เมื่อสาวประเภท2 ขอเป็นแอร์ฯ
...ถ้าสัมภาษณ์ผู้หญิงทุกคนบนโลกนี้ได้ คุณก็จะพบว่า ความฝันของพวกเธอมากกว่าครึ่ง ล้วนอยากจะเป็นนางฟ้าที่สวมยูนิฟอร์มของสายการบินใดสายการบินหนึ่ง
"พีซีแอร์ "โอกาสของสาวประเภทที่สอง
และวันนี้ "ปาฏิหารย์"ก็เกิดขึ้นมาแล้ว จากผู้ชายคนหนึ่งที่มีชื่อว่า "ปีเตอร์ ชาน" หรือ "ปิโย จันทราภรณ์" ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พี.ซี. แอร์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหารสายการบิน พีซี แอร์ ที่กำลังจะเปิดทำการบินในปลายเดือนเมษายนศกนี้ เมื่อเขาประกาศว่า จะเป็นสายการบินแรกของโลกที่จะรับสมัครสาวประเภทที่สองเข้ามาเป็นแอร์โฮสเตสของสายการบินของเขา และต้องขอขอบคุณ กรมการบินพลเรือที่เปิดโอกาสให้กลุ่มคนที่มีความสามารถเหล่านี้ได้ทำตามความฝัน
เปิดหัวใจ 4 สาว
น้องนัน เรียนจบปริญญาตรีคณะมนุษย์ศาสตร์เอกภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ แอร์โฮสเตส
น้องรัน จบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยอัญสัมชัญ เธอพูดได้ถึง 4 ภาษา คือ ภาษาไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น จีน
น้องมิว จบมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เกียรตินิยม วิทยาการจัดการ
มาปิดท้ายกันด้วย"น้องฟิล์ม"อดีตมิสทิฟฟานี่ ,นักแสดง,นางแบบ,และพิธีกร ชื่อดัง ที่สำคัญถือได้ว่าเป็นแอร์โฮสเตสคนแรกๆที่สายการบินพีซี แอร์ กล้าประกาศว่าจะติดปีกให้ ถ้าสามารถผ่านการอบรม และยังเป็นผู้จุดประกายให้กับ "ปีเตอร์"เจ้าของสายการบิน จนเป็นที่มาของการประกาศนโยบายให้พีซีแอร์ ประกาศรับสมัครสาวประเภทสองมาเป็นแอร์โฮสเตส....
ถ้าสัมภาษณ์ผู้หญิงทุกคนบนโลกนี้ได้ คุณก็จะพบว่า ความฝันของพวกเธอมากกว่าครึ่ง ล้วนอยากจะเป็นนางฟ้าที่สวมยูนิฟอร์มของสายการบินใดสายการบินหนึ่ง แต่ถ้าพวกเธอเป็นผู้หญิงแค่จิตใจ ล่ะ ? หรือว่า...ต้องไปเกิดใหม่ !!!
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าสาวประเภทสอง ลุกขึ้นมาแล้วตะโกนดังๆกับสังคมว่า พวกเธอก็มีความฝันอยากจะเป็นนางฟ้าแสนสวยบนนกเหล็กขนาดยักษ์เหมือนกับผู้หญิงทั่วไป หลายคนคงหัวเราะกันจนฟันร่วง แม้ว่าในโลกยุคใหม่ ที่นักสิทธิมนุษยชนหลายคน ประกาศกร้าวถึงความเท่าเทียมกันทางเพศ ทั้งชาย-หญิง-ทอม-ดี้-เกย์-กระเทย ฯลฯ
แต่ในความเป็นจริง พวกเขาเหล่านี้ ก็ยังอยู่ในซอกหลืบของมุมมืด ไม่อาจก้าวข้ามกรอบเดิมๆที่ถูกครอบด้วยจารีตมานับศตวรรษให้ทลายลงภายในข้ามชั่วคืนได้ยิ่งอาชีพแอร์โฮสเตส แม้คุณจะเป็นหญิง 100% แถมหน้าตาสะสวยปานดาราก็ไม่ใช่ว่า จะเดินเข้าสู่วิชาชีพนี้โดยง่าย ความจริงก็คือ "แอร์โฮสเตส"ก็ยังเป็นแค่ความฝันในวัยเด็กของผู้หญิงอีกหลายล้านคน เพราะฉะนั้น ถ้าคุณคือสาวประเภทสอง ที่แม้จะแปลงกายมาจนไม่หลงเหลือความเป็นบุรุษเพศก็ตาม แต่ถ้าบัตรประชาชน ยังใช้คำนำหน้าว่า "นาย" ความปราถนาในอาชีพนี้ ก็เป็นเพียงเรื่องโจ๊กที่เล่ากันให้ขบขันในหมู่เพื่อนฝูงเท่านั้น ยกเว้นว่า จะมี "ปาฏิหารย์"
"พีซีแอร์ "โอกาสของสาวประเภทที่สองและวันนี้ "ปาฏิหารย์"ก็เกิดขึ้นมาแล้ว จากผู้ชายคนหนึ่งที่มีชื่อว่า "ปีเตอร์ชาน" หรือ "ปิโย จันทราภรณ์" อดีตหมอดูสัมผัสที่หกชื่อดัง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท พี.ซี. แอร์ จำกัด เจ้าของและผู้บริหารสายการบิน พีซี แอร์ ที่กำลังจะเปิดทำการบินในปลายเดือนเมษายนศกนี้
เมื่อเขาประกาศว่า จะเป็นสายการบินแรกของโลกที่จะรับสมัครสาวประเภทที่สองเข้ามาเป็นแอร์โฮสเตสของสายการบินของเขา
"นี่ไม่ใช่แผนตลาด หรือ กลยุทธ์ในการประชาสัมพันธ์สายการบินของผมทั้งสิ้น เพียงแต่อยากให้โลกรู้ว่าเมืองไทยมีเสรีภาพ มีความเท่าเทียมกัน เราจะเห็นว่าสาวประเภทสองเป็นบุคคลที่มีความสามารถ และเป็นที่ยอมรับในสังคมมากขึ้นจากความสามารถที่หลากหลาย บางคนได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ แต่กลับถูกจำกัดอยู่แค่ไม่กี่อาชีพ ผมแค่อยากเปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความสามารถ"ปีเตอร์ ย้ำถึงจุดประสงค์ในการเปิดรับสาวประเภทสองเข้ามาเป็นแอร์โฮสเตสของสายการบินพีซีแอร์
เขาเล่าว่า "วันนั้นผมไปประชุมองค์กรแอร์ไลนส์ต่างประเทศ เพื่อศึกษาและหาข้อมูลเพื่อที่จะเปิดสายการบิน พีซีแอร์ หลังจากเสร็จประชุม ระหว่างนั้นก็เจอผู้หญิงคนหนึ่งได้คุยกันชื่อ "น้องฟิล์ม" เธอบอกกับผมว่า ไม่คิดจะรับแอร์โฮสเตสเป็นสาวประเภทสองบ้างหรือ ผมก็เลยเกิดความคิด ที่จะช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ และและเมื่อไปปรึกษาเรื่องนี้กับกรมการบินพลเรือน ทุกคนก็เห็นด้วย หลังจากนั้นผมก็โทรกลับไปหาเธอ จากนั้นผมก็เปิดรับสมัครสาวประเภทสองไปพร้อมๆกันเลย "
ในวันที่ 24 ม.ค.สายการบินพี.ซี.แอร์ ได้เปิดรับสมัครพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ในตำแหน่งสจ๊วต และแอร์โฮสเตส ซึ่ง มีผู้มาสมัครกันเป็นจำนวนมากถือได้ว่าเป็นการเปิดโอกาสสาวประเภทสองให้สามารถประกอบอาชีพได้อย่างเช่นเพศชายและหญิง ทั้งนี้ในใบสมัครของสาวประเภทสองจะระบุว่า เป็นบุคคลไม่มีเพศ หรือ? Unisex
ประธานกรรมการบริหารบริษัท พี.ซี.แอร์ บอกว่า "น้องฟิล์ม" ธัญญรัศม์ จิราภัทร์ภากร มีตำแหน่ง เป็นมิสทิฟฟานี่ ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2007 ซึ่งนับว่าได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ดังนั้นทางสายการบินก็มีความยินดีที่จะติดปีกนางฟ้าให้กับน้องฟิล์มเลย โดยที่น้องฟิล์มจะต้องเข้าอบรมและสอบการเป็นลูกเรือตามข้อกำหนดของทางสายการบิน พร้อมกันนี้ทางสายการบินต้องขอขอบคุณ กรมการบินพลเรือน ที่เปิดโอกาสให้กลุ่มคนที่มีความสามารถเหล่านี้ได้ทำตามความฝัน
"ไม่อยากให้มีการแบ่งแยกเรื่องเพศชายหรือเพศหญิง เพราะขณะนี้ทั่วโลกให้การยอมรับสาวประเภท 2 แล้ว พี.ซี.แอร์เป็นองค์กรแรกของเอเชียหรือโลกก็ว่าได้ที่มีการเปิดรับ สมัครสาวประเภท 2 ให้มาทำงานอย่างเปิดเผย เพราะที่ผ่านมาหลายองค์กรรับสาวประเภทสองมาทำงาน แต่ไม่มีการเปิดเผยว่าเป็นสาวประเภทสอง"
มีความสามารถเพศใดก็สมัครได้
ผู้ดูแลฝ่ายพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของสายการบิน พีซีแอร์ ให้สัมภาษณ์ว่า ขั้นตอนการสมัคร จริงๆแล้วไม่มีความแตกต่างกับผู้หญิง แต่จะต่างกันคือใช้คำนำหน้าว่านาย โดยหลักฐานที่ใช้คือใบเกณฑ์ทหาร และมีใบรับรองแพทย์ว่าผ่านการผ่าตัดแปลงเพศแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่สาวแปลงเพศแต่งเป็นผู้หญิงมาเลยตั้งแต่วันแรก ผม หน้า ตา เหมือนผู้หญิงทุกอย่างยกเว้นพาสปอร์ตเท่านั้นเอง ที่บอกว่าเป็นนายอยู่
อย่างไรก็ตามถ้าหลักฐานทั้งสองอย่างไม่ครบ จะสมัครไม่ได้ เพราะการเกณฑ์ทหาร เป็นกฏข้อบังคับอยู่แล้ว ส่วนผู้หญิงนั้นมีการกำหนดความสูงคือ ถ้าผู้หญิงต้องไม่ต่ำกว่า 160 ส่วนผู้ชายต้องไม่ต่ำกว่า 170
ส่วนกรณียังไม่ได้แปลงเพศ ก็รับเหมือนกัน เพราะนโยบายของสายการบินต้องการเปิดกว้างในเรื่องสิทธิมนุษยชน ไม่ว่าจะเป็นเพศใด ขอให้มีความสามารถเพียงพอ และผ่านเกณฑ์ในคุณภาพที่เรากำหนด ก็สามารถเข้ามาทำงานได้ ทางสายการบินไม่ได้บอกว่า จะต้องไปแปลงเพศมาก่อนแล้วจึงรับ นอกจากนี้จะดูถึงความเหมาะสม แม้ว่าถ้าแปลงเพศแล้ว แต่ถ้าดูแล้วเหมือนผู้ชายก็คงไม่รับหรือ ไม่ต้องแปลงแต่เหมือนผู้หญิงก็ไม่ปิดกั้น
"ลูกเรือล็อตแรก เราต้องเปิดอบรม 2 ห้องๆละ 30 ท่าน บวกกับแสตนบายด์จำนวนหนึ่ง 7-10 คน สำหรับเครื่องบินหนึ่งลำ เพราะในหนึ่งคลาสเรียนต้องไม่เกิน30 คน สำหรับรุ่นนี้จะมีสาวแปลงเพศทั้งหมด 4 คน น้องพวกนี้ไม่มีความแตกต่างจากคนอื่นๆเลย อยู่ในกฏระเบียบดีมาก เข้ากับเพื่อนฝูงได้ ทุกคนให้ความเป็นเพื่อน เปิดกว้างและดูก็รักกันดี"
เธอ เผยต่อว่า ที่ผ่านมามีสาวประเภทสองที่มีความสามารถมีอยู่มากมายเพียงแต่ว่าพวกเขาไม่ทราบข้อมูลมาก่อน เพราะบริษัทเพิ่งเปิดและระยะเวลามันรวดเร็วมาก ในอนาคตอีก 1 ปีข้างหน้าเมื่อสายการบินเปิดขึ้นมา ก็น่าจะมีน้องกลุ่มนี้ที่มีความสามารถเข้ามาสมัครให้ได้คัดเลือกมากขึ้น
"ที่ผ่านมาเราไม่ได้ทำเพื่อประชาสัมพันธ์หรือการตลาดให้เกิดชื่อเสียงโด่งดังเวลาเปิดตัว เพราะไม่มีผลกับเรา เนื่องจากเราไม่ได้ขายตั๋วแบบบินประจำ เพราะของเราเป็นชาเตอร์ไฟล์ท แต่เราขายตั๋วผ่านเอเยนต์ น้องพวกนี้บางคนจะรับไม่ได้ จะถูกบีบในอาชีพ เป็นนางโชว์บ้าง ทั้งๆที่พวกเขามีความสามารถไม่ได้แพ้คนอื่นๆ"
ความสามารถที่ถูกซ่อนไว้
เธออธิบายต่อว่า หลังจากสัมภาษณ์เสร็จต้องสอบว่ายน้ำให้ผ่าน เพราะในการฝึกอบรมนอกจากการเรียนทฤษฏี ความปลอดภัย ทฤษฏีการบิน หรืองานบริการเราต้องฝึกปฏิบัติ จะมี 4 ข้อที่บังคับอย่างเข้มงวด
1.ต้องเปิดประตูได้ในทุกกรณีเปิดแบบปกติ และฉุกเฉิน
2.สไลด์กลาง นั่นคือ หมายความว่าต้องโดดสไลด์เป็น จะใช้สไลด์ให้ปลอดภัยอย่างไร
3.การดับไฟ ซึ่งบนเครื่องจะเกิดไฟได้หลายๆกรณี สิ่งง่ายๆเลย ผู้โดยสารอาจจะไปแอบสูบบุหรี่ หรือ ไฟฟ้าลัดวงจรในเตาอบอาหารคุณต้องดับไฟเป็น ต้องฝึกดับไฟจริงๆกองโตๆในกี่วินาที ต้องทำให้ได้ต้องผ่าน ถ้าไม่ผ่านก็ไม่ออกใบอนุญาติ
4.หลังจากที่โดดสไลด์ไปแล้ว ถ้าเป็นน้ำไม่ใช่ พื้น นั่นหมายความว่าคุณต้องไม่กลัวน้ำ จะมีสัญชาติญานในการเอาตัวรอดเพื่อช่วยคนอื่น แล้วจะถูกฝึกว่า เมื่อรอดแล้วจะช่วยคนอื่นอย่างไร ผู้โดยสารก็จะปลอดภัย นั่นคือ เหตุผลว่าทำไมต้องว่ายน้ำเป็น
นอกจากนั้นก็จะมีหลักสูตรเรียนเรื่องความปลอดภัย ทฤษฏีการบิน จิตวิทยาการทำงาน การร่วมงาน จะต้องผ่านทุกขั้นตอน ทางกรมจะมีหลักสูตร โดยเฉพาะความปลอดภัยต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ต้องสอบได้ 90% ต่ำกว่านี้ไม่ได้นอกจากนี้การประกาศบนเครื่องในเรื่องต่างๆ จะมีชั่วโมงสอน เสียงที่ออกไปต้องดูเหมือนกับมืออาชีพ เราจะมีการทดสอบ เราจะมีโน้ตอยู่ว่า ถ้าเธอมาบินไฟล์ทนี้ก็ให้เธอสามารถประกาศได้
"การที่จะฝึกน้องนั้น เราคาดหวังว่าทุกคนทำได้หมด คนทุกคนสอนได้หมดมันขึ้นอยู่กับเขาศรัทธาแค่ไหน มีความกระตือรือร้อนเพียงใด ที่จะเรียนรู้ ถ้าเขาเฉื่อยชาฝึกอย่างไรก็ไม่ได้ ถ้ามีสองตัวทำได้หมด เราไม่เคยมองว่าเขาแตกต่างจากน้องผู้หญิง เรายังชื่นชมเขาเลยว่า เขามีความสามารถหลายๆอย่างมากกว่าที่เราคิดไว้
เช่นเคยคิดว่า เขาคงจะแต่งหน้าเก่ง ทำผมเก่ง แต่งตัวเก่ง จะมีทักษะด้านนี้มาก แต่น้องเธอกลับสามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้แบบญี่ปุ่นจริงๆ หรือ พูดได้มากถึง 4 ภาษาก็มี บางคนเรียนเก่งถึงขั้นเกียรตินิยมอันดับหนึ่งมาเลย ซึ่งเราไม่เคยสัมผัสจะไม่รู้จักเขา แต่พอสัมผัสเขาก็จะรู้ว่าเขาไม่ได้แตกต่างจากน้องผู้หญิงคนอื่นเลย"
ปรากฏการณ์แห่งวงการบิน
อย่างไรก็ตาม เธอยอมรับว่า สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องแปลกใหม่ สำหรับตัวเธอเอง ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ในวิชาชีพนี้ถึง 10 ปี แต่ไม่เคยเห็นสาวประเภทสองมาเป็นแอร์โฮสเตสเลย
"ตอนมาร่วมงานที่นี่ไม่คิดว่า จะรับพนักงานประเภทสองเข้ามา ไม่คิดว่าจะมีน้องสจ๊วตที่จะมาแปลงเพศแล้วมาใส่กระโปรงเหมือนเรา เคยเจอแต่น้องสจ๊วตที่ประดิษฐ์ประดอยเก่งกว่าเรา แต่ก็ยังอยู่ในลุคของน้องสจ๊วต"
เธอ กล่าวต่อว่า การที่ทั้ง 4 คนได้มาอยู่จุดนี้ มันเกินกว่าสิ่งที่เขาเคยหวังไว้เพราะสิ่งที่เขาหวังไว้คืออยากเป็นผู้หญิง เก็บเงินได้ก้อนหนึ่งแล้วไปผ่าตัด ผ่านการตรวจจิตก็ผ่าตัดได้ แต่การที่จะมีที่ไหนสักที่หนึ่งเปิดรับสมัครแล้วประกาศอย่างนี้ มันเกินความคาดหวังแล้ว
เพราะฉนั้นจะเรียกเขาว่ากระเทยเขาก็ไม่แปลกใจ หรือจะเรียกเขาว่าสาวประเภทสองก็เฉยๆ เพราะมันคือความจริง ไม่ได้โกรธ ไม่ได้น้อยเนื้อต่ำใจเข้าใจว่าตั้งแต่เล็ก คงจะถูกกดดัน คนอาจจะล้อเลียน ไปแกล้ง เขาคงโดนมา
เยอะ แต่พอมาถึงตรงนี้เขาได้รับการยอมรับแล้ว
"คุณเชื่อรายได้ของพวกเขา อยากจะบอกว่า บางคนมีรายได้มากกว่าที่จะมาเป็นแอร์โฮสเตส อย่างน้องฟิล์มมิสทิฟฟานี่ เขาทั้งเดินแบบ เป็นดารา เป็นพิธีกร รายได้ต้องเป็น 6 หลักอยู่แล้ว แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะมาอยู่ในอาชีพนี้"
เปิดหัวใจ 4 สาว
ฟังเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชามามากแล้ว คราวนี้ เราลองมาฟังความรู้สึกของน้องๆที่เป็นสาวประเภทสองทั้ง 4 คนบ้างขอเริ่มจากน้อง"นัน"เป็นคนแรก ซึ่งเธอเปิดเผยว่า เรียนจบปริญญาตรีคณะมนุษย์ศาสตร์เอกภาษาอังกฤษที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ก่อนหน้านี้ที่จะมาสมัครเป็นแอร์โฮสเตส ทำงานเป็นCustummer service และพรีเซนต์เททีฟที่โรงพยาบาล
นัน บอกว่า สำหรับเธอแล้วแอร์โฮสเตสเป็นอาชีพที่ทุกคนใฝ่ฝันทั้งผู้หญิงและสาวประเภทสอง ประกอบกับโดยส่วนตัวเป็นคนที่ชอบงานบริการและพบปะกับผู้คนอยู่แล้ว เมื่อเปิดโอกาสก็รีบมาสมัครทันที
"ที่นี่ไม่มีอุปสรรคอะไร เพื่อนๆทุกคนดีหมด และตอบรับดีมากมา ตอนนี้อบรมมาสองอาทิตย์แล้ว ยากมาก ต้องเรียนทุกอย่างที่เกี่ยวกับเครื่องบิน เรียนเกี่ยวกับช่วยชีวิตผู้โดยสาร สถานการณ์การฉุกเฉินจะทำอย่างไรให้ผู้โดยสาร
ปลอดภัย ยังไม่ได้เรียนเรื่องการเสิร์ฟ แต่คิดว่าคงไม่ยากไปกว่านี้ "
นัน ทิ้งท้ายไว้ว่า "อยากให้บริษัทเจริญรุ่งเรือง พวกเราจะได้ทำงานนี้ไปตลอด"
ส่วนน้อง "รัน" จบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยอัญสัมชัญ ซึ่งเธอบอกว่า ช่วงที่จบมาก็ไม่มีปัญหาอะไร เหมือนผู้หญิงปกติทั่วไป โดยก่อนหน้านี้ทำงานที่ประเทศญีปุ่น ในฮาดีดะแอร์พอร์ต เป็นคุณครูสอนภาษาไทยให้กับสต๊าฟ โดย
เธอพูดได้ถึง 4 ภาษา คือ ภาษาไทย อังกฤษ ญี่ปุ่น จีน
"ที่มาสมัครเพราะมีความฝันมาตั้งแต่เด็ก พอดีพีซีแอร์ให้โอกาสตรงนี้มาตอนแรกๆที่มาสมัครมาอบรมเพื่อนๆก็ไม่รู้ด้วยว่ารันเป็นด้วยซ้ำ พอดีคุณครูบอกว่าคนไหน "เป็น"บ้างก็เลยต้องออกไปบอกกับเพื่อนๆว่าเป็นนะ ซึ่งรุ่นนี้ก็มี
ด้วยกัน 4 คน
อย่างไรก็ตาม น้องรันยอมรับว่า รายได้ที่นี่น้อยกว่าที่เดิม แต่ที่มาสมัครเพราะอยากลองงานใหม่ๆดู และตั้งใจไว้ว่าจะทำอาชีพให้นานที่สุด
"ตอนนี้ก็พยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด และ ก็ดีใจที่ได้ร่วมงานกับทุกคนที่เก่งและมีโพรไฟล์ทที่ดี"
มาต่อกันที่น้อง"มิว" ซึ่งเธอจบม.เกษตร เกียรตินิยม วิทยาการจัดการ มิวบอกว่าตอนแรกจบมาทำงานพาร์มไทน์ช่วงรอรับปริญญาทำพีอาร์ที่ชลาชลกรุ๊ป ต่อมาก็มาเป็นพีอาร์ของโรงเรียนสองภาษาปีหนึ่ง แล้วย้ายมาทำในส่วนของแนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศอีกปีหนึ่งแล้วจึงมาสมัครที่พีซีแอร์
"ความฝันตอนเด็กชอบร้องเพลง อยากเป็นนักร้องอยากเป็นแอร์ แต่ตอนเด็กๆเชื่อว่า เราเป็นไม่ได้ ก็เลยไม่ได้สนใจ ไม่อยากจะไปเรียน เพราะรู้ว่าเรียนไปก็ไม่ได้ใช้ ก็เลยเรียนงานทางด้านเซอร์วิส ชอบทำงานเกี่ยวกับคน ก็เลยเลือกน้องรันเรียนสาขาวิชาที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและโรงแรม
พอดีเพื่อนทราบว่าที่นี่เปิดให้มาสมัครที่นี่ แต่ตอนนั้นก็ไปลองสมัครสายการบินอื่นๆดูแต่ผ่านเข้าไปรอบหลังๆ แต่ก็รู้ว่าเขาไม่ให้อยู่แล้ว พอรู้ว่าที่นี่เปิดก็เลยเข้ามา"
มิวบอกว่า จุดเด่นของเธอคือ คิดว่าเป็นคนที่มีความอดทนสูง และมีความพยายาม เพราะคิดว่าอย่างน้อยก็ได้รู้ว่าเราได้ทำ สำหรับเป้าหมายต่อไปในชีวิต ก็อยากจะทำงานที่นี่ให้นานที่สุด
"เราออกจากงานอย่างอื่นมา เพราะรู้ว่างานที่นี่เป็นงานที่เราอยากจะทำ ตอนนี้ก็ไม่อยากเป็นนักร้องแล้ว เพราะงานบันเทิงมันไม่ยั่งยืน วันหนึ่งแก่ไปก็ไม่มีใครจ้าง"
มาปิดท้ายกันด้วย"น้องฟิล์ม"อดีตมิสทิฟฟานี่ ,นักแสดง,นางแบบ,และพิธีกรชื่อดัง ที่สำคัญถือได้ว่าเป็นแอร์โฮสเตสคนแรกๆที่สายการบินพีซี แอร์ กล้าประกาศว่าจะติดปีกให้ ถ้าสามารถผ่านการอบรม และยังเป็นผู้จุดประกายให้กับ "ปีเตอร์"เจ้าของสายการบิน จนเป็นที่มาของการประกาศนโยบายให้พีซีแอร์ ประกาศรับสมัครสาวประเภทสองมาเป็นแอร์โฮสเตส
เธอให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนหน้ามีหลายบทบาทในหน้าที่การงาน ทั้งนักแสดงพิธีกร งานเดินแบบ มากมาย แต่เหตุผลที่ผันตัวเองมาทำสายการบิน เพราะอยากจะแสดงให้เห็นว่าสาวประเภทสองสามารถทำงานประเภทอื่นที่เป็นเกียรติกับตัวเองได้ ไม่ใช่แค่ทำงานบันเทิง หรือ ทำงานตอนกลางคืน หรือ ทำงานในด้านลบ ให้สังคมโลกได้เห็นว่า สาวประเภทสองทำงานได้เฉกเช่นเดียวกันกับผู้หญิงทั่วไป และยังเป็นการเปิดกว้างเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพด้วย
สังคมทั่วโลกเขาปิดกั้น ไม่ว่าจะเป็นการทำอาชีพ หรือ การดำรงชีวิต สาวประเภทสองไม่สามารถที่จะทำงานที่ดีได้เลย อย่างเช่น ที่เกาหลี สาวประเภทสองทำงานได้แต่เพียงไนท์คลับ ทำงานกลางวันไม่ได้เลย ทำงานราชการไม่ได้เลยทำงานหน่วยงานเอกชนไม่ได้เลย เขาไม่รับเขาแอนตี้มาก แต่วันนี้ในประเทศไทยหน่วยงานพีซีแอร์ เป็นจุดเริ่มต้นของเสรีภาพและมนุษย์ชนให้เท่าเทียมกันเกิดขึ้นต้องขอขอบคุณพีซีแอร์ที่ช่วยจุดประกายความเท่าเทียมกันในสังคมที่เห็นได้จริง
"ที่ผ่านมาบอกว่าสิทธิผู้หญิงชาย ความหลากหลายทางเพศทอดดี้ เท่าเทียมกันทั้งหมด แต่ยังไม่ได้แนวทางปฏิบัติที่ทำได้จริง แต่ตอนนี้พีซีแอร์ทำได้จริง ต้องขอบคุณพีซีแอร์ และคุณปีเตอร์ ชาง ที่สร้างความฝันให้กับสาวประเภทสองไม่ใช่แค่ฟิล์มคนเดียว
รวมทั้งยังช่วยจุดประกายให้องค์กรทั่วโลกหันมาเห็นความสำคัญความเท่าเทียมกันของมนุษย์ ฟิล์มหวังว่าองค์กรอื่นๆจะยอมรับเปิดโอกาสให้สาวประเภทสอง เพื่อพิสูจน์คุณค่าของคนไม่ไช่อยู่แค่เพศ แต่อยู่ที่ความสามารถตัวบุคคลและจิตใจ"
เธอบอกว่า ตอนเด็กๆไม่คิดว่าจะเป็นมิสทิฟฟานี่ แต่อยากเป็นแอร์โฮสเตสมากกว่า แต่ความฝันทำให้เรามีความมุ่งมั่น อย่างตอนที่เป็นมิสทิฟฟาเมื่อมีโอกาสมา เราก็พยายามทำให้ดีที่สุด เลยได้เป็น
เธอย้ำว่า คนเราไม่เกี่ยวกับเรียนเก่งหรือไม่เก่ง แต่ถ้านำมาใช้ในสังคมได้ก็ไม่มีประโยชน์ ที่สำคัญ การเป็นแอร์โฮสเตส เก่งอย่างเดียวทำไม่ได้แน่ๆ เพราะต้องมีจิตใจที่ดีรักในงานบริการ ที่สำคัญเลยคือ ต้องเป็นคนที่ดี เพราะอาชีพแอร์โฮสเตสในความหมายของคนอื่นที่มองเห็นว่าเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน แต่จริงๆงานหนักมาก ไม่ใช่แค่มาเสิร์ฟน้ำ หรือหยิบอาหารให้เท่านั้น
แต่ต้องเรียนรู้ว่า เครื่องบินนี้เป็นอย่างไร ส่วนไหนเครื่องบินเป็นอย่างไร เรียนรู้เกี่ยวกับระบบความปลอดภัย เรื่องร่างกาย ทำทุกอย่าง ถ้าวันหนึ่งผู้โดยสารล้มป่วยขึ้นมาก็ต้องช่วยเหลือได้ เป็นทั้งพยาบาล เป็นนักบิน เป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่อ่ง เป็นทุกอย่างที่อยู่บนเครื่องบินเพื่อให้ผู้โดยสารปลอดภัยมากที่สุด หน้าที่นี้ถือว่าเป็นหน้าที่ซึ่งหนักมาก
น้องฟิล์ม ให้สัมภาษณ์ต่อว่า อาชีพแอร์โฮสเตสยากมากกว่าการเป็นนักแสดงเพราะคุณต้องรับผิดชอบชีวิตผู้โดยสารที่อยู่บนเครื่องบิน ถ้ามีเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นมา แต่ถ้าเป็นนักแสดงเกิดอุบัติเหตุ จะมีคนรอบข้างเข้าไปช่วยเหลือ แต่แอร์โฮสเตสถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา คุณต้องเข้าไปช่วยเหลือคนอื่น
ถามว่าชอบอะไรมากกว่ากัน ก็ต้องตอบว่าชอบทั้งสองอย่าง เพราะเป็นสายงานที่ต่างกัน เหมือนเป็นนางงามก็อีกแบบหนึ่ง เป็นนักแสดงก็อีกแบบหนึ่ง เป็นแอร์โฮสเตสก็อีกแบบหนึ่ง แต่เรายังสามารถรับงานทางการแสดงได้ เพราะแอร์โฮสเตสไม่ได้บินทุกวัน ตอนนี้ก็พักงานพิธีกรทางทีวีไว้ก่อน หลังจากเทรนนิวแล้วจึงจะกลับไปทำงานเหมือนเดิม
"อาชีพแอร์โฮสเตสถือเป็นอาชีพที่มั่นคง และถือว่าเป็นอาชีพที่หลายคนใฝ่ฝันไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงจริงๆหรือสาวประเภทสอง ไม่ทราบว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่คิดไว้เสมอก็คือ จะทำวันนี้ให้ดีที่สุด ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุดตลอดเวลาที่ฟิล์มประสบความสำเร็จในหลายๆเรื่อง เพราะความตั้งใจ ทั้งมิสทิฟฟานี่ เป็นระดับโลก เป็นนักแสดงก็ทำได้ เป็นพิธีกร และวันนี้ถ้าเป็นแอร์โฮสเตสเราก็ทำได้ ถ้าเรามีความตั้งใจเป้าหมายในชีวิตของเราก็จะประสบความสำเร็จ"
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ : T News Urbanites