วิธีบรรเทาอาการชาที่ปลายประสาทในผู้ป่วยเบาหวาน
เบาหวาน ภัยเงียบที่เป็นกันได้โดยไม่รู้ตัว โดยภาวะของการเป็นโรคเบาหวานนั้น มักจะเกิดขึ้นมาจากร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงกว่าปกติ อาจมีสาเหตุเนื่องจากการขาดฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวนำพาน้ำตาลกลูโคสให้เข้าสู่เนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกาย เพื่อให้เกิดการสันดาปได้พลังงานออกมาเพื่อใช้ในการดำเนินชีวิต หรือประสิทธิภาพของอินซูลินนั้นลดลงเนื่องจากเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินขึ้น จึงมีผลให้น้ำตาลในเลือดสูงอยู่เป็นเวลานานจนกระทั่งเกิดโรคแทรกซ้อน และอันตรายต่อเนื้อเยื่อของอวัยวะต่างๆ เช่น ไต ตา และระบบประสาท เป็นต้น
นอกจากนี้ สิ่งที่สำคัญต่อผู้ป่วยเบาหวานคือ ข้อต่อในส่วนต่างๆ รวมทั้งปลายนิ้วมือ และปลายนิ้วเท้า หากเกิดอุบัติเหตุหรือเป็นแผลที่บริเวณเหล่านั้น ก็จะเกิดการติดเชื้อลุกลามมากขึ้นจนต้องถึงกับตัดอวัยวะที่เสียหายไป เนื่องจากว่า เมื่อเป็นเบาหวานระบบประสาทส่วนปลายจะทำงานได้ไม่เต็มที่ ความชาและไร้ความรู้สึกก็จะเป็นสิ่งที่ประสบอยู่ตลอดเวลา ทำให้มักพบว่าผู้ป่วยมักเหยียบของมีคม หรือเกิดบาดแผลได้ง่ายโดยที่ไม่รู้ตัว แต่วิธีแก้ไขก็มีอยู่ วันนี้จึงขอนำเสนอมีวิธีบรรเทาอันตรายต่อมือ และเท้าสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน โดยมีรายละเอียดมาฝากดังนี้
1.ทานยารักษาเบาหวานตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
ผู้ป่วยเบาหวานมักจะเกิดอาการชาเป็นๆ หายๆ ที่ปลายมือและเท้า ดังนั้นจึงควรแก้ไขเบื้องต้นด้วยการรักษาโรคเบาหวานด้วยการทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด อย่าลืมรับประทานยาเป็นอันขาด
2.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้หลากหลาย
โดยเฉพาะผักผลไม้สดที่มีสีสันสดใส จำพวกผักสีแดง อย่างเช่น มะเขือเทศ เรดิช, ผักสีขาว เช่น กระเทียม หอมหัวใหญ่, ผักสีเขียว เช่น คะน้า บรอคโคลี, ผักสีส้มแดง เช่น แครอท ฟักทอง, ผักสีม่วง เช่น บีทรูท ข้าวไรซ์เบอร์รี่ และอัญชัน เพราะผักผลไม้เหล่านี้มีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง จึงช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ตามอวัยวะต่างๆ ที่มีสาเหตุจากเบาหวาน และอายุที่เพิ่มขึ้นได้
3.รับประทานสมุนไพรเป็นตัวช่วย
โดยเฉพาะสมุนไพรที่ได้รับการศึกษาวิจัยแล้วว่า มีประสิทธิภาพในการลดระดับปริมาณน้ำตาลในเลือดได้ดี เพื่อเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับผู้ป่วยที่รับประทานยารักษาเบาหวานมาเป็นเวลานาน อาทิ ชาใบหม่อน เจียวกู้หลาน และหญ้าหนวดแมว เป็นต้น
4.รับประทานอาหารเสริมอย่างวิตามินบีรวม (Vitamin B 1,6 และ 12)
เนื่องจากวิตามินเหล่านี้มีผลช่วยบรรเทาอาการอักเสบ และชาของปลายประสาท โดยจะช่วยให้ผู้ป่วยมีอาการทุเลาลงซึ่งควรรับประทาน 100 มิลลิกรัม ครั้งละ 1 เม็ดหลังอาหาร 3 มื้อ รวมทั้งวิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้าเย็น เนื่องจากวิตามินบี และซีสามารถละลายน้ำได้ดี จึงไม่ตกค้างในร่างกาย ดังนั้นจำเป็นต้องรับประทานเป็นประจำ แต่ควรทานในปริมาณที่เหมาะสม และหยุดทานเมื่ออาการชาหายไป
5.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายนับเป็นยาขนานเอกที่จะช่วยให้อาการชา และภาวะเบาหวานลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพียงแค่เริ่มต้นออกกำลังกายเบาๆ อย่างเดินช้าๆ และขยับเป็นเดินเร็วขึ้น การว่ายน้ำ โยคะและขี่จักรยาน วิธีออกกำลังกายเช่นนี้จะช่วยเสริมให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้น จึงมีภูมิคุ้มกันร่างกายที่แข็งแรง ป้องกันการเกิดภาวะติดเชื้อลุกลามได้ง่าย
เพียงแค่คุณหันมาใส่ใจตนเอง โดยการลองนำวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้ อาการชา จนกระทั่งอักเสบและติดเชื้อลุกลามตามมือและเท้าก็จะลดลงเรื่อยๆ คุณภาพชีวิตที่ดีของคุณก็จะกลับคืนมา