ปัญหาของวันแต่งงาน
Q ปกติเป็นคนที่รู้ว่าตัวเองควรจะแต่งตัวยังไง แต่พอถึงเวลาแต่งงาน งงไปหมดเลยค่ะ ยิ่งดูหนังสือที่มีแบบชุดแต่งงานมาก ๆก็ยิ่งเลือกไม่ถูก ทำอย่างไรดี
A ก่อนอื่นคุณควรจะตีวงของความน่าจะเป็นของชุดคุณให้แคบลง ชุดแต่งงานจะเป็นอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับรูปแบบของงานค่ะเช่น งานจัดที่ไหน หรูมากน้อยอย่างไร เป็นงานกลางคืนหรือว่างานกลางวัน การเลือกดูชุดแต่งงาน ตามหนังสือนั้นถูกต้องแล้ว เพราะคุณจะได้หาข้อมูลเตรียมไว้ล่วงหน้า ว่าร้านไหนที่คุณชอบสไตล์ของเขามากที่สุด นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องปลีกย่อยอื่น ๆที่คุณควรจะพลิกไปดูที่คอลัมน์ the dress ในฉบับเดียวกันนี้
Q สายตาสั้นมากค่ะ จะถอดแว่นวันแต่งงานก็คงลำบาก แต่ยังไม่เคยเห็นเจ้าสาวที่ไหนใส่แว่นตามาก่อนเลย หรือใส่คอนเท็กดีค่ะ
A อย่าลืมว่าเจ้าบ่าวของคุณก็เห็นคุณเป็นสาวที่น่ารักของเขาด้วยแว่นตาอันนี้ มาตลอด อย่าคิดว่าวันแต่งงานเป็นวันที่เราต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองสิค่ะ เราจะเป็นตัวของตัวเองใบแบบที่ดีที่สุดต่างหาก ลองคิดดูว่าถ้าคุณคุ้นเคยหน้าตาตัวเองแบบที่เป็นอยู่ ธุระอะไร ที่คุณจะดูรูปแต่งงานของตัวเองในอนาคตแล้วจำตัวเองไม่ได้สิ่งที่คุณต้องคิด ตอนนี้ก็คือ แบบของกรอบแว่นตรงกับแบบเสื้อที่คุณจะสวมหรือเปล่า
Q เกลียดการที่ต้องเป็นจุดเด่นมากที่สุด แต่กำลังจะเป็นเจ้าสาวตอนนี้มีฝันร้าย นึกภาพตัวเองตื่นเต้นจนเป็นลมอยู่กลางงานจะทำยังไงดีค่ะ
A การเป็นเจ้าสาวจะทำให้คุณเป็นยิ่งกว่าจุดเด่น เพราะเท่ากับคุณเป็นราชินีของงานทีเดียวค่ะ จำไว้ว่าแขกที่มาร่วมงานนั้นเขามาเพื่อจะร่วมแสดงความยินดีและทุกคนมีความ รักความปรารถนาดีมาให้คุณทั้งนั้นไม่มีใครจ้องจับผิดคุณอยู่นะคะ ระหว่างพิธีทำใจให้จดจ่อกับพิธีการ ความหมายที่แท้จริงของแต่ละขั้นตอน เชื่อมั่น อย่างน้อยที่สุดก็กับความรักของคุณสองคนที่ยั่งยืนมาจนมีวันนี้ ความเชื่อมั่นจะทำให้คุณมั่นใจมากยิ่งขึ้น ซ้อมการพูดขอบคุณช้า ๆ ชัดถ้อยชัดคำ และดังมากพอ แม้ว่าจะมีไมโครโฟนเป็นตัวช่วยอยู่แล้ว ระหว่างที่พูดถ้ายังไม่คลายตื่นเต้นลืมคนอื่นไปเสีย มองเข้าไปในดวงตาของเจ้าบ่าวของคุณ แล้วคุณจะได้้กำลังใจอีกมากมายเลยค่ะ
Q มีเงินจำนวนจำกัดสำหรับจัดงานแต่งงาน กำลังกลุ้มใจมากค่ะ
A จำนวนเงินไม่ใช่ปัญหาที่หนักที่สุดหรอกค่ะ ถ้าคุณสองคนตกลงกันได้ งานที่กำลังพอดี ใช้จ่ายอยู่ในระดับที่คุณจะรับมือไหวนั่นเป็นวิธีที่ดีที่สุดของการจัดงาน ที่ถูกต้อง ลองคิดดูว่า จำนวนแขกของคุณที่เตรียมเชิญเอาไว้นั้น มากมายเกินไปหรือเปล่า งานใหญ่กับการจัดงานธรรมดา ๆ กับงานที่เล็กลง แต่มีความพิเศษเป็นตัวของตัวเอง จะดีกว่าไหม อยู่ที่การตัดสินใจของคุณอย่าเหน็ดเหนื่อยไปเสียก่อนกับการสืบราคาสถานที่ จัดเลี้ยงที่จะให้ข้อเสนอที่ดีที่สุดกับคุณ นอกจากนี้ก็เป็นเรื่องที่จะประหยัดได้ อย่างอื่น ๆ เช่น เลือกดอกไม้ที่อยู่ในฤดูกาล ดอกไม้ในประเทศ สำหรับการตกแต่งทั้งงาน เช่าชุดแต่งงานแทนที่จะตัด หรือเลือกของชำร่วย ที่คุณและเพื่อน ๆ พอจะช่วยกันทำได้
Q ดิฉันจะเป็นเจ้าสาว แต่เป็นเจ้าสาวอายุ 37 คิดไม่ออกเลย ว่าจะแต่งตัวยังไงดี ถึงจะไม่ดูมากไป รู้สึกว่าตัวเองแก่จนเขิน
A ไม่มีอะไรมากไปสำหรับเจ้าสาวในวันของเธอค่ะ ถ้าเป็นสิ่งที่เธอชอบไม่ว่าเธอจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม ดิฉันไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับตัวคุณเลย จะขอตอบอย่างกว้าง ๆ ก็แล้วกันนะค่ะ สิ่งที่คุณควรคำนึงถึงก็คือ เรื่องของแบบชุดที่เข้ากับรูปร่าง ซึ่งสามารถขอคำแนะนำจากช่างเสื้อได้ และถ้าอยากให้ดูสวยสมวัย เลือกสีผ้าเป็นสีงาแทนสีขาวสะอาด หรือเลือกได้จากสีโทนครีมทั้งหมดรวมทั้งสีทอง ทราบมั้ยคะว่าช่างเสื้อหลาย ๆ คนบอกว่าสาวไทยใส่สีทองสวยที่สุด รูปทรงกระโปรงทิ้งแนบตัวจะดูหรูหรามากว่ากระโปรงสุ่มฟูฟ่องของเจ้าสาววัย ยี่สิบ และแทนที่จะเป็นลูกไม้ (ซึ่งจะดูเป็นคุณป้าได้ง่าย ๆ ถ้าคุณมีวัยเกินสามสิบ) คุณเปลี่ยนเป็นการปักเลื่อมวับวาว จะดูโก้ สมัยใหม่ และดูหรูมาก ๆ ค่ะ เอ๊ะ-แต่ว่าที่จริง 37 นี่ สมัยนี้ไม่มีใครเขาแก่กันแล้วนะค่ะ
Q เราทั้งคู่เป็นคนสมัยใหม่ ไม่ค่อยยึดติดกับประเพณีมากมาย แต่มีปัญหา คือ ทางบ้านไม่ยอมให้เราแต่งงานโดยละเลยธรรมเนียมเก่า ๆ ตอนนี้เลยทำความตกลงจะพบกันครึ่งทาง มีอะไรบ้างคะที่จำเป็นและทำได้โดยไม่ยึดเยื้อ
A โดยทั่ว ๆ ไป การแต่งงานแบบประเพณีไทยจะเป็นเรื่องของความเป็นสิริมงคล ให้ความรู้สึกที่ดี เป็นกำลังใจ ให้กับเจ้าบ่าวและเจ้าสาวที่จะต้องผ่านอุปสรรคอื่น ๆ ซึ่งจะต้องพบอีกมากมายในหนทางข้างหน้าเพื่อความสะดวกและรวดเร็ว เดี๋ยวนี้เจ้าบ่าวเจ้าสาวมักนิยมที่จะทำพิธีหมั้นตอนเช้า หลังจากทำบุญตักบาตรร่วมกัน และจะประกอบพิธีแต่งงานในตอนเย็นวันเดียวกัน ส่วนประกอบที่สำคัญแบบไทย ๆ ก็คือ ขันหมากหมั้น ซึ่งสมัยนี้อาจจะเหลือเพียงแค่ของหมั้น หรือแหวนหมั้น ส่วนขั้นตอนของพิธีแต่งงานที่สำคัญและขาดไม่ได้ ก็คือการหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ สำหรับการปูที่นอนและส่งตัวนั้น จะดูห่าง ๆ ออกไปพอสมควรสำหรับหนุ่มสาวยุคใหม่ เรื่องที่ขาดไม่ได้สำหรับทุกขั้นตอนก็คือ เรื่องของฤกษ์ยาม ซึ่งผู้จะหาฤกษ์ที่ดีให้คุณได้คือพระชั้นผู้ใหญ่ พราหมณ์ และโหราจารย์ทั้งหลาย แต่ถ้าคุณเป็นคนสมัยใหม่ก็คงเคยได้ยินคำว่า ฤกษ์สะดวก คือ ทำเมื่อพร้อมทำเมื่อสะดวกอันนี้ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละคนหรือแต่ ละครอบครัว การแต่งงานแบบไทย ๆ อาจจะดูมากเรื่องสำหรับคนสมัยนี้ก็จริงแต่มีอะไรหลาย ๆ อย่างที่จะเป็นความซาบซึ้งและคุณจะรู้สึกดีมาก ๆ เลยว่า ได้ผ่านพิธีนี้มาแล้ว
Q เคยไปงานแต่งงานหลายๆงานบางทีรู้สึกว่าดนตรีที่ เล่นอยู่ฟังแปลกๆจากอารมณ์หนึ่งกระโดดไปอีกอารมณ์หนึ่ง หรือไม่ก็เล่นเพลงเศร้ามากเหมือนกับนักร้องกับนักดนตรีไม่คิดอะไรเท่า ไหร่นอกจากจะทำงานให้เสร็จๆไป มีคำแนะนำบ้างมั้ยคะว่าดนตรีในงานแต่งงานควรจะเป็นแนวไหน
A สิ่งสำคัญสำหรับดนตรีในวันแต่งงานก็คือ เป็นเพลงเบาสบาย โรแมนติก สื่อถึงความรัก และที่สำคัญมากที่สุด คือต้องไม่ดังหนวกหู จนแขกไม่สามารถพูดคุยกันได้ ถ้าเบื่อที่จะมีเสียงร้องของนักร้อง ต้องการจะเปลี่ยนเป็นการบรรเลงเปียโนแบบเดี่ยว ๆ ก็ไม่เลว หรือจะเป็นกีตาร์คลาสสิกยิ่งฟังก็ยิ่งสบายใจหรือจะเป็นสตริงควอเต็ทก็ไม่เลย ลองปรึกษาผู้ให้บริการด้านดนตรีดูได้ค่ะ คุณยังสามารถเลือกเพลงที่ชอบและเลือกเพลงให้ตรงกับแต่ละช่วงของงานได้อีก ด้วย เช่น ในช่วงของการตัดเค้ก
ขอบคุณข้อมูล : นิตยสาร wedding