ขั้นแรกคุณแม่จะต้องเริ่มจากการสำรวจสรีระของลูกก่อน เนื่องจากขนาดตัวของเด็กแต่ละคนไม่เท่ากัน ฉะนั้นเมื่อเวลาเลือกซื้อบรา จะได้เลือกขนาดที่พอดีตัว ไม่คับหรือหลวมจนเกินไป นอกจากนี้ควรพิจารณาช่วงวัยของเด็กด้วย
- เด็กเล็ก (ช่วงอายุ 5 - 7 ปี) ควรเลือกเป็นเสื้อกล้ามบังทรง จะเป็นแบบเต็มตัวหรือครึ่งตัวก็ได้ และเนื้อผ้าควรมีความยืดหยุ่นที่ดี เพราะเด็กวัยนี้มักไม่อยู่นิ่งและเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
- เด็กโตขึ้นมานิดนึง (ช่วงอายุ 8-10 ปี) สรีระเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง หน้าอกเริ่มขยาย จึงควรเลือกบราที่มีฟองน้ำบังทรง ในรูปแบบเสื้อกล้ามบังทรงแบบมียางยืดใต้อก หรือที่เรียกว่า บรา ฮาล์ฟ สลิป (Bra Half Slip) เพื่อรองรับการขยายตัวของเต้าทรงของเด็ก
- เด็กโต (ช่วงอายุ 10-12 ปี) ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงของเต้าทรงอย่างชัดเจน ฐานทรงเริ่มขยาย ฉะนั้นควรเลือกบราที่มีลักษณะแบบชุดชั้นในมากขึ้น โดยเริ่มจากบราสวมหัวแบบมีตะขอหลัง หรือบราตะขอหลังที่ สามารถปรับระดับสายบ่า และตะขอหลังได้ ซึ่งมีฟองน้ำแบบที่ยืดหยุ่นได้ดี เพราะเต้าทรงยังคงขยายตัวอยู่ตลอดเวลา
สวมใส่สบาย ด้วย "เส้นใยธรรมชาติ"
"เนื้อผ้า" เป็นอีกปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงชุดชั้นในที่ทำจากเส้นใยสังเคราะห์ เพราะเส้นใยเหล่านี้จะซึมซับเหงื่อได้น้อย และระบายความร้อนไม่ดี ก่อให้เกิดความอับชื้นซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของผด ผื่น ตลอดจนอาการคันต่างๆ
นอกจากนี้ในขั้นตอนการผลิตอาจมีการเติมสารเคมีเพื่อเพิ่มคุณสมบัติเนื้อผ้าให้มีความแวววาว สวยงามขึ้นซึ่งสารเคมีเหล่านี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็กทั้งระยะเฉียบพลันและระยะสะสม ซึ่งต่างจากบราที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ ซึ่งนอกจากจะสวมใส่สบาย และถ่ายเทความร้อนได้ดีแล้ว ที่สำคัญยังไม่ก่อให้เกิดการแพ้และการระคายเคืองต่อผิวบอบบางของเด็กอีกด้วย ทำให้เด็กสามารถสนุกกับการเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่
ส่งเสริมจินตนาการ ด้วย "ลวดลาย" ที่สดใส
นอกจากที่กล่าวมาแล้ว เด็กในช่วงอายุนี้จะมีความอยากรู้อยากเห็น และค้นคว้าสิ่งใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น ภาพยนตร์ โทรทัศน์ ภาพการ์ตูน สิ่งเหล่านี้มีอิทธิพลอย่างมากต่อการพัฒนาการของเด็กทั้งในด้านอารมณ์ ภาษาและสติปัญญา ฉะนั้นชุดชั้นในของเด็กก็ควรจะมีลวดลายและสีสันสดใส เพราะสิ่งเหล่านี้จะมีส่วนช่วยในการสร้างเสริมจินตนาการที่ดีของเด็ก
โดยหากเป็นลวดลายที่เกี่ยวกับธรรมชาติด้วยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ ทะเล รวมถึงตัวการ์ตูนรูปสัตว์ต่างๆ จะยิ่งทำให้เด็กจะรู้สึกว่าธรรมชาติเป็นเรื่องใกล้ตัว ซึ่งคุณแม่สามารถสอดแทรกสาระความรู้ และแนวคิดเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อให้เด็กตระหนักถึงความสำคัญ และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคตได้อีกด้วย
ลองนำเคล็ดลับง่ายๆ ที่ "ซาบีนี่" นำมาฝากไปใช้ดู แล้วอย่าลืมหมั่นพา "ลูกรัก" ไปเปิดโลกทัศน์ หรือเข้าร่วมกิจกรรมที่มีประโยชน์ในยามว่าง เพื่อเสริมสร้างจินตนาการและประสบการณ์ชีวิต ถือเป็นการเพิ่มทุนทางความคิดและสติปัญญา อันจะส่งผลดีต่อหนูน้อยในอนาคต
อัลบั้มภาพ 7 ภาพ