เตรียมร่างกายรับมื้อใหญ่ช่วงปีใหม่ให้สุขภาพดีด้วยจุลินทรีย์สุขภาพ

เตรียมร่างกายรับมื้อใหญ่ช่วงปีใหม่ให้สุขภาพดีด้วยจุลินทรีย์สุขภาพ

เตรียมร่างกายรับมื้อใหญ่ช่วงปีใหม่ให้สุขภาพดีด้วยจุลินทรีย์สุขภาพ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     เทศกาลแห่งการสังสรรค์อย่างปีใหม่ใกล้เข้ามาทุกที สิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้คือการนัดทานข้าวมื้อใหญ่ประจำปีกับกลุ่มเพื่อนและคนสนิททั้งหลายที่มีมากมายประหนึ่งเดินสายพบปะแบบมาราธอนก็ไม่ปาน แต่เมื่อช่วงเวลาปีใหม่ผ่านพ้นไปสิ่งที่จะยังเหลืออยู่กะเราแน่ๆก็คือสิ่งไม่พึงประสงค์ต่างๆทางด้านสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นไขมัน ความอ้วน น้ำหนัก เพราะนัดสังสรรค์ส่วนใหญ่เราก็จะไม่ระวังเรื่องอาหารและมักไปจบลงที่บุฟเฟ่ต์ต่างๆที่ยากแก่การห้ามใจในการควบคุมการกิน ซึ่งการทานอาหารแบบนี้อาจทำให้มีปัญหาด้านระบบทางเดินอาหารและการขับถ่ายตามมาอีกด้วย การเตรียมตัวให้พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจเพื่อรับมื้อใหญ่แบบนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้หลังจากผ่านพ้นช่วงปาร์ตี้ไปแล้วเรายังสวยใสสุขภาพดีอยู่นั่นเอง

1. กินก่อนนอนอย่างน้อย 3 - 4 ชั่วโมง
      ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการทานอาหารเย็น คือ 3 – 4 ชั่วโมงก่อนเข้านอน เพื่อให้ลำไส้ได้มีเวลาย่อยอาหารได้เสร็จสมบูรณ์และทำให้เรานอนหลับได้สนิท ในขณะที่เรานอนหลับลำไส้ของเราจะหยุดทำงานไปด้วย ถ้าเรากินอาหารก่อนนอนในเวลาที่ใกล้เกินไป ร่างกายจะย่อยไม่ทันและเกิดการหมักหมม ร่างกายก็จะดูดซึมกากอาหารและของเสียกลับเข้ามาหมุนเวียนในร่างกายใหม่ จนเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาด้านการขับถ่ายหรือสุขภาพตามมา โดยปกติแล้วเวลาที่ดีที่สุดในการเข้านอนคือ 4 ทุ่ม และเวลาที่คุณควรทิ้งช่วงระหว่างมื้อสุดท้ายก่อนเข้านอนคือ 3 ชม. ดังนั้นหนึ่งในวิธีง่าย ๆ เพื่อให้สุขภาพดี คุณจึงควรกินมื้อเย็นไม่เกิน 1 ทุ่มนั่นเอง หรือถ้าคุณมีภาระหน้าที่มากมายที่ต้องนอนดึกกว่านั้นก็ควรจัดสรรเวลาในการทานมื้อเย็นก่อนนอนสัก 3 ชั่วโมง นอกจากนี้การกินอาหารก่อนนอนทันที อาจทำให้อาหารไม่ย่อย ท้องอืด นอนหลับไม่สนิท อาจจะทำให้ไม่หิวตอนมื้อเช้า ซึ่งจะเสียโอกาสในการกระตุ้นระบบเผาผลาญในเวลาที่มีประสิทธิภาพที่สุดไปด้วย

2. กินอาหารที่ย่อยง่าย หรือ อาหารช่วยย่อย
     เพราะการกินมื้อใหญ่ส่วนใหญ่จะนำไปสู่การกินอาหารที่มากเกินความจำเป็น การกินอาหารมากเกินไปโดยเฉพาะอาหารที่ย่อยยาก อย่างพวกเนื้อสัตว์ต่างๆ จะทำให้กระเพาะอาหารต้องทำงานหนัก ร่างกายผลิตน้ำย่อยไม่ทัน ระบบย่อยต้องทำงานนานกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ซึ่งเป็นสาเหตุของความผิดปกติในระบบทางเดินอาหารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคอาหารไม่ย่อย กระเพาะอาหารอักเสบ หรือนำไปสู่ปัญหาท้องผูก ขับถ่ายยากอีกด้วย การเลือกกินอาหารที่ย่อยง่ายจะดีต่อสุขภาพของกระเพาะอาหารและลำไส้มากกว่า ตัวอย่างของอาหารย่อยง่ายให้คุณประโยชน์สูง ได้แก่ ปลาแซลมอน ข้าวกล้อง กล้วย อะโวคาโด และ กิมจิ แต่หลายๆครั้งเราไม่อาจจะเลือกได้ เราก็จะต้องเลือกทานอาหารที่ช่วยย่อย อย่างสัปปะรด ขิง กระเทียม พริกไทยดำ และโยเกิร์ต เป็นต้น เพราะอาหารเหล่านี้จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

3. กินโยเกิร์ตเพื่อสุขภาพ
     หลายๆครั้งผลพวงจากการกินมื้อใหญ่นำมาซึ่งปัญหาด้านการขับถ่าย โดยเฉพาะอาหารจำพวกเนื้อและไขมันจะทำให้ขับถ่ายยากหรือเกิดอาการท้องผูกได้ การรับประทานโยเกิร์ตก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีที่ช่วยในการขับถ่าย เพราะโยเกิร์ตมีจุลินทรีย์ที่ดีต่อลำไส้ ซึ่งในระบบทางเดินอาหารและลำไส้นั้นจะมีจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่และเพิ่มจำนวนขึ้นได้ มีหน้าที่ควบคุมและรักษาสมดุลภายในระบบทางเดินอาหาร ป้องกันไม่ให้มีการเพิ่มจำนวนของเชื้อจุลินทรีย์ที่ไม่ดีที่เป็นอันตรายต่อร่างกายและทำให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ ซึ่งเราสามารถเพิ่มจุลินทรีย์ที่ดีในระบบทางเดินอาหารได้ด้วยการรับประทานอาหารบางชนิด เช่น การทานโยเกิร์ต ซึ่งมีจุลินทรีย์ที่ดีหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกายที่ เช่นจุลินทรีย์สายพันธ์LB81 จากบัลแกเรีย ซึ่งเป็นหนึ่งในชนิดที่เป็นที่นิยมใช้ในโยเกิร์ตในประเทศบัลแกเรียและประเทศญี่ปุ่น โดยพบว่าผู้ที่รับประทานโยเกิร์ตทีมีจุลินทรีย์ที่ดีเป็นประจำ มักจะมีระบบการถ่ายดีขึ้น ขับถ่ายสะดวกขึ้น และยังช่วยลดความรู้สึกแน่นท้อง เกร็งท้อง ในระหว่างขับถ่ายอีกด้วย การทานโยเกิร์ตที่ดีนั้นนอกจากจะเลือกโยเกิร์ตประเภทที่มีจุลินทรีย์ที่ดีต่อร่างกายกาย ควรเลือกแบบที่หวานน้อยและมีความเป็นธรรมชาติสูง ทำจากนมคุณภาพ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งปัจจุบันก็ขายมากมายตามท้องตลาดทั่วไป โยเกิร์ตจึงถือเป็นอีก 1 ในตัวช่วยที่ดีด้านสุขภาพ เมื่อเราขับถ่ายได้เป็นปกติก็จะไร้ปัญหาพุงป่องจากการไม่ขับถ่าย รวมถึงการขับของเสียไม่ให้สะสมอยู่ในร่างกาย ทำให้เรายังคงหุ่นเป๊ะ ผิวใสสุขภาพดีต้อนรับปีใหม่ได้อย่างสดใส


4. กินแต่พออิ่มหรือคุมแคลอรี
     จริงๆแล้วสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้เรารับมื้อใหญ่ได้แบบยังมีสุขภาพดีก็คือการมีวินัยกับตนเองทั้งในเรื่องการรับประทานอาหารและเรื่องการออกกำลังกาย แม้ว่ามื้อนั้นจะเป็นบุฟเฟ่ต์หรือมื้อนั้นจะฟรีเพราะมีผู้อุปการคุณก็ตาม เราก็ควรกินในปริมาณที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย ต้องรู้จักห้ามใจเพื่อให้กินได้โดยไม่ต้องรู้สึกผิดภายหลัง และกินแบบไม่เป็นโทษ ซึ่งปกติผู้ใหญ่ควรจะได้รับพลังงานเฉลี่ย 1,800 กิโลแคลอรีต่อคนต่อวัน โดยแบ่งเป็นมื้อเช้า 40 เปอร์เซ็นต์ (700 กิโลแคลอรี) มื้อเที่ยง 35 เปอร์เซ็นต์ (600 กิโลแคลอรี) และมื้อเย็น 25 เปอร์เซ็นต์ (500 กิโลแคลอรี) แต่การจะกินให้ได้จำนวน 500 กิโลแคลอรีอาจจะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากโดยเฉพาะในมื้อใหญ่ที่เป็นการสังสรรค์ก็อาจจะบวกลบได้นิดหน่อยแต่ก็ไม่ควร 100-200 กิโลแคลอรี่ ดังนั้นการเลือกอาหารที่ทานจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก โดยควรเน้นการทานอาหารจำพวกโปรตีนที่มีไขมันต่ำ พลังงานต่ำ และคาร์โบไฮเดรตที่ให้ใยอาหารสูงเป็นดีที่สุด เช่น อาหารจำพวก ปลา อกไก่ ถั่ว ข้าวกล้อง ผักชนิดต่างๆ เป็นต้น และพยายามหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกของทอด ของมัน หรือของหวาน และพยายามหาเวลาไปออกกำลังกายอยู่เสมอ

     อย่าปล่อยให้มื้อใหญ่ที่กำลังจะมาถึงกลายเป็นปัญหาตามมาภายหลังจนคุณไม่สนุกกับการกิน แค่ต้องกินให้ถูกวิธี ง่าย ๆ แบบนี้ปาร์ตี้ตลอดช่วงปีใหม่ก็ทำร้ายคุณไม่ได้ ที่สำคัญยังจะสวยสุขภาพดีอีกด้วย

 

[Advertorial]

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook