โฆษณา “เหยียดสีผิว” กับ “บทเรียนที่ไม่เคยจำ”
แม้มีบทเรียนให้เห็นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เกี่ยวกับโฆษณาที่ส่อไปในเชิงเหยียดสีผิว แต่ดูเหมือนว่าแบรนด์สินค้าต่างๆ ที่เน้นเรื่องความขาวกระจ่างใสของผิว จะหลีกเลี่ยงเรื่องเหล่านี้ไม่เคยพ้นเสียที โดยมีผลิตภัณฑ์ครีมอาบน้ำ “โดฟ” เป็นรายล่าสุดที่ตกเป็นประเด็นในเรื่องนี้
แบรนด์ดังกล่าวถูกโจมตีอย่างหนัก หลังปล่อยโฆษณาครีมอาบน้ำเป็นไฟล์ GIF ความยาว 3 วินาทีทางเพจเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นภาพของหญิงผิวสีที่กำลังทำท่าถอดเสื้อสีน้ำตาลเข้มที่ใกล้เคียงกับสีผิวของเธอ ก่อนเผยให้เห็นภาพของหญิงสาวผิวขาวหลังถอดชุดดังกล่าวออกไปแล้ว เพื่อเป็นการสื่อให้เห็นว่า เมื่อใช้ครีบอาบน้ำแล้วทำให้ผิวขาวได้
นาโอมิ เบลก บิวตี้บล็อกเกอร์ และเมกอัพอาร์ติสต์ชื่อดัง เป็นคนจุดประเด็นนี้ให้เป็นที่สนใจในโลกออนไลน์ โดยโพสต์ภาพโฆษณาดังกล่าวในเพจ Naythemua ของตัวเอง หลังบังเอิญไปเห็นโฆษณาในขณะที่เลื่อนดูฟีดในเฟซบุ๊กพอดี
นอกจากนี้ บิวตี้บล็อกเกอร์คนดังซึ่งเป็นหญิงผิวสี ยังเข้าไปแสดงความคิดเห็นในเพจดังกล่าวด้วยว่า “ลองถามพนักงานที่เป็นผิวสีในบริษัทดูหรือยังว่าคิดเห็นอย่างไรกับโฆษณาชิ้นนี้ หรือไม่ก็ลองไปถามคนอื่นที่ได้ดูโฆษณานี้หรือยังว่าพวกเขาคิดเห็นอย่างไร”
แม้แอดมินเพจจะอ้างว่าโฆษณาดังกล่าวต้องการสื่อให้เห็นว่าครีมอาบน้ำเหมาะกับทุกสภาพผิว ทุกช่วงอายุ ทุกเชื้อชาติ และรูปร่างทุกแบบ โดยมีการสำรวจความต้องการของผู้หญิงเหล่านี้ก่อนจะมีผลิตภัณฑ์นี้ออกมา แต่ก็ยังถูกโจมตีอย่างหนักจนต้องลบโพสต์โฆษณานี้ออกไป
ที่สำคัญ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผลิตภัณฑ์โดฟ ซึ่งมีบริษัท “ยูนิลิเวอร์” เป็นเจ้าของ เคยทำพลาดเรื่องประเด็นเหยียดผิว เพราะเมื่อปี 2011 เคยมีโฆษณาครีมอาบน้ำที่เป็นภาพผู้หญิง 3 คน ยืนใส่ผ้าขนหนูโพสท่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม โดยยืนเรียงลำดับสีผิวจากเข้มไปจนถึงผิวขาว
หากดูโฆษณานี้แบบเผินๆ ก็ไม่น่าจะรู้สึกว่าเหยียดสีผิวอะไร แต่ฉากด้านหลังที่มีคำว่า “ก่อนใช้” และ “หลังใช้” ก็กลายเป็นประเด็นให้คนดูคิดได้ว่านี่คือการลำดับความขาวหลังจากที่ได้ใช้ครีมอาบน้ำนี้ แม้ภาพก่อน-หลังที่อยู่หลังนางแบบทั้งสาม จะแสดงให้เห็นว่าเมื่อใช้แล้วจะมีผิวที่เรียบเนียนขึ้นก็ตาม
สุดท้ายบริษัทเองก็อยู่เฉยไม่ได้ต้องออกมาแถลงขอโทษ และแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ทำให้เกิดประเด็นเรื่องเหยียดสีผิวอีกครั้ง พร้อมทั้งยืนยันว่า โดฟมุ่งมั่นที่จะเสนอความสวยงามที่ความหลากหลาย แต่ไม่ได้ระมัดระวังในเรื่องการนำเสนอจนกลายเป็นประเด็น ซึ่งความคิดเห็นต่างๆ ล้วนมีความสำคัญอย่างยิ่ง และบริษัทจะนำไปปรับปรุงให้ดีขึ้นในอนาคต
IG : @kawrage
แม้ปฏิเสธไม่ได้ว่าในอดีตเคยมีโฆษณาสบู่ที่แสดงถึงการเหยียดสีผิวมาแล้วมากมายหลายชิ้น และถึงจะไม่ได้เกิดเป็นประเด็นดราม่ารุนแรงเหมือนยุคที่การสื่อสารไร้พรมแดนอย่างทุกวันนี้ แต่ก็สื่อให้เห็นได้ว่า การเหยียดผิวไม่เคยหมดไปจากสังคมไหนๆ แม้จะมีบทเรียนให้เห็นกันมานักต่อนักแล้วก็ตาม!