World Style by…สินเจริญ
เมื่อตัวโน้ตดนตรีนำพาครอบครัวสินเจริญออกเดินทาง ทุกรายละเอียดที่ผ่านทางชีวิตได้ถูกผสมผสานสู่สไตล์การแต่งบ้านที่พวกเขาให้ คำจำกัดความว่า “เวิลด์สไตล์” ทั้งสนุกสดใสและอบอุ่นด้วยความรัก
ขอต้อนรับสู่อาณาจักรใหม่ของครอบครัว “สินเจริญ” บนพื้นที่รูปสี่เหลี่ยมคางหมู 180 ตารางวา แต่ด้วยการดีไซน์อย่างลงตัวของหนุ่มบอมบ์ พี่ใหญ่แห่งบ้านสินเจริญ จึงได้บ้านเท่ๆ ที่ให้มุมมองแบบเปอร์สเป็กทีฟ หน้าบ้านดูกว้างและร่มรื่นด้วยสนามหญ้าและไม้ใหญ่ ขณะที่บ้านรูปตัวแอลถูกแบ่งพื้นที่ตามฟังก์ชั่นการใช้งาน ซึ่งรวมถึงโซนพักผ่อนส่วนตัวของทั้งสามหนุ่ม บอมบ์-เบิ้ล-บอย และมีสตูดิโอสำหรับจัดรายการ “สินเจริญเชิญแขก” ด้วย
“เราไม่ได้ใช้สถาปนิกหรืออินทีเรีย แต่ศึกษาเรื่องการตกแต่งบ้านจากการเดินทางไปทั่วประเทศ และบังเอิญมีโอกาสไปอเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลียด้วย ก็ซึมซาบความประทับใจจากสถานที่ต่างๆ กลับมา เช่น เท็กซ์เจอร์เกี่ยวกับผนังที่ซานฟรานฯ ซึ่งเหมือนผนังอิญมอญที่กรุงศรีฯ เป็นปูนดิบๆ มีความมัน เราก็เอามาทำบ้าง โดยประยุกต์ใช้วัสดุง่ายๆ แล้วทำให้มันสวยได้ บ้านสินเจริญจึงมีคอนเซ็ปต์ที่ว่า ใช้ของถูกที่เอามาทำให้สวยได้ และนำของหลากหลายสไตล์ที่ดูแล้วไม่น่าเข้ากันได้ จากทั้งที่เรามีอยู่หรือจากร้านเลหลัง เรามีของตกแต่งตั้งแต่ตุ๊กตุ่น ชฎา ซึง กีตาร์ โปสเตอร์เก่า ไปจนถึงของโมเดิร์นสุดๆ ก็มี แล้วเอามามิกซ์มาจัดให้ลงตัวได้ เป็นสไตล์เวิลด์นั่นเอง”
ในทุกองศาของบ้านสินเจริญจึงเต็มไปด้วยข้าวของที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิต ของพวกเขา หากโดยธรรมชาติของแต่ละคนย่อมมีรายละเอียดปลีกย่อยต่างกันไป เช่น พี่ใหญ่อย่างหนุ่มบอมบ์ผู้มีความสุขกับการสะสมของเล่นและกีตาร์ ในโซนพักผ่อนของเขาจึงมากมายด้วยของเล่นนับร้อยๆ ชิ้นกับกีตาร์งามๆ หลายตัว ให้ความเพลิดเพลินเจริญใจเหมือนอยู่ในพิพิธภัณฑ์ของเล่นก็ไม่ปาน
ขณะที่หนุ่มบอย... “ผมชอบดูหนังฟังเพลงและเล่นเกมถ้ามีเวลา บ้านในส่วนของผมจึงเป็นจุดศูนย์กลางของทีมงาน และเพื่อนๆ มาร้องเพลง เล่นเกม ปาร์ตี้กัน แล้วผมเป็นคนไม่ค่อยรู้เรื่องสีสัน พี่บอมบ์ก็ออกแบบให้โมเดิร์นหน่อย แต่เน้นสีสดใสเพราะโดยเนเจอร์แล้วบ้านสินเจริญก็คือ บ้านของคนสนุกสนาน อารมณ์ดี”
“ผมว่าบ้านเป็นเหมือนของเล่นนะ เราสามารถแต่งบ้านได้ทุกวัน...” หนุ่มบอมบ์เสริมก่อนสรุปกับเราว่า “ถ้า เปรียบบ้านหลังนี้ก็เหมือนท้องไร่ท้องนาที่เราใช้ทำมาหากิน ใช้ต้อนรับสื่อต่างๆ และเป็นที่กินอยู่หลับนอนด้วย ฉะนั้น ชีวิตของเราทั้งหมดอยู่ที่นี่ บ้านหลังนี้คือชีวิตของสินเจริญครับ”
เมื่อบ้านเป็นทั้งที่พักอาศัยและเป็นที่ทำงาน บ้านหลังนี้จึงไม่เคยเงียบเหงา หากเปี่ยมด้วยสีสันและมีชีวิตชีวาเพราะเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของผู้คนที่ แวะเวียนเข้ามาสัมผัสกับครอบครัวสินเจริญ สิ่งนี้ต่างหากเล่าที่เสริมเติมแต่งให้บ้านสินเจริญยิ่งอบอุ่นและน่าอยู่ ขึ้น และถึงแม้สินเจริญในวันนี้ดูเหมือนจะมีแต่ผลงานรายการทีวีให้ติดตาม แต่พวกเขายังคงเอาจริงเอาจังกับการทำงานเพลง โดยบ้านใหม่นี้จะเป็นที่สร้างงานเพลงชุดใหม่ด้วย
...และเมื่อถึงวันที่พวกเขาพร้อม เราคงได้ฟังบทเพลงดีๆ ที่สร้างสรรค์ขึ้นจากครอบครัวสินเจริญกันอีกครั้ง