รู้แล้วต้องเลี่ยง! แค่ขี้โมโห ก็เสี่ยงโรคร้ายไม่รู้ตัว

รู้แล้วต้องเลี่ยง! แค่ขี้โมโห ก็เสี่ยงโรคร้ายไม่รู้ตัว

รู้แล้วต้องเลี่ยง! แค่ขี้โมโห ก็เสี่ยงโรคร้ายไม่รู้ตัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ความโกรธ และความโมโห นอกจากจะทำร้ายจิตใจของคนรอบข้างและคนในครอบครัวแล้ว ยังสามารถทำร้ายสุขภาพของตัวเองได้อีกด้วย ยิ่งถ้าหากเป็นคนขี้โมโหตลอดเวลา อะไรนิดหน่อยก็ไม่พอใจ อะไรนิดหน่อยก็ปึงปังแล้วก็เก็บเอาไปเครียด ไม่มีความสุขกับการใช้ชีวิตเลย ก็มีความเสี่ยงเป็นอย่างยิ่งที่คุณจะเป็นโรคร้ายทั้ง 5 โรคนี้ในอนาคต

1.โรคเครียด

สังเกตกันมั้ยว่า เมื่อไรก็ตามที่เราโมโห อารมณ์ของเราก็จะค้างอยู่แบบนั้น และจะทำให้เกิดความรู้สึกเครียดที่อะไร ๆ ก็ไม่เป็นไปตามที่ใจหวัง ทำให้เราไม่สามารถมีความสุขในช่วงเวลานั้น ๆ และอาจกินเวลาไปทั้งวัน แต่โมโหแล้วแสดงออกมา ก็ยังไม่เท่าโมโหแล้วเก็บไว้ในใจคนเดียวที่มีโอกาสเป็นโรคเครียดมากกว่าถึง 2 เท่า ยิ่งสะสมไว้นาน ๆ ก็ยิ่งทำร้ายตัวเองและอาจนำไปสู่การเป็นโรคซึมเศร้าได้อีก

2.เส้นเลือดในสมองอุดตัน

เมื่อความโกรธและความโมโหพุ่งทวีขึ้นไปถึงขีดสุด เราจะรู้สึกถึงความร้อนผ่าวบริเวณใบหน้า ที่เกิดจากเลือดมีการสูบฉีดขึ้นมาถึงบริเวณศีรษะ เป็นเหตุให้อาจเกิดการอุดตันของเส้นเลือดในสมอง และเส้นเลือดในสมองแตกได้ ยิ่งถ้าหากโกรธนาน ๆ ก็ยิ่งมีความเสี่ยงกับโรคร้ายทางสมองทั้ง 2 โรคนี้มากขึ้นเป็นเท่าตัว ผลของมันอาจถึงขั้นทำให้คุณเป็นอัมพาตและเสียชีวิตได้เลยทีเดียว

3.ภูมิต้านทานต่ำลง

ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่า ความอารมณ์ร้าย โกรธง่ายของคนเรานั้น สามารถส่งผลให้ภูมิคุ้มกันมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ต่ำลง เป็นเหตุให้มีการเจ็บป่วยและติดเชื้อได้ง่ายกว่าปกติ โดยเฉพาะบริเวณปอด มีงานวิจัยของอาเวิร์ดยืนยันว่า ยิ่งโมโหมากเท่าไร เสี่ยงต่อโรคปอดติดเชื้อง่ายขึ้นเท่านั้น

4.ความวิตกกังวล

ยิ่งโกรธมาก ก็ยิ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลมาก ว่าจะส่งผลเสียอย่างไรบ้าง บางคนถึงขั้นเอาไปคิดมากจนล้มป่วย ถ้ารู้ตัวว่าโกรธง่าย โมโหง่ายแล้วไม่ดีต่อสุขภาพร่างกาย ก็ควรจะเบา ๆ ลงบ้าง อะไรที่ไม่พอใจก็คุยกันตรง ๆ น่าจะดีกว่ามาเคลียร์กันภายหลังจากการระเบิดอารมณ์ไปแล้ว ยิ่งถ้าเคลียร์กันไม่ลงตัวก็มีโอกาสที่จะโกรธขึ้นมาใหม่สูง

5.อายุสั้น

มีงานวิจัยจากสหรัฐอเมริการะบุว่า คู่รักที่ใช้ชีวิตเรียบ ๆ ไม่ค่อยมีความทะเลาะเบาะแว้งกัน มักจะอายุยืนมากกว่าคู่รักที่ชอบมีปากเสียงกัน (กลุ่มตัวอย่างเป็นคู่รักที่ใช้ชีวิตคู่ด้วยกันมากกว่า 17 ปีแล้ว)

ใครที่รู้ตัวว่าเป็นคนโมโหร้าย หรือใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล ควรจะลองพิจารณาตัวเองกันดูว่า จะทำวิธีไหนได้บ้างที่ทำให้ตัวเองอารมณ์เย็นลง วิธีที่ดีที่สุดที่เราแนะนำคือ การพบจิตแพทย์ หรือนักบำบัดด้านนี้โดยตรง จะช่วยดูแลเรื่องอารมณ์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น และช่วยป้องกันโรคร้ายต่าง ๆ ที่จะมาเยือนได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook