สารตะกั่วปนเปื้อนในช็อกโกแลต มีจริงและอันตรายหรือไม่?
หลายคนคงได้ยินข่าวในเรื่องของการตรวจสารปนเปื้อนในช็อกโกแลต ทั้งนำเข้าจากต่างประเทศและจากผู้ผลิตในไทย ซึ่งจากการตรวจสอบก็พบว่าเจอสารตะกั่วและมีสารแคดเมียมปนเปื้อนอยู่ แต่หลายคนก็อาจจะสงสัยว่า ถ้าปนเปื้อนจริง แล้วจะยังทานได้อยู่หรือไม่? หรือเป็นอันตรายกับร่างกายหรือเปล่า? เพราะหลายคนก็ชอบทานช็อกโกแลตมาก ซึ่งเราขอสรุปให้เข้าใจง่ายๆ ดังต่อไปนี้
สารปนเปื้อนคืออะไร
สำหรับประเทศไทย ผู้ที่กำหนดมาตรฐานสารปนเปื้อนในอาหาร ก็คือ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของกระทรวงสาธารณสุข โดยได้ให้คำนิยามของ "สารปนเปื้อน" ไว้ว่า "เป็นสารที่ปนมากับอาหารซึ่งเกิดจากการบวนการผลิต กรรมวิธีการผลิต สถานที่ผลิต รวมทั้งการบรรจุ และองค์ประกอบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และได้กำหนดให้สารปนเปื้อนประเภทโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว หรือแคดเมียม ต้องไม่เกิน 1 มิลลิกรัมต่ออาหาร 1 กิโลกรัม" ซึ่งประเทศอื่นๆ ก็อาจจะมีมาตรฐานนี้ไม่เท่ากัน เช่น FDA ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็จะมีมาตรฐานที่เข้มงวดกว่า และแน่นอนว่าค่าที่ตรวจเจอในประเทศไทยจะต้องไม่ผ่านเกณฑ์ FDA ของที่นี่ เป็นต้น
สารปนเปื้อนโลหะหนักมาจากไหน?
อย่าเข้าใจผิดว่าโรงงานต่างๆ ที่ผลิตช็อกโกแลตไม่มีมาตรฐานหรือหลอกลวงผู้บริโภค เพราะมีการปนเปื้อนของโลหะหนักทั้งสองประเภทนี้ มักจะเกิดจากสิ่งแวดล้อมมากกว่าปัจจัยอื่นๆ อย่างในกรณีนี้คาดว่าอาจจะเกิดจากปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการปลูกต้นโก้โก้ (ที่เป็นส่วนผสมหลักในการทำช็อคโกแลต) อย่างดินหรือปุ๋ย จนทำให้เกิดการปนเปื้อนของสารต่างๆ เพราะอาหารหลายชนิดก็เคยตรวจเจอโลหะหนักทั้งที่ยังไม่ผ่านกรรมวิธีใดๆ มาแล้ว เช่น อาหารทะเล เนื้อสัตว์ต่างๆ หรือแม้กระทั่งน้ำแร่ธรรมชาติ เป็นต้น
ช็อตโกแลตที่มีสารปนเปื้อน อันตรายหรือไม่?
ถึงแม้ว่าจะเป็นเคยข่าวดังในบ้านเรา แต่สำหรับคอช็อคโกแลตทั้งหลายก็ไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้เลย เพราะสารปนเปื้อนที่ปนมากับช็อคโกแลตนั้น ยังมีค่าต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานการตรวจวัดสารปนเปื้อนของ FDA ในประเทศไทยอยู่มาก แต่ถ้าหากว่ายังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ก็ขอให้ลดปริมาณการทานให้น้อยลงกว่าเดิม อาจจะนานๆ ทานครั้ง เพียงเท่านี้ ก็หมดปัญหาแล้ว และยังช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วนและฟันผุอีกด้วย
อันที่จริงแล้ว ไม่ว่าจะทานอะไรก็ต้องเสี่ยงกับสารปนเปื้อนทั้งนั้น ไม่เว้นแม้กระทั่งผักและผลไม้ที่อาจมีการปนเปื้อนของยาฆ่าแมลง เพราะฉะนั้นเราควรเลือกทาน และควรออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ เพื่อหลีกหนีโรคภัยต่างๆ รวมทั้งลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคร้ายในอนาคตด้วย