ภัยคุกคามคนเมืองหลวง

ภัยคุกคามคนเมืองหลวง

ภัยคุกคามคนเมืองหลวง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หญิงสาวตกเป็นเหยื่ออาชญากร ขณะนั่งโทรศัพท์อยู่ในรถส่วนตัว มีดแหลมที่จี้คอทำให้ยอมเบิกเงินให้คนร้าย ก่อนถูกนำไปเชือดคอทิ้ง โชคดีที่เธอไม่ตาย วันนี้เธอจึงต้องการจะบอกทุกคนว่า เมืองหลวงเต็มไปด้วยภัยจริงๆ

"ขับไปภาคใต้" เสียงตะโกนสั่งเพื่อนร่วมแก๊ง ของชายฉกรรจ์วัยประมาณสามสิบปี ที่ใช้มีดปอกผลไม้จี้อยู่ที่ลำคอ ขณะถูกบังคับให้นั่งคุกเข่าที่พื้นด้านหลังรถยังดังก้องหู เธอนักธุรกิจประมูลงานรับเหมาก่อสร้าง แม้เวลาจะผ่านมานานกว่าสัปดาห์แล้วก็ตาม ประสบการณ์ที่แทบเอาชีวิตไม่รอดครั้งนี้ ทำให้นักธุรกิจรายนี้ถึงกับผวาและไม่มั่นใจในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน... เธอบอกว่าไม่คิดมาก่อนว่าโจรจะกล้าลงมือชิงทรัพย์สินเธออย่างอุกอาจกลางเมืองหลวงของประเทศ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย และไม่คิดมาก่อนว่ากรุงเทพมหานครจะอันตรายเช่นนี้

เหตุเกิดเวลาประมาณ 19.40 น. เธอกลับจากเยี่ยมเพื่อนซึ่งพักอยู่ในซอยลาดพร้าว 71 เมื่อขับรถมาถึงกลางซอย ลูกชายเธอโทรศัพท์มาหา ตอนแรกเธอบอกว่าไม่อยากรับเพราะมีกฎหมายห้ามคุยโทรศัพท์ขณะขับรถ แต่คิดว่าลูกชายคงโทรศัพท์มาสั่งซื้ออาหารไปรับประทาน จึงจอดรถข้างทางคุยโทรศัพท์

ระหว่างนั้นเห็นชายฉกรรจ์อายุประมาณสามสิบปี สวมเสื้อแขนสั้นสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ เดินเข้ามาประชิดรถ ท่าทางไม่น่าไว้ใจ จึงพยายามล็อกประตู แต่ก็ไม่ทัน ชายคนดังกล่าวกระชากประตูเปิดออกอย่างแรง ท่ามกลางความตกใจของเธอ

คนร้ายได้เข้าประชิดตัวและชกเข้าที่ใบหน้าด้านซ้ายอย่างแรงหนึ่งครั้ง แรงปะทะของกำปั้น ทำให้ร่างของเธอถึงกับเซล้มลงบนเบาะด้านข้างคนขับ พร้อมๆกันนั้นก็มีชายวัยเดียวกับคนร้ายคนแรกกระชากประตูด้านหน้าซ้ายแล้วขึ้นมาบนรถ พร้อมกับใช้ข้อศอกล็อกคอ แล้วลากเธอจากที่นั่งคนขับจนไปตกลงตรงที่ว่างระหว่างเบาะด้านหน้ากับเบาะหลังรถ พร้อมกับใช้มีดปอกผลไม้จี้ที่ลำคอ ขู่บังคับไม่ให้ขัดขืน

แม้เธอจะพยายามดิ้นรนต่อสู้โดยหวังจะหนีออกจากรถ ไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมทาง แต่เธอไม่สามารถทำได้ คนร้ายปิดประตูรถได้สำเร็จ พร้อมกับขับรถทะยานออกจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว โดยคนร้ายไม่ลืมที่จะปรับเบาะที่นั่งด้านข้างคนขับจนเอนทับตัวเธอไว้เพื่อป้องกันการหลบหนี

เธอเล่าว่าตอนนั้นเหมือนจะเป็นลม กลัวอย่างบอกไม่ถูก คนร้ายใช้มีดเฉือนลงที่ลำคอจนเลือดไหลซิบๆ ก่อนจะขู่ให้บอกรหัสเอทีเอ็ม หลังจากพวกมันรื้อค้นได้จากกระเป๋าถือที่วางไว้หน้ารถ มันขู่จะฆ่าทิ้งหากไม่บอก ด้วยความกลัวเธอจึงบอกรหัสจริงไป มันตระเวนกดเงินจากตู้เอทีเอ็มอยู่หลายจุด

หลังจากได้เงินแล้วเธอก็ถามมันไปว่า ทำไมต้องทำอย่างนี้ มันตอบกลับมาว่าต้องการเงินไปเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย หลังจากนั้นประมาณสิบนาที พวกมันก็จอดรถ แล้วลากเธอลงมาทิ้งไว้ที่พงหญ้าข้างทาง ตรงข้ามกับปั๊มน้ำมันในย่านสามพรานจังหวัดนครปฐม ก่อนที่พวกมันจะขับรถหนีไป

หลังเกิดเหตุ เธอขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในละแวกที่คนร้ายนำเธอมาทิ้งไว้ ให้ช่วยนำเธอส่งโรงพยาบาล หลังจากแพทย์ตรวจดูอาการแล้ว เธอจึงเข้าแจ้งความ และเมื่อวันที่ 5 กรกฏาคม เธอได้รับแจ้งจากตำรวจว่า รถยนต์โตโยต้ายาริส สีบรอนซ์ทะเบียน สส xx7 กรุงเทพมหานครของเธอ ถูกคนร้ายนำไปจอดทิ้งไว้ที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ คนร้ายได้เงินไปจากเธอไปประมาณหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท เธอยังโชคดีที่มีชีวิตรอดกลับมา แม้จะถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายจนสะบักสะบอมก็ตาม

เธอบอกว่า ไม่คาดคิดมาก่อนว่าในเมืองหลวงของประเทศไทยโจรผู้ร้ายจะชุกชุม และลงมือก่อเหตุอย่างอุกอาจเช่นนี้ และขอเตือนไปยังสุภาพสตรีทุกท่านให้ระมัดระวังตัว ทำงานเสร็จแล้วให้รีบกลับบ้าน นั่งในรถยนต์ต้องล็อกประตูทุกครั้งและต้องหมั่นมองกระจกหลัง และกระจกข้างซ้ายขวาเป็นระยะ หากพบสิ่งไม่ชอบมาพากลให้แจ้งตำรวจทันที ในสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ ต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ หากเผลออาจตกเป็นเหบื่อโจรผู้ร้ายได้ทุกเสี้ยววินาที

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook