นาตาลี ณัฎฐินี เจียรวนนท์ : Celeb น้องใหม่ของวงการ

นอกเหนือจากนามสกุลที่พ่วงท้ายมากับชื่อของเธอแล้ว สิ่งที่เราตระหนักยามที่เราได้เห็นเธอครั้งแรกคือความสวย นาตาลี-ณัฎฐินี เจียรวนนท์ (ลูกครึ่ง ไทย จีน อเมริกัน) ลูกสาว ดร.ประทีป เจียรวนนท์ หลานเจ้าสัว CP คนนี้ เพิ่งมีคนเห็นหน้าค่าตาได้ไม่นานก็เริ่มมีคนให้ความสนใจแล้ว เพราะนอกเหนือจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับ Boots แล้ว ยังมีภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอที่กำลังฉายอยู่ เรื่อง ภารกิจบิดระเบิดรัก Delivery Sexy Love ดูจากภายนอกแล้วคุณอาจคิดว่าเธอต้องเป็นคุณหนูทุกกระเบียดนิ้ว แต่พอเริ่มคุยเราก็เริ่มรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ช่างพูดใช่เล่น และที่สำคัญเธอชอบชิม ซึ่งนั่นก็เป็นแรงบันดาลใจให้เธอหยุดเรียนไปหนึ่งปีที่คณะศิลปศาสตร์ ธรรมศาสตร์ เพื่อไปเรียนทำขนมถึงซานฟรานซิสโก ตอนนั้นที่ตัดสินใจไปเพราะว่าพี่สาวบอกว่าอีกปีหนึ่งจะกลับมาอยู่เมืองไทยแล้ว เราก็คิดว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะไป เลยตัดสินใจว่าจะหยุดเรียนที่ธรรมศาสตร์ไว้แล้วก็ไปเรียนทำขนม เรียนอยู่ 7 เดือน ตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น 5 วันต่ออาทิตย์ ขอบอกว่าเหนื่อยมากค่ะ เพราะเราต้องทำทุกอย่างหมด ทุกขั้นตอนของการทำขนม ทุกประเภทด้วย ต้องทำได้หมด ความฝันของเธอไม่ใช่การเข้าไปทำธุรกิจของครอบครัวอย่างที่เราคิด แต่กลับเปเกอรี่เล็กๆ ต่างหากที่เธออยากทำ จริงๆ เค้กลีก็ทำได้ดีนะ พวกขนมปังก็ได้ แต่นี่ก็ไม่ได้ทำมาพักใหญ่แล้วค่ะ เพราะตั้งแต่กลับมาก็เรียนหนังสืออย่างเดียว แต่อนาคตลีคิดว่าคงจะทำ แต่ก็ต้องดูลู่ทางดีๆ ก่อนว่าจะเปิดที่ไหนยังไง เพราะเดี๋ยวนี้ร้านเบเกอรี่เปิดกันเยอะ แล้วคนไทยก็ทำอร่อยมากด้วย ระหว่างที่เรารอจะได้เห็นร้านเบเกอรี่ของเธอในอนาคตไม่ใกล้ไม่ไกลนี้ ตอนนี้เธอจึงซ้อมลับฝีมืออยู่กับธุรกิจที่เธอกับพี่น้องร่วมกันทำ นั่นคือร้านอาหาร Red Duck จริงๆ เริ่มมาจากที่ว่าคุณพ่อชอบทานเป็ดมาก พวกเราพอเห็นลู่ทางว่ายังไม่มีใครทำร้านฟาสต์ฟู้ดสไตล์ฮ่องกงก็เลยทำ อาหารร้านเราก็จะมีพวกเป็ดปักกิ่ง บะหมี่ฮ่องกง หมูกรอบอะไรพวกนี้ ร้านไปได้ดีค่ะ ตอนนี้มี 3 สาขาแล้ว คือ ที่สุขุมวิท 33 ที่ฟอร์จูน และที่อนุสาวรีย์ฯ ในอนาคตก็คงจะขยายออกไปเรื่อยๆ แน่นอนว่าคงไม่ต้องตอบว่าวัตถุดิบเหล่านั้นมาจากไหน เราอดถามเธอไม่ได้ว่า เธอไม่คิดที่จะเข้าไปทำธุรกิจของครอบครัวหรือ ครอบครัวของเราไม่เคยมีความคิดให้ลูกหลานต้องเข้าไปทำธุรกิจของครอบครัวอยู่แล้ว คุณพ่อจะสนับสนุนในสิ่งที่เราสนใจอยากจะทำมากกว่า เขาจะคอยชี้แนะว่า สิ่งที่เราทำนั้นดีหรือไม่ ควรทำหรือเปล่า การจะเข้าไปทำในธุรกิจครอบครัวบางทีก็ไม่ใชตรสำเร็จ เพราะถ้าเราไม่ถนัด ก็น่าจะให้คนที่เขาอยากทำสนุกกับงานเข้าไปทำน่าจะดีกว่า ถ้าไม่อย่างนั้นเอาแต่คนในครอบครัวไปทำ มันคงไม่ดีกับองค์กรแน่ๆ ยังไงเสียลีก็อยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเองมากกว่าค่ะ ส่วนเรื่องราวในวงการบันเทิง วงการคนดังนั้นเธอบอกว่าเฉยๆ เธอก็เป็นอย่างนี้ของเธออยู่แล้ว ลีไม่เคยคิดว่าจะต้องทำตัวอย่างไรให้คนมาชอบหรือสนใจลี ลีก็เป็นของลีแบบนี้ ไม่ได้รู้สึกอึดอัดหรือลำบากใจอะไร แล้วก็ไม่ได้คาดหวังว่าตัวเองจะต้องเป็นที่รู้จัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ณ ปัจจุบันเธอเป็นหนึ่งในลิสต์ของคนดังที่ต้องถูกเชิญไปงานต่างๆ เสียแล้ว จำชื่อและพิศหน้าเธอไว้ให้ดี เราเดาว่าเธอต้องเป็นที่สนใจของใครๆ ไปอีกนาน :: บทสัมภาษณ์จาก นิตยสาร GM Plus ::