นางแบบเอเชียผงาดตลาดแฟชั่นโลก
ด้วยการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจในประเทศแถบเอเชียโดย เฉพาะจีน ซึ่งนำมาสู่การเพิ่มขึ้นของระดับรายได้และปริมาณชนชั้นกลางและเศรษฐีใหม่ ก็พลอยทำให้ "อุตสาหกรรมสินค้าฟุ่มเฟือย" หรือ luxury goods เติบโตไปพร้อมกันเป็นเงาตามตัว จนทำให้เจ้าของสินค้าสัญชาติตะวันตกต้องควานหาและช่วงชิงตัวนางแบบเอเชียมา เป็นแบบหรือพรีเซ็นเตอร์ หวังมัดใจลูกค้ากระเป๋าหนักชาวเอเชีย จนอาจเรียกได้ว่าตอนนี้เป็นขาขึ้นของนางแบบโซนเอเชีย
ฌอน เหริน ผู้บริหารบริษัทสำรวจด้านการตลาด China Market Research Group สาขาเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า บริษัทที่ผลิตสินค้าฟุ่มเฟือยจากฝั่งตะวันตกกำลังนิยมเลือกใช้งานนางแบบจาก ทวีปเอเชียมากขึ้น เพราะมีหน้าตาและบุคลิกลักษณะเป็นที่คุ้นเคยของตลาดในเอเชีย เพื่อสร้างและเชื่อมโยงความรู้สึกร่วมของลูกค้ากลุ่มใหม่สินค้าในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะลูกค้าชาวจีน กับผลิตภัณฑ์ของตัวเอง
ตัวอย่างของนางแบบเอเชียที่กำลังมาแรง ก็คือ หลิว เหวิน (Liu Wen) นางแบบชาวจีนวัย 23 ปีที่แจ้งเกิดและประสบความสำเร็จบนเส้นทางของอาชีพนางแบบระดับโลก เธอกลายเป็นนางแบบคิวทองที่แบรนด์ต่างๆเรียกใช้บริการตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปี 2008 ผลงานอันโดดเด่นของเธอ อาทิ การได้รับคัดเลือกให้เป็นนางแบบของชุดชั้นใน Victoria's Secret สองปีติดต่อกันเมื่อ 2010 และยังเป็นพรีเซ็นเตอร์ชาวเอเชียคนแรกของเครื่องสำอางชื่อดัง Estee Lauder
ในขณะที่เพื่อนร่วมชาติอย่าง ซู เพ่ (Shu Pei) ก็ไปได้ดิบได้ดีในเส้นทางแฟชั่นระดับโลกเช่นกัน เพราะเธอได้รับคัดเลือกให้เป็นพรีเซ็นเตอร์เครื่องสำอาง Maybelline และเป็นนางแบบโฆษณาให้กับเสื้อผ้า GAP
นอกจากสาวๆจากจีนแล้ว นางแบบชาวฟิลิปปนส์ Danica Magpantay เพิ่งคว้ารางวัล Supermodel of the World การประกวดซึ่งจัดโดย Ford modelling agency เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทำให้เธอได้โอกาสไปเฉิดฉายในงานนิวยอร์คแฟชั่นวีคที่ผ่านมา
ในขณะที่นักแสดงลูกครึ่งไต้หวันแคนาดา ก๊อดฟรี เกา (Godfrey Gao) ได้รับเลือกให้เป็นนายแบบหน้าตี๋คนแรกของ Louis Vuitton ถ่ายแบบคู่กับกระเป๋าใส่เอกสารที่เป็นอุปกรณ์สำคัญของหนุ่มจีน
ด้วยการเติบโตทางเศรษฐกิจ ทำให้ PriceWaterhouseCoopers หรือ PwC ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทรายใหญ่ของโลกด้านบัญชี ภาษีและให้บริการเชิงวิชาชีพ วิเคราะห์ว่าจีนเป็นตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยที่เติบโตเร็วมากและกำลังจะกลายเป็น ผู้ซื้ออันดับหนึ่งของโลกในสินค้าประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง กระเป๋า นาฬิกา รองเท้าและเครื่องแต่งกายภายในปี 2015 ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้นอกจากแบรนด์ยอดนิยมอย่าง Chanel, Louis Vuitton และ Versace เริ่มเข้ามาทำตลาดในจีนแล้ว แต่แบรนด์อย่าง Chloe ก็เล็งที่จะมาเจาตลาด แชร์ส่วนแบ่งในเค้กก้อนโตชิ้นนี้
อย่างไรก็ดี ไม่ว่านางแบบเอเชียจะเป็นที่นิยมสำหรับแบรนด์อื่นๆแค่ไหน แต่ผู้บริหารของ Chloe กลับมองว่าการเลือกใช้นางแบบเอเชียหรือไม่นั้น ไม่ใช่สิ่งอันดับแรกที่จะนำมาพิจารณา แต่บุคลิกภาพและความเหมาะสมกับสินค้าต่างหากที่เป็นเรื่องสำคัญกว่า
ในมุมมองของนางแบบคิวทองอย่าง หลิว เหวิน เธอมองว่าเส้นทางของนางแบบเอเชียยังอีกยาวไกลในการที่จะกลายเป็นกระแสหลักใน แวดวงแฟชั่นโลก "ความท้าทายของฉันและเพื่อนนางแบบเอเชียคนอื่นๆ ก็คือการทำให้บรรณาธิการ สไตลิสต์ และช่างภาพ เชื่อมั่นว่าเรามีบุคลิกลักษณะที่จะสามารถดึงดูดคนจำนวนมากได้"
แต่ ฌอน เหริน กลับมองอีกมุมหนึ่งว่าการใช้นางแบบหรือนายแบบบลุคเอเชียที่เพิ่มขึ้น เป็นกลยุทธ์ง่ายๆในการขายสินค้า เพราะเขากล่าวว่าถ้าอยากให้ธุรกิจของแบรนด์สินค้าฟุ่มเฟือยสืบทอด หรือดำเนินต่อไปได้ ก็คือการทำอย่างไรก็ได้ให้สินค้าและโฆษณาของสินค้าเข้าไปนั่งอยู่ใจผู้ บริโภคชาวจีน แต่ถ้าทำไม่ได้ก็คงจะต้องเตรียมปิดกิจการได้เลย
แปลและเรียบเรียงโดย วิภาวี วิบูลย์ศิริชัย