ใส่ใจผิวสวย เพื่อผิวขาว แบบ เกรซ-กาญจน์เกล้า
นิตยสาร Slimming ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ปกเกรซ-กาญจน์เกล้า
Cover February 2011
Grace -Kanklao Duaysienklao
เรียกว่าเป็นนักแสดงที่เล่นมาหลายบทบาทพอสมควร สำหรับ "เกรซ-กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า" สาวน้อยผิวโอโม่ที่ก้าวขึ้นมาจากนางร้ายขึ้นแท่นเป็นนางเอก ซึ่งไม่ง่ายเลยสำหรับการก้าวมาอยู่ในจุดตรงนี้ แต่เธอก็สามารถพิสูจน์ฝีมือให้เห็นกันไปแล้วจากละครหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง "ตำรวจเหล็ก" ที่เพิ่งลาจอไปได้ไม่นาน และล่าสุดกับละครโรแมนติกคอเมดี้เรื่อง "อุบัติรักเกาะสวรรค์" ที่กำลังออนแอร์ให้ได้ชมกันอยู่ และอีกเรื่องกับละครย้อนยุค "ทวิภพ" ละครฟอร์มใหญ่แห่งปี ซึ่งงานนี้สาวเกรซได้เล่นควบ 2 เรื่องเลยทีเดียว เมื่องานรุ่งขนาดนี้ แล้วเรื่องส่วนตัวจะเป็นยังไงบ้าง วันนี้ Slimming จึงได้มาร่วมพูดคุยอัพเดทชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวของเธอให้ได้ติดตามกันค่ะ
2 เรื่อง 2 อารมณ์
"ตอนนี้ก็มีละครเรื่อง อุบัติรักเกาะสวรรค์ ซึ่งกำลังออนแอร์อยู่ค่ะ เป็นละครตอนเย็น แนวโรแมนติกคอเมดี้ รับบทเป็นแพรวา ในเรื่องเราต้องถูกบังคับให้แต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รัก ก็เลยตัดสินใจหนี แล้วแกล้งความจำเสื่อมมาอยู่ที่เกาะแห่งหนึ่ง จนมาเจอกับพระเอกแล้วก็รักกัน เกรซแสดงคู่กับพี่ไผ่ พาทิศค่ะ หนักอยู่เหมือนกันนะ เพราะใช้เวลาในการถ่ายทำถึง 1 ปี กับอีก 2 เดือน เป็นละครที่ถ่ายทำนานที่สุดเท่าที่เคยถ่ายมา และมีซีนเยอะมาก ด้วยปัจจัยภายนอกหลายอย่าง เพราะต้องไปถ่ายทำกันที่ทะเลเกือบทุกซีน จึงมีปัญหาในเรื่องของดิน ฟ้า อากาศ เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ก็แฮปปี้ตรงที่ว่าทำงานด้วยกันแล้วรู้สึกสบายใจ รู้ใจกัน ขอบอกว่าภาพสวยมาก อยากให้ติดตามชมกันค่ะ _และอีกเรื่องหนึ่งเป็นละครหลังข่าว เรื่องทวิภพ เป็นละครแนวพีเรียด ย้อนยุคหน่อย ในเรื่องจะมีแพนเค้ก คู่กับพี่อ๋อม ส่วนเกรซคู่กับพี่ณัฐ เทพหัสดิน เรื่องนี้ก็ถ่ายทำไปแล้ว ได้เล่นเป็นครูสอนเปียโนด้วย ก็ชอบนะ สนุกดี รู้สึกว่ามีส่วนคล้ายกับชีวิตเราค่ะ"
จงทำตัวเหมือนน้ำครึ่งแก้ว
"ก้าวแรกที่เกรซเข้ามาในวงการบันเทิง คือการเข้ามาประกวดมิสทีนไทยแลนด์ แล้วได้ตำแหน่งนี้มา ก็รู้สึกดีใจค่ะ อยากบอกว่าตอนนั้นเกรซผมยังสั้นอยู่เลย มีแต่คนสวยๆ มาประกวดทั้งนั้น นี่ถ้ามีใครด่า ก็จะไม่โกรธเลยนะ รู้สึกตัวเองไม่สวยเลย ไม่คิดว่าตัวเองจะได้ตำแหน่งนี้ด้วยซ้ำ แต่เมื่อได้เข้ามาทำงานจริงๆ ก็รู้สึกสนุก ดีค่ะ เกรซคิดว่าสิ่งที่ทำให้เราสามารถทำงานอยู่ในวงการนี้ได้อย่างมีความสุข คือกำลังใจที่มาจากตัวเราเอง และความรักความชอบในงานที่เราทำ บางวันเกรซต้องรับงาน 3-4 งาน ก็มีปวดหัวบ้าง แต่แฮปปี้ดีนะ จากวันนั้นถึงวันนี้ ที่เกรซเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง นับรวมกันก็เป็นเวลา 6 ปีแล้ว ถือว่าเร็วเหมือนกันนะ ที่เราได้มายืนอยู่ตรงจุดนี้ได้ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะประสบความสำเร็จอะไรมากมาย เพราะเราไม่อยากทำตัวเหมือนกับน้ำที่เต็มแก้ว ที่คิดว่าแบบนี้ก็ดีแล้ว ทำดีแล้ว แต่จะเป็นเหมือนกับน้ำครึ่งแก้วที่ต้องเติมน้ำอยู่ตลอดเวลามากกว่า คือสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมได้ตลอด อย่างเราเป็นนักแสดงต้องเรียนแอ็คติ้งไปเรื่อยๆ ไม่มีวันหยุดค่ะ"
โรงเรียนเปียโนในฝัน
"นอกเหนือจากงานแสดง ถ่ายแบบ เป็นพรีเซ็นเตอร์ เกรซก็ชอบร้องเพลงนะคะ แต่เกรซมองว่าทุกงานที่เราได้ทำ มันก็สนุกหมดแหละ เพราะมันให้อะไรหลายๆ อย่างไม่เหมือนกัน อย่างถ้าเล่นละคร แล้วได้เล่นหลายๆ แนว หลายๆ บท ก็ทำให้ชีวิตเรามีสีสันมากขึ้น แต่ถ้าถามว่าอยากเล่นบทไหนเป็นพิเศษ อยากเล่นอะไรที่มันโตขึ้นกว่านี้ เพราะหลายๆ คนยังคงติดภาพว่าเรายังเป็นเด็กอยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเวลาเรารับงานแต่ละอย่าง มันก็ขึ้นอยู่กับคิว และบทด้วย อย่างถ้าบทไหนที่ผู้ใหญ่โอเคก็เล่น หรืองานไหนที่เหมาะกับเราก็ทำค่ะ อย่างตอนนี้นอกจากงานละครยังมีโอกาสได้ร้องเพลงประกอบละครบ้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่เกรซชอบ และอยากทำเหมือนกัน เพราะตอนเด็กๆ เรามีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักดนตรีอยู่แล้ว และคุณพ่อคุณแม่ก็ปลูกฝัง คอยสนับสนุนเรามาตลอด มีส่งให้ไปเรียนเปียโนด้วย ตอนนี้ก็เรียนมาเป็นสิบๆ ปีแล้ว คิดว่าอยากเอาจริงเอาจังทางด้านนี้เหมือนกันนะ อยากเปิดสอนที่บ้าน ให้เด็กๆ มาเรียน มีร้านกาแฟ ร้านเสื้อผ้าเล็กๆ เป็นของตัวเองด้วย แต่คงต้องรอดูโอกาสก่อนค่ะ"
คิดดี ทำดีก็พอแล้ว
"หลักในการดำเนินชีวิตของเกรซ ง่ายๆ เลยไม่ขออะไรมาก ขอเพียงแค่ว่าวันนี้เราทำงานเสร็จแล้ว รู้สึกว่าแฮปปี้นะ อาจจะแฮปปี้มาก หรือน้อยก็แล้วแต่ วันนี้อาจจะลำบากนิดนึง อีกวันอาจจะสนุกจัง ก็มีอยู่แค่นี้แหละ ไม่ได้มีกฎเกณฑ์อะไรมาก ขอแค่เต็มที่กับสิ่งที่ทำก็พอ อย่างเกรซต้องทำงาน และเรียนไปด้วย ก็ต้องรู้จักแบ่งเวลา เพื่อทำ 2 อย่างไปพร้อมๆ กันให้ได้ อาจจะมีวันที่หนัก วันที่เบาสลับกันไปในแต่ละวัน ไม่ได้ซีเรียสค่ะ รู้สึกชีวิตมีสีนสันดี ส่วนต้นแบบในการใช้ชีวิตของเกรซก็ไม่มีนะ จะเป็นตัวของตัวเองมากกว่า แต่อาจจะยึดหลักตามพ่อแม่บ้าง อย่างที่บ้านจะสอนให้เกรซเข้าใกล้ธรรมะที่สุด พยายามปลูกฝังในเรื่องของศาสนาเยอะมาก ซึ่งเกรซคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีนะ เพราะเด็กสมัยนี้ห่างไกลจากเรื่องพวกนี้มาก มารู้ตัวอีกทีว่าต้องเข้าวัด ทำบุญก็ตอนแก่แล้ว เกรซว่ามันไม่ถูกนะ เป็นวิธีคิดที่ผิดมาก จริงๆ มันต้องเริ่มต้นมาจากเด็กๆ เลยด้วยซ้ำ เกรซชอบสวดมนต์ และมีทำบุญบ้าง แต่ก็ไม่ได้เคร่งครัดอะไรขนาดนั้น สบายๆ คิดดี ทำดีก็พอแล้วค่ะ"
ไม่มีอะไรที่เข้ามา แล้วไม่ผ่านไป
"ข่าวที่ไม่ดี เมื่อก่อนก็จะรู้สึกว่าทำไม ทำไม แต่ตอนนี้ก็เริ่มเข้าใจมากขึ้น ถ้าเป็นข่าวที่ไม่กระทบกับตัวเองหรือคนอื่น รู้สึกเฉยๆ ไปแล้วค่ะ เพราะคิดว่ารู้สึกอะไรไปก็เท่านั้น จะแก้ข่าวไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร ปล่อยไปดีกว่า ถ้ามันไม่จริง อย่างข่าวล่าสุดที่รู้สึกว่าแย่มาก คือข่าวฉีดผิวขาว รู้สึกว่ามันไม่แฟร์เลยสำหรับเรา ทำไมต้องกุข่าวขึ้นมาใช้เราหากินในทางที่ผิดด้วย ตอนแรกรู้สึกโกรธนะ และไม่ชอบให้ใครมาเอาเปรียบเราด้วย แต่ตอนนี้ก็ทำใจแล้วล่ะ ไม่ได้ฟ้องอะไร ปล่อยๆ ไป แต่ยังยืนยันว่าไม่ได้ไปทำศัลยกรรมฉีดผิวขาวอย่างแน่นอน ส่วนเวลามีข่าวออกมา เกรซก็ปรึกษากับที่บ้านเหมือนกันนะ เค้าจะให้กำลังใจและเข้าใจเราตลอด แต่เกรซเป็นคนที่ปลอบใจตัวเองค่อนข้างเก่งอยู่แล้ว เวลาเจอเรื่องอะไรที่แย่ๆ แทบไม่ต้องให้คนอื่นมาปลอบเลย ขอแค่มีใครสักคนที่มารับฟังเราก็พอแล้ว แต่ก็ไม่ได้พูดนานนะ เพราะรู้สึกว่าเวลาพูดถึงเรื่องไม่ดีเยอะๆ แล้วจะปวดหัว ก็บ่นนิดๆ หน่อยๆ แล้วปล่อยให้มันจบไป ไม่ได้ซีเรียสกับมันมาก เพราะเกรซยึดหลักที่ว่า ไม่มีอะไรที่เข้ามาในชีวิต แล้วไม่ผ่านไปหรอกค่ะ (ยิ้ม)"
เป็นตัวของตัวเองดีที่สุด
"จริงๆ เป็นคนที่ไม่ได้เซ็กซี่เลยนะ จะเฉยๆ ปกติทั่วไป แต่อาจจะเปลี่ยนไปตามการทำงานมากกว่า แต่เกรซคิดว่าผู้หญิงทุกคน ก็มีหลายมุมอยู่ในตัวเองนะ เกรซเป็นคนที่มีหลายลุค จะหวานหรือเปรี้ยวก็ได้ แล้วแต่บางวัน แต่ปกติเป็นคนร่าเริง ไม่ได้เป็นคนลึกลับซับซ้อนอะไร เข้าถึงได้ง่ายค่ะ อย่างสไตล์การแต่งตัวก็ไม่จำกัดเลยนะ สามารถใส่ได้ทุกแนว ขึ้นอยู่กับอารมณ์ และงานที่เราต้องทำ ส่วนเครื่องประดับที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ สร้อยไข่มุกค่ะ เกรซชอบมาก ส่วนถ้าถามว่ามีส่วนไหนบ้างที่เกรซคิดว่าดูดีที่สุด จากที่ฟังๆ มาเวลาคนพูดถึงเกรซ ก็จะพูดถึงผิว หรือไม่ก็ผมนะ แต่สำหรับเกรซเองไม่ได้มีอะไรพิเศษค่ะ เพราะเกรซคิดว่า เราไม่ได้เป็นคนที่หน้าสวยเป๊ะ หรือมีตาสวย จมูกสวย แต่มันจะมีองค์ประกอบอื่นๆ ที่เข้ามาเสริมให้ดูดีมากกว่า เป็นตัวของตัวเอง และพอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็นเนี่ยแหละค่ะ ดีที่สุดแล้ว"
3 สาวพี่น้อง
"เกรซมีน้องสาวอีก 2 คนค่ะ น้องแกรนด์ กับน้องแกรนท์ กับแกรนด์ ห่างกัน 2 ปี ส่วนแกรนท์จะห่างกัน 5 ปีค่ะ ก็สนิทกันนะ คุยกันได้ทุกเรื่อง แต่ช่วงหลังๆ ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ เพราะเกรซต้องไปถ่ายละครที่ต่างจังหวัดบ้าง เวลาจึงไม่ตรงกัน โดยเฉพาะแกรนด์ยิ่งไม่ค่อยได้เจอกันเลย เพราะเค้าก็มีงานที่ต้องทำ เกรซก็เป็นห่วงเค้านะ ยิ่งเข้ามาทำงานในวงการนี้ก็ยิ่งเป็นห่วงเรื่องสุขภาพ และความรับผิดชอบ กลัวเค้าจะเหนื่อยและท้อเหมือนกัน แต่เค้าก็จะมีคนคอยช่วยดูแลทั้งในเรื่องของคิวงาน และการรับงานอยู่แล้วค่ะ เราก็คอยดูอยู่ห่างๆ มากกว่า"
ขออยู่คนเดียวไปก่อน
"ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครค่ะ งานเยอะขนาดนี้ ถึงมีไป ก็เลิกอยู่ดี ตอนนี้คุยกันเป็นพี่ เป็นเพื่อน สนุกสนานเฮฮาไปก่อนดีกว่า ก็ไม่ได้จริงจังอะไรมาก และเราต้องทำงานเยอะ บางครั้งต้องไปถ่ายละครต่างจังหวัดด้วย เวลามีปัญหาอะไรกัน นอกจากจะลำบากเรื่องงานแล้ว ยังต้องลำบากที่จะต้องมาหาเวลาปรับความเข้าใจกันด้วย และถ้าเราเป็นคนสบายๆ แต่อีกคนนึงไม่สบายกับเรา มันก็ไปด้วยกันไม่ได้อยู่ดี เพราะฉะนั้นคนๆ นั้นต้องเข้าใจเราด้วย ตอนนี้ขออยู่คนเดียวไปก่อน แต่แอบเหงาบ้างเหมือนกันนะ เกรซว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องของโชคชะตา เดี๋ยวถึงเวลามันก็มาเอง ไม่ต้องรีบร้อนหรอกค่ะ"
รัก คือ ความเข้าใจ ไม่ใช่แค่โปรโมชั่น
"สำหรับสเปกของเกรซก็ไม่มีนะ ขอแค่ความเข้าใจก็พอ แต่ต้องเข้าใจกันจริงๆ นะ (เน้นเสียง) ไม่ใช่เข้าใจแบบโปรโมชั่น เอาง่ายๆ ไม่ต้องพูดเยอะ ไม่จู้จี้จุกจิก เพราะเกรซคิดว่าการคบกันของคนสองคน ต้องมีความเข้าใจกัน และเชื่อใจ ให้เกียรติซึ่งกันและกันด้วย ไม่ว่าจะคบกันแบบไหน เป็นเพื่อน หรือเป็นพี่ เป็นคนรัก มันก็ต้องมีช่องว่างให้กันบ้าง ซึ่งมุมมองความรักของเกรซจากเมื่อก่อนจนถึงตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปเยอะเหมือนกันนะ จากที่เป็นคนใจร้อนก็ใจเย็นมากขึ้น อะไรที่ปล่อยๆ ไปได้ ก็ปล่อยไปค่ะ"
กินอะไรเข้าไปก็ได้อย่างนั้น
"เกรซดื่มน้ำน้อยมาก ไม่ชอบดื่มทั้งน้ำเปล่าและน้ำอัดลม จึงพยายามดื่มน้ำผัก ผลไม้ให้มากๆ แทน ส่วนเรื่องการดูแลรูปร่างไม่เคยคิดจะอดอาหารเลย เพราะเป็นโรคกระเพาะ เพราะฉะนั้นช่วงไหนที่ต้องการลดน้ำหนักก็แค่ลดปริมาณอาหารลง หลังทุ่มนึงพยายามไม่กิน ถ้าหิวก็จะดื่มนมอย่างเดียว จะไม่กินจุบจิบค่ะ และพยายามออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย อย่างเกรซจะใช้วิธีวิ่งอยู่ที่บ้านให้พอมีเหงื่อ ไม่ค่อยมีเวลาไปเข้าฟิตเนสเท่าไหร่ค่ะ แต่ถ้าได้เล่นกีฬา ก็จะเลือกว่ายน้ำ เพราะเป็นกีฬาที่ชอบมาก เวลาเห็นสระว่ายน้ำทีไร อยากกระโจนเข้าใส่เลย แต่จริงๆ เกรซก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องน้ำหนักเท่าไหร่ เพราะเป็นคนที่เผาผลาญเร็ว น้ำหนักขึ้นง่าย ลงง่าย ส่วนใครที่อยากลดน้ำหนักด้วยการกินยาลดความอ้วน ไม่โอเคเลยนะ เพราะมันต้องมีเอฟเฟ็กต์ต่อร่างกายอยู่แล้ว เกรซว่าคนเราเวลากินอะไรเข้าไป มันต้องได้เหมือนอย่างที่กินเข้าไปนั่นแหละ เหมือนที่เค้าว่ากินหมูก็เป็นหมูไง (หัวเราะ)"
เรื่องผิวเป็นเรื่องสำคัญ
"เห็นผิวเกรซเนียนเรียบแบบนี้ต้องขอบคุณ คุณพ่อคุณแม่ที่ให้มาค่ะ และด้วยความที่คุณแม่เป็นคนรักสวยรักงาม เกรซก็ได้คุณแม่นี่แหละเป็นแบบอย่างในการดูแลเรื่องความสวยความงาม โดยเฉพาะการดูแลสุขภาพผิว ตั้งแต่เด็กๆ แล้วเกรซจะพกโลชั่นทาผิวและครีมกันแดดใส่กระเป๋าตลอดเลย เวลาผิวแห้งหรือก่อนตากแดดก็หยิบขึ้นมาทา เรียกว่าเป็นคนที่ค่อนข้างดูแลผิวพรรณเยอะพอสมควร อย่างเวลาออกกองถ่ายต่างจังหวัด เจอแสงแดดจัด ต้องมีร่ม มีเสื้อคลุมบ้าง เพื่อป้องกันผิวไหม้ค่ะ"
.................................................................................................
Profile's Grace
ส่วนสูง 175 ซม.
น้ำหนักปัจจุบัน 50 กก.
น้ำหนักมากสุด 55 กก.
น้ำหนักน้อยสุด 46 กก.
Menu To Slim
เช้า ข้าวผัดกะเพรา+ไข่ดาว
เที่ยง ข้าวสวย+ผัดผัก
เย็น ส้มตำ+ไก่ย่าง
เรื่องชิคๆ อินเทรนด์กว่านี้ คลิก..