เปลี่ยนเรียวปากคล้ำให้เป็นสีชมพู สวยใสแบบไม่ต้องทาลิปสติก

เปลี่ยนเรียวปากคล้ำให้เป็นสีชมพู สวยใสแบบไม่ต้องทาลิปสติก

เปลี่ยนเรียวปากคล้ำให้เป็นสีชมพู สวยใสแบบไม่ต้องทาลิปสติก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปัญหาริมฝีปากดำคล้ำของสาวๆ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เป็นตัวการที่ทำให้ผู้หญิงรู้สึกหมดความมั่นใจในตัวเอง บางคนพบปัญหาปากดำกันมาตั้งแต่กำเนิด แต่ด้วยพฤติกรรมหลายอย่างแบบทั้งรู้ตัวและไม่รู้ตัว ก็ทำให้ริมฝีปากที่เคยสวยสดของสาวๆ กลายเป็นสีคล้ำ กว่าจะรู้ตัวก็พบว่ามันกลายเป็นสีดำ หมดเสน่ห์กันไปซะแล้ว ใครที่กำลังกังวลกับปากที่ดำคล้ำ ทาลิปสติกกลบก็คงไม่ช่วยอะไรมากเช่นนี้แล้วล่ะก็ ลองมาดูแนวทางแก้ไขอย่างตรงจุด ที่จะช่วยให้สาวๆ มีผิวปากที่สวยใสได้อีกครั้งกันดีกว่าค่ะ

ต้นตอที่ทำให้ริมฝีปากคล้ำ

ก่อนที่สาวๆ จะไปดูแนวทางแก้ปัญหา ก็ควรรู้กันก่อนว่าสาเหตุที่ทำให้ปากดำจนหมดสวยนั้นเกิดขึ้นจากอะไรบ้าง ซึ่งที่พบได้บ่อยมาจากพื้นฐานของผิวตั้งแต่กำเนิด เรียกได้ว่าเป็นลักษณะเฉพาะตัวที่เกิดขึ้นได้ตามลักษณะทางกรรมพันธุ์ การเลียริมฝีปากบ่อยๆ จนเป็นนิสัย ก็ทำให้ริมฝีปากดำได้จากเอนไซม์ที่อยู่ในน้ำลายไปทำให้เซลล์ผิวที่ริมฝีปากดำคล้ำขึ้นมาได้ นอกจากนี้ยังพบว่า การสูบบุหรี่ โรคบางชนิด แสงแดด และการใช้ลิปสติกที่หมดอายุติดต่อกันนานๆ ก็ทำให้ปากค่อยๆ ดำคล้ำได้เช่นเดียวกัน

วิธีแก้ปัญหาปากคล้ำให้กลับเป็นสีชมพูอย่างเป็นธรรมชาติ

เริ่มตั้งแต่วิธีง่ายๆ ไม่ต้องควักกระเป๋าเพื่อเข้ารับการรักษาจากคลินิกศัลยกรรมความงามแต่อย่างใด เพียงแค่การสครับปากสักอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ด้วยน้ำตาลทรายผสมน้ำผึ้ง เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวด้านนอกออกไป และทุกครั้งหลังแปรงฟัน ให้ใช้แปรงสีฟันนวดที่ริมฝีปากเบาๆ ประมาณ 5 นาที แล้วทำความสะอาดตามปกติ ก็จะช่วยลดความดำบริเวณริมฝีปาก ให้กลับมาเป็นสีชมพูสวยเหมือนเดิมได้

ส่วนในกรณีที่ต้องเผชิญกับแสงแดด ให้เลือกทาลิปมันที่มีสารบำรุงให้ความชุ่มชื้นและป้องกันแดดในตัว เลือกใช้ลิปบาล์มที่มีคุณสมบัติเฉพาะ มีคุณภาพ และให้ความชุ่มชื้นได้นาน หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เพราะนี่คือตัวปัญหาที่ทำให้ปากคล้ำและดำจากเขม่าโดยตรงอย่างชัดเจนที่สุด หากสาวๆ ไม่เลิกสูบบุหรี่ ไม่ว่าจะวิธีนี้ก็ไม่สามารถทำให้ปากกลับมาอมชมพูได้ดังเดิมอย่างแน่นอน

อย่าลืมการป้องกันไม่ให้ริมฝีปากของสาวๆ ที่กลับมาอมชมพู ต้องคล้ำเสียอีกครั้ง ด้วยการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมต้องห้ามที่เป็นตัวทำลายเซลล์ผิวบริเวณดังกล่าวจนเสียหาย เพราะกว่าจะฟื้นฟูกลับมาได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย มันคงไม่สนุกที่ต้องเสียเวลามาสะดุดอยู่กับนิสัยแย่ๆ ที่ทำลายความสวยของผิวตัวเองกันเป็นแน่เลยล่ะค่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook