“Ugly-Shoes” รองเท้าดีไซน์แปลก เก๋แบบงงๆ เทรนด์น่าจับตามองในปีนี้

รองเท้าหน้าตาแปลก เป็นกระแสที่คุณอาจจะเข้าไม่ถึง และเป็นกระแสที่คุณไม่จำเป็นต้องตามก็ได้

สนีกเกอร์กุชชี่ หรือ อาดิดาส  สแตน สมิธ รองเท้าที่ใครๆ ต่างลงความเห็นว่าใส่แล้ว “เก๋” ใส่แล้ว “ชิค” เมื่อเจอรองเท้าแบบ “Ugly-Shoes” ที่ถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นเทรนด์ที่น่าจับตามองในปีนี้ อาจจะงงจนอ้าปากค้าง หรือไม่ก็เบ้ปากแรงไปเลย

รูปปั้นเซรามิค Ugly Shoes โดย @0h_heck

ยิ่งเห็นอินสตาแกรมรองเท้าแฟชั่นสายแปลกที่มีชื่อว่า @crimesagainstshoemanity ได้โพสต์รูปคาดการณ์แบบรองเท้าในปี 2018 ของแบรนด์ Balenciaga ซึ่งเป็นทรงคล้ายรองเท้าวิ่งแบบ  “five-fingers”  และยังมีรองเท้าที่โชว์นิ้วเท้า (Toe Shoes) อีกหลายแบรนด์ ที่โผล่มาบนรันเวย์ให้เราเห็นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งมีทำนายไว้ว่าอาจจะเป็นไอเท็มฮิตในปีนี้ ทำให้อดคิดไม่ได้ว่านี่เรากำลังเข้าสู่ยุคยุคแห่งความขบถของแฟชั่นอย่างจริงจังแล้วมั้ง?

เพราะรองเท้าหน้าตาแปลกถูกมองว่า “น่าเกลียด” นี่แหละ กำลังจะกลายเป็นเทรนด์ที่โลกแฟชั่นมองข้ามไม่ได้เลย ถึงต่อให้มองข้ามคุณก็จะต้องเจอมันอยู่ดี เพราะในปีที่ผ่านมา ‘ดีมนา วาซาเลีย’  ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์คนปัจจุบันของ Balenciaga ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าแฟชั่นไอเท็มที่ “น่าขำ” ได้กลายเป็นกระแสที่ใครก็ต่างพูดถึงกันตลอดมา

Getty Images

ดีมนา วาซาเลีย ครีเอทีฟไดเร็กเตอร์คนปัจจุบันของ Balenciaga 

ดูอย่างรองเท้าของ Balenciaga รุ่น Speed Trainer รองเท้าคล้ายถุงเท้า (Sock-a-like) ราคาเหยียบ 20,000 บาท ที่ฮอตติดลมบนในวงสตรีทแฟชั่น แม้แต่ดาราเซเลบบ้านเราก็ต้องมีติดตู้รองเท้ากันคนละคู่ จนมีแม่ค้าหัวใส เอาของปลอมมาขายเพียบ รวมไปถึงสนีกเกอร์รุ่น Triple S และ Balenciaga Platform Crocs รองเท้าแพลตฟอร์มสูงสีสดใส ที่กระแสแรงไม่แพ้กัน

จ๊ะ จิตตาภา, เป้ย ปานวาด และเมย์ เฟื่องอารมย์สวมรองเท้าของ Balenciaga รุ่น Speed Trainer

หลังจากที่ดีมนา วาซาเลียได้ฉีกภาพลักษณ์แฟชั่นชั้นสูงของ Balenciaga แบบเดิมๆ ทิ้งสิ้นซาก ไม่เหลือคราบแบรนด์แฟชั่นเฮ้าส์ระดับโอต กูตูร์ เก่าแก่ที่จับต้องไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ในปี 2018 Balenciaga ก็จะยังไม่หายหน้าหายตาไปจากหน้าเพจแฟชั่นอีกเช่นกัน หนำซ้ำอาจจะถูกพูดถึงมากขึ้นด้วย

ทำไมน่ะเหรอ? เพราะวาซาเลียเป็นดีไซเนอร์สายแอนตี้-แฟชั่น (Anti-fashion) ที่สร้างสรรค์ผลงานโดยไม่อิงแฟชั่นกระแสหลัก ความขาดๆ เกินๆ งงๆ เสียดสีสังคมหน่อยๆ นี่แหละคือแนวทางของเขาเลย และมองว่า “สิ่งที่น่าเกลียดนี่แหละดี” และสิ่งนี้ได้กลายเป็นสิ่งใหม่ น่าตื่นตาตื่นใจ ยิ่งได้เห็นแฟชั่นโชว์ที่เต็มไปด้วยไอเท็มที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ยิ่งกระตุ้นให้ใครๆ ต่างพูดถึงมากขึ้น รวมไปถึงแฟชั่นแบรนด์อื่นๆ ที่มีแนวทางนี้ด้วยเหมือนกัน ไม่เฉพาะแค่ Balenciaga เท่านั้น

Balenciaga Women Spring/Summer 2018

ทั้งนี้ Vogue Thailand นิตยสารแฟชั่นหัวนอก เคยอธิบายแนวทาง Belenciaga ไว้ว่า “โลกสตรีทแวร์ของบาเลนเซียก้านั้นแท้จริงเป็นเรื่องของการล้อเลียนผ่านลวดลายโลโก้ทางการเมืองเสียส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นลายโลโก้ที่ก๊อปปี้ถุงก๊อบแก๊บห้างซูเปอร์มาร์เก็ตชนชั้นล่างที่ชื่ออัลดี้ (Aldi) หรือลวดลายโลโก้ของนักการเมืองขวัญใจมหาชนชาวแรงงานนาม เบอร์นี่ แซนเดอร์ส (Bernie Sanders) เสื้อผ้าทั้งหมดที่บาเลนเซียก้านำเสนอจึงเป็นการหยิบยกเอาสตรีทสไตล์แบบคนจนตามท้องถนนมาดัดแปลงใหม่ บางลุคจึงมีขนาดผิดสัดส่วนไม่เหมือนเสื้อผ้าสั่งตัดชั้นสูงตามรันเวย์รูปแบบเดิม หรือบางลุคก็มีหน้าตาเหมือนเสื้อผ้าคนจรจัดที่โกยๆ ก่อๆ ห่อผ้ามาห่มตัว การสร้างเสื้อผ้าหน้าตาจนๆ เพื่อขายให้คนรวยที่มีปัญญาซื้อ เพราะเสื้อแต่ละตัวนั้นมีราคาหลักหมื่นปลายๆ ถึงหลักแสน จึงสามารถเรียกความสนใจได้ทั้งกลุ่มคนชั้นสูงที่มีตังค์จ่าย และกลุ่มคนชั้นล่างที่ต่างพากันประกาศความเป็นเจ้าของ แล้วล้อเลียนถากถางพวกคนรวยกันจ้าละหวั่น”

อาจกล่าวได้ว่า ดีไซเนอร์ขบถแฟชั่นอย่างวาซาเลียได้ปลุกกระแสแอนตี้แฟชั่นได้สำเร็จอยู่ไม่น้อย ทั้งในแง่ที่ถูกพูดถึงจนเป็นกระแส แม้จะกลายเป็น “ขี้ปากชาวบ้าน” ที่หัวเราะเยาะเย้ยผลงานของเขาไปบ้าง และใช่ว่าเขา “ทำเอาฮา” สักหน่อย นี่ของซื้อของขายที่ "แปลกแต่ขายได้" เพราะมีความเป็นสตรีทแวร์ที่จับต้องได้มากขึ้น ทั้งยังมีแฟชั่นแบรนด์เจริญรอยตามกันเป็นแถว