การที่ผิวคนเราขาดความชุ่มชื้นและแห้ง หยาบกร้าน เกิดมาจากถูกอนุมูลอิสระ (free radical) ซึ่งเป็นโมเลกุลขนาดเล็กทำลายผิว เมื่อร่างกายได้รับ ประสิทธิภาพในการทำงานจะลดลง เซลล์ต่าง ๆ จะเสื่อมสภาพขาดความยืดหยุ่น และเราเคยได้ยินว่าสารแอนติออกซิแดนต์หรือสารต้านอนุมูลอิสระ คือกุญแจไขความชราและความเจ็บป่วยต่าง ๆ ได้ แต่ไม่มีความเข้าใจมากพอว่าจะอะไรได้เพื่อประโยชน์แก่เราได้บ้างใช่หรือไม่ วันนี้เรามาเริ่มต้นเรียนรู้ว่าจะจัดการทำลายเซลล์ร่างกายของอนุมูลอิสระด้วยการกินอาหารที่ดีกัน

          ไม่ว่าเราจะเลือกกินอาหารที่ดีเพียงใด แต่ยังมีโอกาสที่จะขาดวิตามินและแร่ธาตุบางชนิดที่จำเป็นต่อสุขภาพและความงาม ร่างกายต้องการวิตามินที่จำเป็น แร่ธาตุและสารอาหารในสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อให้ทำงานได้เต็มที่ โดยทั่วไปแล้วการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากทำงานร่วมกันหลายชนิด จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะกินวิตามินอี เพียงอย่างเดียวแล้วจะช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ดังนั้นเราจึงความกินสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติอย่างหลากหลาย เช่น วิตามินเอ ซี อี ซีลีเนียม และสังกะสี

สารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ

           สารต้านอนุมูลอิสระที่มาจากธรรมชาติ ได้แก่ วิตามินและแร่ธาตุจากอาหารที่ไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป หรืออาหารที่มีลักษณะใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด ซึ่งสารอาหารนี้จะทำงานร่วมกันกับเอนไซม์ต่าง ๆ ในร่างกายในการจับและกำจัดอนุมูลอิสระที่เป็นพิษ ก่อนที่จะทำลายเนื้อเยื่อที่บอบบางต่าง ๆ แต่การกินสารต้านอนุมูลอิสระเพียงครั้งเดียว ไม่อาจจะทำให้ผิวหนังมีสุขภาพดี สดใส และอ่อนเยาว์ได้ตลอดไป เราจำเป็นต้องได้รับสารนี้อย่างสม่ำเสมอจากการกินอาหาร เพื่อให้ทันกับการผลิตอนุมูลอิสระขึ้นมาใหม่ ดังนั้นการกินอาหารสดที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการแปรรูปทั้งหลายจึงมีความสำคัญอย่างมาก ถ้าไม่สามารถกินอาหารดังกล่าวได้ ควรหาอาหารเสริมมาเพื่อเป็นตัวช่วย

โพรไบโอติกส์(Probiotics)

            เป็นแบคทีเรียชนิดดีที่อยู่ในลำไส้เล็ก ซึ่งร่างกายจำเป็นต้องมีในปริมาณที่มาก เพื่อให้ภูมิคุ้มกันและสุขภาพผิวดี การที่ร่างกายขาดจะทำให้ร่างกายขาดสมดุล และนำไปสู่การเกิดเชื้อราแคนดิดาอัลบิแคนส์ ซึ่งไม่เพียงส่งผลต่อลำไส้ ยังสร้างปัญหาอื่น ๆ เช่น โรคภูมิแพ้ สิว ผื่นผิวอักเสบ และอาการคันตามผิวหนัง ในผักสดและโยเกิร์ตรสธรรมชาติจะช่วยให้อาหารแก่แบคทีเรียชนิดดีได้ นักวิทยาศาสตร์ทำการวิจัยว่า การขาดแบคทีเรียชนิดดีจะเป็นสาเหตุของความแก่ก่อนวัย เราจึงควรหาอาหารเสริมที่มีแอซิโดฟิลัสและไบฟิดัสที่มีคุณภาพสูง มาเพื่อช่วยให้อาหารแก่แบคทีเรียชนิดดีนี้ แต่ถ้าต้องการเพียงเล็กน้อยการกินโยเกิร์ตรสธรรมชาติก็พอช่วยได้เป็นอย่างดี เพราะมีแอซิโดฟิลัสและไบฟิดัสอยู่ด้วยแต่มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

http://140secretbeauty.blogspot.com/

อัลบั้มภาพ อยากให้ผิวเต่งตึงอีกครั้งต้องทำอย่างไร ภาพที่ 1 / 1

อยากให้ผิวเต่งตึงอีกครั้งต้องทำอย่างไร