วิตามินจำเป็นเพื่อสุขภาพ ที่แม่ท้องไม่ควรพลาด !
สำหรับหญิงตั้งครรภ์อาจมีคำถามว่ามีวิตามินอะไรบ้าง ที่จำเป็นที่จะต้องได้รับในระหว่างตั้งครรภ์ และควรได้รับในปริมาณที่มากน้อยแค่ไหนในวันหนึ่ง วันนี้เราก็มีคำคอบมาให้แล้ว ว่ามีวิตามิน แร่ธาตุอะไรบ้างที่มีความสำคัญต่อหญิงมีครรภ์และจำเป็นที่จะต้องได้รับ มาดูกันเลย
1.วิตามินบี 1 ควรได้รับ 1.5-1.6 มิลลิกรัมต่อวัน เนื่องจากวิตามินบี 1 สำคัญมากต่อพัฒนาการของระบบสมองส่วนกลางของทารกที่อยู่ในครรภ์
2.วิตามินบี 2 ควรรับประทานให้ได้ 1.6 มิลลิกรัมต่อวัน
3.วิตามินบี 6 ควรได้รับ 2.2 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งจะช่วยในการพัฒนาของสมองและระบบประสาทของทารกในครรภ์ และช่วยให้อาการแพ้ท้องลดลงได้
4.วิตามินบี 9 (กรดโฟลิก) ในวันหนึ่ง ๆ ควรรับประทานให้ได้ 360-400 มิลลิกรัม เนื่องจากกรดโฟลิกมีความสำคัญมากต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ในระยะ 3 เดือนแรก หากได้รับกรดโฟลิกน้อยเกินไปอาจทำให้สมองและระบบประสาทไขสันหลังของทารกในครรภ์เกิดการพิการได้
5.วิตามินบี 12 ควรได้รับ 2.2 มิลลิกรัมต่อวัน
6.วิตามินซี ควรได้รับ 70-95 มิลลิกรัมต่อวัน
7.วิตามินอี ควรได้รับวันละ 10 IU จะช่วยให้กล้ามเนื้อและเซลล์เม็ดเลือดของทารกในครรภ์มีพัฒนาการเพิ่มขึ้น และการขาดวิตามินอีอาจส่งผลต่อน้ำหนักตัวของทารกเมื่อคลอดออกมาทำให้มีน้ำหนักตัวน้อยได้
8.วิตามินดี การได้รับวิตามินดี จะช่วยให้กระดูกของทารกในครรภ์มีความแข็งแรง และทำให้โครงสร้างกระดูกของทารกมีความสมบูรณ์เมื่อโตขึ้น
9.แคลเซียม ควรได้รับ 1,200-1,500 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นมากสำหรับหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากมีความสำคัญต่อพัฒนาการของกระดูกทารก หากทารกในครรภ์ขาดแคลเซียมอาจทำให้กระดูกไม่แข็งแรงหรือทำให้เกิดกระดูกพรุนได้
10.ไอโอดีน ควรได้รับวันละ 175-200 มิลลิกรัม เนื่องจากต่อมไทรอยด์จะต้องทำงานหนักในระหว่างตั้งครรภ์ ส่งผลให้ร่างกายมีความต้องการธาตุไอโอดีนเพิ่มมากขึ้น หากมารดาไม่ได้รับไอโอดีนอย่างเพียงพอแก่ความต้องการแล้วอาจทำให้เกิดโรคคอพอกได้ นอกจากนี้แล้วยังจะส่งผลถึงทารกในครรภ์คือ ทำให้ทารกมีน้ำหนักตัวน้อย แคระแกร็น และมีสติปัญญาต่ำ
11.ธาตุเหล็ก ควรได้รับ 30 มิลลิกรัมต่อวัน เนื่องจากธาตุเหล็กมีความสำคัญต่อการสร้างเซลล์เม็ดเลือด และจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
12.แมกนีเซียม ควรรับประทานแมกนีเซียมให้ได้ 300-355 มิลลิกรัมต่อวัน
13.ฟอสฟอรัส ควรได้รับฟอสฟอรัส วันละ 1,200 มิลลิกรัมขึ้นไป
14.ซีลีเนียม ควรได้รับซีลีเนียม วันละ 65 มิลลิกรัม
15.สังกะสี หรือ ซิงค์ ควรได้รับวันละ 15 มิลลิกรัม เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเซลล์ของทารกในครรภ์
16.น้ำมันปลา ควรรับประทานน้ำมันปลา (Fish oil) ที่มีปริมาณ DHA และ EPA สูง เพราะจะช่วยให้ระบบประสาทและสมองของทารกในครรภ์ได้รับการส่งเสริมให้มีพัฒนาการ ส่งผลให้ทารกที่คลอดออกมาเรียนรู้ได้รวดเร็ว ฉลาด
17.โปรตีน ควรรับประทานโปรตีน ซึ่งจำเป็นมากต่อการสร้างเซลล์ของทารกในครรภ์
แต่มีข้อแนะนำว่าในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ห้ามรับประทานวิตามินเออย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้มีโอกาสเสี่ยงต่อการแท้งบุตร ส่งผลให้ทารกมีความพิการแต่กำเนิด