ภัยร้ายกว่าการเฉี่ยวชน
สังคมทุกวันนี้มัน เลวร้ายจริงๆใครต้องขับรถ... หรือมีแฟนสาวขับรถก็อ่านไว้นะ น่ากลัวนะ อ่านไว้จะได้ระวังตัว
ผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่บนสถานีตำรวจก้มหน้านิ่งตลอดเวลา ใบหน้าเธอซีดขาว บางครั้งก็เหม่อลอย แววตาหมดหวังและบางครั้งหมดอาลัยตายอยากในชีวิต ขณะนั้นเป็นเวลาเกือบตีสองแล้ว ท่าทางของเธอสะดุดในผู้หญิงอีกคนซึ่งอยู่ที่นั่นด้วย จนอดไม่ได้ที่จะหาโอกาสเข้าไปพูดคุยด้วยความสงสัย
ผู้หญิงทั้งคู่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน แต่เหตุที่ต้องมาอยู่บนสถานีตำรวจในเวลาเดียวกัน ก็เนื่องจากอุบัติเหตุรถชนกันซึ่งเป็นการเฉี่ยวชนแล้วพยายามขับหนี แต่ไม่พ้นการจับกุมของเจ้าหน้าที่ที่อยู่บริเวณดังกล่าวได้ เธอซึ่งเป็นผู้เสียหายให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จนเมื่อถึงเวลาสอบปากคำอีกฝ่าย เธอพยายามเข้าไปพูดคุยกับผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้วยความสงสัย ตอนแรกคิดว่าอาจจะกลัวหรือตกใจที่แฟนตัวเองพยายามหลบหนี หรือกังวลกับคดีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น จึงบอกว่า ถ้าชดใช้ค่าเสียหาย ก็จะไม่เอาความใดๆ แต่ยังไม่ทันที่จะพูดอะไรไปกว่านั้น ผู้หญิงคนนั้นก็ร้องไห้ออกมาอย่าน่าตกใจ พร้อมทั้งเล่าให้ฟังว่า ไม่ได้เป็นอะไรกับผู้ชายคนนั้น ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนเลย อากัปกิริยาเช่นนี้ยิ่งทำให้น่าสงสัยมากขึ้นกว่าเดิม และยิ่งทำให้ต้องปลอบโยน เพื่อหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นแน่ ด้วยความเป็นผู้หญิงด้วยกัน ทำให้ใช้เวลาไม่นาน
เรื่องราวทั้งหมดก็ถูกถ่ายทอดออกมา เธอบอกว่ากำลังถูกผู้ชายคนนั้นจับตัวไว้เหมือนกัน เธอกลัวและอายมากและกำลังช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้น จนทำอะไรไม่ถูก เมื่อเธอเล่าจบทำให้ผู้ฟังรีบเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจให้จับกุมชายคนนั้นไว้ทันที
ผู้หญิงคนนี้เป็นผู้โชคร้าย ความจริงบ้านของเธออยู่ที่จังหวัดนครปฐม ในขณะที่เธอกำลังขับรถกลับบ้าน เป็นเวลาสามทุ่ม ก็มีรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งขับมาชนท้าย ผู้ขี่มอเตอร์ไซค์เป็นผู้ชายคนหนึ่ง รีบจอดลงมาดูความเสียหาย และขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ พร้อมทั้งบอกว่า ไม่ต้องกังวลจะชดใช้ความเสียหายให้ และพร้อมจะไปตกลงที่สถานีตำรวจด้วยท่าทางที่สุภาพนอบน้อม ทำให้เธอรู้สึกไม่กลัว และยินดีที่จะไม่เอาเรื่อง หากชดใช้ค่าซ่อมรถที่มีรอยบุบเพียงเล็กน้อย ชายคนนั้นบอกให้เธอขับรถตามเข้าไปยังอู่ซ่อมรถที่อยู่ไม่ไกลเพื่อให้ช่างตีราคาและตกลงค่าซ่อม
แต่ระหว่างทาง ขอนำรถมอเตอร์ไซค์เข้าไปเก็บที่บ้านก่อน เพราะรู้สึกว่าเครื่องยนต์เริ่มมีปัญหา เธอก็ขับรถตามไปจนถึงปากทางเข้าบ้าน และนั่งคอยอยู่ที่รถ ชายคนนั้นกลับออกมาพร้อมชายคนหนึ่ง เปิดประตูและขึ้นนั่งประกบทันทีโดยดันตัวเธอเข้าไปนั่งตรงกลาง ใช้มีดบังคับให้นั่งเฉยๆและขับรถเข้ามากรุงเทพฯ ถึงธนาคารแห่งหนึ่งบริเวณงามวงศ์วาน ก็จี้ตัวเธอลงไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มได้เงินจำนวนที่ธนาคารกำหนดให้กดจากตู้ในวงเงินเท่านั้น แต่เมื่อเห็นเงินในบัญชียังมีเหลืออีกมาก จึงยังไม่ปล่อยตัวง่ายๆกันตัวไว้ รอเวลาให้เลยเที่ยงคืน แล้วจะกดเงินจากตู้เอทีเอ็มอีกครั้ง
ในช่วงการรอคอยเวลา ก็ขับรถมาแถวถนนลาดพร้าวเลี้ยวเข้าไปในโรงแรมม่านรูด และผลัดกันข่มขืนเธอหลายครั้งแล้วก็สั่งอาหารรวมทั้งเบียร์มาดื่มกินในห้อง จนมีอาการมึนเมา แล้วก็ข่มขืนอีก จนกระทั่งตีสองชายคนหนึ่งจึงขับรถพาเธอมา บังคับให้กดเงินอีก โดยให้สัญญาว่าจะปล่อยตัวไป หากได้เงินที่ต้องการแล้ว ยังไม่ทันที่จะถึงธนาคาร ชายคนนั้นก็ขับรถชนท้ายรถคันหนึ่งที่อยู่ข้างหน้าเสียก่อน แล้วพยายามหลบหนี จนกระทั่งมาถูกจับกุมได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจพาไปจับเพื่อนร่วมแก๊งอีกคนที่นอนคอยอยู่ในโรงแรมได้ และพาตัวมาสอบสวน ทั้งคู่รับสารภาพว่า ทำอย่างนี้กับผู้หญิงมาแล้วหลายครั้ง ส่วนใหญ่จะตระเวนมองหารถที่มีผู้หญิงขับเพียงคนเดียวและมักจะหาเหยื่อตามจังหวัดที่อยู่รอบๆกรุงเทพฯ
ภัยอันตรายแบบนี้ฟังดูแล้วเหมือนไกลตัว คงไม่เกิดกับเราหรอก แต่จริงๆแล้วมันเป็นเรื่องใกล้ตัวมากๆเลยนะ