6 วิธีบอกลาตะคริวแบบง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้ !
การเป็นโรคตะคริวบ่อย ๆ สามารถบ่งบอกได้ถึงการดูแลสุขภาพที่ยังไม่ดีเท่าที่ควร โดยเฉพาะในเรื่องของพฤติกรรมที่ทำร้ายกล้ามเนื้อ การขาดแร่ธาตุบางชนิด รวมไปถึงการไม่ชอบดื่มน้ำ ก็มีผลทำให้เกิดโรคตะคริวขึ้นได้ ยิ่งมีอายุมากขึ้น ก็ยิ่งมีโอกาสเป็นตะคริวมากขึ้น เพราะเซลล์ต่าง ๆ ก็เริ่มมีการเสื่อมลงไปเรื่อย ๆ เราจึงขอแนะนำ 6 วิธีแก้ปัญหาตะคริวง่าย ๆ เพียงเริ่มต้นที่ตัวคุณเองเท่านั้น
1.หลีกเลี่ยงการใช้งานกล้ามเนื้อหนักเกินไป
วิธีแก้ปัญหาการเป็นตะคริวแบบง่าย ๆ ที่สุด คือ เป็นที่ไหน ให้ใช้กล้ามเนื้อนั้น ๆ เบาลง เช่น เป็นตะคริวที่ต้นขาบ่อย ๆ ก็ให้หลีกเลี่ยงการใช้งานต้นขาหนักเกินไป เช่น การออกกำลังกายโดยการวิ่ง หรือกระโดด (บาสเก็ตบอล วอลเล่ย์บอล) การเดินหรือยืนตลอดเวลาในการทำงาน เป็นต้น แต่ถ้าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ก็ควรมีการพักเป็นระยะ หรือยืดกล้ามเนื้อก่อนทำกิจกรรม จะช่วยป้องกันการเกิดตะคริวได้
2.ดื่มเกลือแร่ชดเชยน้ำและเหงื่อที่เสียไป
ทุกครั้งที่เราออกกำลังกายจนเหงื่อเปียกชุ่ม ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม แม้กระทั่งการว่ายน้ำ ให้นั่งพักเฉย ๆ ให้หายก่อนสักพักหนึ่ง แล้วไปหาเกลือแร่สำเร็จรูปแบบขวดที่เน้นในเรื่องของการชดเชยแร่ธาตุที่เสีย (แมกนีเซียม โพแทสเซียม) ไปพร้อมกับเหงื่อ จะทำให้รู้สึกสดชื่นยิ่งขึ้น แต่ถ้าใครจะเอาไปดื่มระหว่างออกกำลังกายกดีเช่นกัน จะได้ไม่รู้โหยจนเกินไปเมื่อเลิกออกกำลังกายแล้ว
3.ดื่มน้ำให้เพียงพอ
โดยเฉพาะหน้าร้อนที่ร่างกายจะสูญเสียน้ำและแร่ธาตุได้มากกว่าปกติ หากเป็นไปได้ก็ควรดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว หรือมากกว่า 1.5 ลิตรขึ้นไปในปัจจุบัน เพื่อให้น้ำเข้าไปอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ระบบไหลเวียนโลหิต และระบบย่อยอาหาร รวมถึงกล้ามเนื้อหลาย ๆ มัด
4.ทานอาหารที่มีประโยชน์
อาหารบางชนิดสามารถป้องกันโรคตะคริวได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น น้ำมันมะพร้าว กล้วย พืชผักต่าง ๆ ที่เต็มไปด้วยโพแทสเซียม และแร่ธาตุอื่น ๆ
5.ออกกำลังกายให้มากขึ้น
ในการออกกำลังกายนี้ ก็ต้องดูก่อนว่ามีการใช้งานกล้ามเนื้อหนักไปหรือไม่ ถ้าไม่ก็สามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ ขอให้เน้นในเรื่องของการเล่นโยคะเข้าไว้ เพื่อเป็นการยืดเส้นยืดสายให้กับร่างกายก่อนออกกำลังกายอย่างอื่น
6.ในกรณีของผู้สูงอายุ
พยายามขับตัวให้ช้าลง และพยายามทำตัวเองให้อบอุ่นร่างกายเข้าไว้ ด้วยการห่มผ้าห่ม หรือสวมถุงเท้าก่อนนอน
เป็นวิธีแก้ปัญหาตะคริว และดูแลสุขภาพไปพร้อม ๆ กันในแบบที่ไม่ยากมากจนเกินไปนัก ใคร ๆ ก็สามารถทำได้ไม่เว้นแม้แต่เด็ก แต่ถ้าใครที่เป็นบ่อยหรือเป็นเรื้อรัง ควรรีบเดินทางไปพบแพทย์ทันทีจะดีที่สุด