อาการท้องผูกหลังคลอด ปัญหาหนักอกที่คุณแม่แก้ได้

เป็นปัญหาใหญ่มากๆ สำหรับคุณแม่ที่พึ่งคลอดลูกน้อย แล้วประสบปัญหาท้องผูกหลังคลอด จากการที่ระบบต่าง ๆ และฮอร์โมนในร่างกายยังทำงานไม่ค่อยคงที่ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อส่วนลำไส้ที่ยังทำงานไม่สมบูรณ์ จึงทำให้เกิดความกังวลว่าจะทำให้แผลเย็บหลังคลอดอาจปริแตกได้ จนทำให้เกิดปัญหาที่ไม่สบายตัวของคุณแม่ ซึ่งอาจกลายเป็นความเครียดสะสมได้ มาดูกันว่าควรแก้ปัญหานี้อย่างไรดี

เลือกทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง

การแก้ปัญหาอาการท้องผูกที่ดีที่สุด ไม่ใช่แค่คุณแม่หลังคลอด ก็คือการทานอาหารที่มีไฟเบอร์หรือใยอาหารสูง เพื่อจะได้ช่วยย่อยและกระตุ้นการขับถ่ายให้ทำงานได้ง่ายขึ้น รวมทั้งอาหารที่มีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อน ๆ ก็สามารถทานได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ลูกพรุน กล้วยน้ำว้า แอปเปิ้ล มะละกอสุก เป็นต้น หรือจะเลือกทานน้ำผักผลไม้สกัด ก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่แพ้กัน

ดื่มน้ำให้มาก

ควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 8-12 แก้วต่อวัน เพื่อให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย นอกจากนี้ การดื่มน้ำมาก ๆ ยังช่วยให้อุจจาระนิ่มมากขึ้น คุณแม่หลังคลอดจึงไม่ต้องกลัวเลยว่าหากขับถ่ายจะทำให้แผลแตกได้ เพราะถ้าหากไม่ถ่าย จะยิ่งส่งผลให้เป็นโรคท้องผูกหลังคลอดได้

ออกกำลังกายเป็นประจำ

เมื่อน้ำคาวปลาหยุดไหล หรือเมื่อคลอดแล้ว 2 - 4 สัปดาห์ ก็สามารถออกกำลังกายเบา ๆ ได้ เช่น การทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือการเดินออกกำลังกาย ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นให้ระบบลำไส้ทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังช่วยกระตุ้นให้คุณแม่ได้ขับถ่ายอีกด้วย ยิ่งถ้าทำร่วมกับการดื่มน้ำมาก ๆ ก็ไม่ต้องกลัวอาการท้องผูกจะมาเยือนเลย

ขมิบอุ้งเชิงกราน ช่วยแก้อาการท้องผูก

เราอาจจะเคยได้ยินว่า การขมิบอุ้งเชิงกราน จะช่วยให้ช่องคลอดและมดลูกมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น แต่รู้หรือไม่ว่าการขมิบอุ้งเชิงกราน โดยเฉพาะส่วนหน้าท้องและส่วนกล้ามเนื้อทวาร ด้วยการคุกเข่า แล้วเอามือยันพื้นเหมือนท่าคลาน แล้วเกร็งกล้ามเนื้อทวารพร้อมโก่งหลังขึ้นค้างไว้ แล้วค่อย ๆ คลายลง หากทำเช่นนี้บ่อย ๆ จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการขับถ่ายได้ดีขึ้น ช่วยป้องกันปัญหาท้องผูกหลังคลอดได้ดี

กรณีเป็นคุณแม่เป็นโรคริดสีดวง

มีคุณแม่หลายคนที่เป็นโรคริดสีดวงทวาร จึงทำให้ไม่กล้าขับถ่ายจนมีอาการท้องผูก ก็ขอแนะนำให้ลองประคบอุ่นดู หรือนั่งแช่ในน้ำอุ่นที่เกือบร้อน จะช่วยลดปัญหาการอักเสบของริดสีดวงได้

ก็อยากลองให้คุณแม่มือใหม่ได้ลองปฏิบัติตามนี้ดูก่อน เพื่อป้องกันอาการท้องผูกที่อาจเกิดขึ้น แต่ถ้าหากเป็นแล้ว และยังไม่สามารถหาวิธีแก้ปัญหาด้วยตัวเองได้ ก็ขอให้ไปพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ทำการรักษาได้อย่างถูกต้อง เพื่อที่คุณแม่จะได้ไปดูแลลูกน้อยได้อย่างสบายใจ