รอยแผลเป็นนูน จัดการได้ด้วย 5 วิธีธรรมชาติ

รอยแผลเป็นนูน จัดการได้ด้วย 5 วิธีธรรมชาติ

รอยแผลเป็นนูน จัดการได้ด้วย 5 วิธีธรรมชาติ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อใดก็ตามที่เกิดอุบัติเหตุ ที่ทำให้เกิดบาดแผลบริเวณผิวหนังในส่วนต่าง ๆ นอกร่มผ้า ก็อาจจะทำให้สาว ๆ หลายคนเกิดความกังวลใจมากกว่าการรักษาบาดแผลว่า จะเกิดรอยแผลเป็นหรือไม่ และรอยแผลเป็นนั้นจะนูนขึ้นมาจนน่าเกลียดหรือเปล่า ยิ่งถ้าต้องมีการผ่าตัดก็ยิ่งทำเอาสาว ๆ หลายคนเครียดจนนอนไม่หลับ เพราะกลัวจะเสียความมั่นใจจากรอยแผลเป็นที่เกิดขึ้น เราจึงขอแนะนำวิธีการรักษาแผลเป็นนูนง่าย ๆ ด้วยวิธีทางธรรมชาติดังต่อไปนี้

1.ว่านหางจระเข้

หลาย ๆ คนน่าจะคุ้นเคยกับการใช้ว่านหางจระเข้ในการรักษาแผลต่าง ๆ อยู่แล้ว เพราะในว่านหางจระเข้านั้น เต็มไปด้วยวิตามินอีที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว จึงสามารถช่วยให้แผลเป็นนูนมีความนิ่มมากขึ้น และดูมีขนาดเล็กลง รวมทั้งยังจางลงจากเดิมด้วย วิธีใช้ก็ง่าย ๆ เพียงแค่ลอกเอาวุ้นจากว่านหางจระเข้ามาล้างให้สะอาดจนหมดยาง แล้วเอามาทาบริเวณแผลเป็นนูนเป็นประจำทุกวัน

2.น้ำผึ้ง

เพราะน้ำผึ้งได้รับการกล่าวขานว่า เป็นมอยส์เจอไรเซอร์จากธรรมชาติที่ดีที่สุด ที่สามารถคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิวและช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือดดีขึ้นได้ เพราะฉะนั้นจึงสามารถช่วยลดปัญหารอยแผลเป็นนูนได้อย่างแน่นอน เพียงแค่เอาน้ำผึ้งบริสุทธิ์มานวด หรือถูวนบริเวณบาดแผลเป็นเวลาอย่างน้อย 10 นาทีเพื่อให้น้ำผึ้งซึมลงไปในแผล แล้วปล่อยทิ้งไว้เพียง 1 ชั่วโมงแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดทุกวัน

3.ใบบัวบก

ใครบอกว่าใบบัวบกสามารถรักษาอาการช้ำในได้อย่างเดียว ใบบัวบักก็สามารถรักษารอยแผลเป็นนูนได้ด้วย เพราะคุณสมบัติพิเศษที่สามารถช่วยสร้างเนื้อเยื่อที่เสียหายของร่างกาย และสามารถสมานแผลได้ไว จึงทำให้หลาย ๆ คนนำมาใช้เป็นตัวเลือกในการรักษาแผลเป็นนูน เพียงแค่เอาใบบัวสดมา 1 กำมือ แล้วตำจนละเอียดคั้นแต่น้ำออกมาทาที่แผล เพียงเท่านี้ก็จะทำให้แผลเป็นนูนค่อย ๆ จางลง

4.น้ำมะนาว

เป็นอีก 1 ผักและผลไม้ที่มีประโยชน์ในเรื่องของการรักษาบาดแผล และฆ่าเชื้อแบคทีเรีย รวมทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เป็นต้นเหตุของริ้วรอยต่าง ๆ รวมทั้งแผลเป็นนูนอีกด้วย เพียงแค่คั้นน้ำมะนาวสดไปทาบริเวณที่ต้องการทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที แล้วล้างออก จากนั้นทาด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ทับอีกครั้งก็จะทำให้รอยแผลเป็นนูนจางลงไป

5.แอปเปิ้ลไซเดอร์

หรือน้ำส้มสายชูหมัก ก็ได้ผลดีไม่แพ้มะนาวเช่นกัน เพียงแต่วิธีใช้อาจจะยุ่งยากกว่า เพราะต้องผสมกับน้ำเปล่าสักเล็กน้อย แล้วเอาสำลีจุ่มไปทาบริเวณรอยแผลเป็นทิ้งไว้ 30 นาที แต่การจะให้ผลดีที่สุก ควรทาอย่างน้อยวันละ 3-4 ครั้งเป็นเวลา 2 - 4 สัปดาห์ จึงจะทำให้แผลเป็นนูนนุ่มขึ้นและมีขนาดเล็กลง

ใครที่มีปัญหารอยแผลเป็นนูนอยู่ ก็ลองเอาวิธีเหล่านี้ไปใช้กันดู แต่อาจจะต้องใจเย็นสักหน่อย เพราะการจะรักษาแผลเป็นนูนนั้นต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรในการฟื้นฟูสภาพผิวให้กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook