RSV โรคร้ายพบมากในเด็กที่คุณแม่ควรระวัง
ปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นในการเลี้ยงลูกที่คุณแม่ทุกคนไม่อยากเจอ ก็คือเรื่องของการเจ็บป่วยของลูก ยิ่งถ้าหากมีการติดเชื้อไวรัส ก็ยิ่งเป็นปัญหาใหญ่ เพราะนอกจากจะมีอาการรุนแรงแล้ว ยังทำให้เลี้ยงลูกได้ยากกว่าเดิม เนื่องจากเด็กจะมีอาการงอแงมากกว่าปกติ การรักษาก็ต้องใช้เวลานาน ด้วยเหตุนี้เราจึงขอแนะนำให้คุณแม่รู้จักกับไวรัส RSV ไวรัสตัวร้ายที่พบมากในเด็ก หากไม่รีบรักษา ก็อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
ไวรัส RSV คืออะไร มีความอันตรายมากหรือไม่ ?
ไวรัส RSV เป็นไวรัสที่ก่อให้เกิดปัญหากับระบบทางเดินหายใจของเด็ก โดยอาการนำเริ่มแรก จะมีอาการคล้ายกับไข้หวัดธรรมดา ไอ จาม ปวดศีรษะปกติ แต่ถ้าหากมีการพัฒนาเชื้อไวรัสในร่างกายจนมีความรุนแรงมากขึ้น คุณแม่ก็อาจพบว่าลูกจะมีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจ อย่างเช่น ปอดบวม หลอดลมอักเสบ มีเสมหะข้นเหนียวในลำคอจำนวนมาก บางคนอาจมีอาการปากและเล็บเขียว เนื่องจากหายใจไม่ออกจนขาดออกซิเจนได้
รู้ได้อย่างไรว่าลูกติดเชื้อ RSV
สำหรับคุณแม่ที่มีการเลี้ยงลูกด้วยตัวเองสามารถสังเกตได้ง่าย ๆ ด้วยการดูว่า เมื่อลูกมีอาการไอนั้น มีเสมหะสีเขียวหรือสีเหลืองปนออกมาด้วยหรือไม่ ขณะร้องไห้มีน้ำตาไหลออกมาด้วยหรือเปล่า (เนื่องจากเด็กอาจเกิดภาวะขาดน้ำ) ปาก มือ เล็บ เปลี่ยนเป็นสีเขียวเพราะขาดออกซิเจนหรือไม่ การหายใจมีเสียงฟีด หรือรู้สึกหอบร่วมด้วยหรือเปล่า ซึ่งถ้าหากพบอาการเช่นนี้ ก็แปลว่าลูกคุณได้รับเชื้อ RSV แล้ว และควรรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด
ภาวะแทรกซ้อนของการติดเชื้อไวรัส RSV
ถ้าหากผู้ปกครองเพิกเฉย ไม่ยอมพาลูกไปพบแพทย์ แต่เลือกที่จะซื้อยามารักษาเอง ก็อาจจะพบอาการแทรกซ้อนดังต่อไปนี้ได้
เป็นโรคปอดบวม - หรือหลอดลมอักเสบ เด็กจะมีอาการหายใจไม่เต็มปอด หายใจลำบากมากกว่าเดิม
หูชั้นกลางอักเสบ - หากปล่อยไว้นาน ๆ จะทำให้เป็นโรคหูน้ำหนวก
โรคหอบหืด - แม้ว่าตอนแรกเกิดเด็กจะไม่มีอาการนี้มาก่อน แต่เมื่อติดเชื้อ RSV แล้วไม่ได้ทำการรักษาอย่างถูกวิธี ก็มีโอกาสสูงที่เด็กจะเป็นโรคนี้ได้
เลี้ยงลูกอย่างไร ให้ปลอดภัยจากไวรัส RSV
1.หมั่นล้างมือของลูกและของตัวเองให้สะอาดอยู่เสมอ เนื่องจากเด็กชอบดูดอมนิ้วมือตัวเอง จึงทำให้มีโอกาสติดเชื้อง่าย
2.ควรดูแลสุขอนามัยและทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคที่ลอยมาตามอากาศ
3.ไม่ควรละเลยการทำความสะอาดของเล่นเด็ก ควรนำไปต้มหรือเช็ดถูด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อเป็นประจำ จะลดอัตราการได้รับไวรัสชนิดนี้ได้
4.ให้ลูกพักผ่อนให้เพียงพอ และทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะนมแม่ เพื่อเพิ่มภูมิต้านทานให้แข็งแรงกว่าเดิม
โรคติดเชื้อไวรัส RSV เป็นอีกหนึ่งโรคอันตรายสำหรับเด็กที่คุณแม่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด ซึ่งควรดูแลลูกน้อยให้ห่างไกลจากการติดเชื้อไวรัสชนิดนี้อยู่เสมอ และที่สำคัญหากพบความผิดปกติ ก็ควรรีบพาลูกน้อยไปพบแพทย์จะดีที่สุด