5 วิธี หลีกหนีวงจรมนุษย์เงินเดือน

5 วิธี หลีกหนีวงจรมนุษย์เงินเดือน

5 วิธี หลีกหนีวงจรมนุษย์เงินเดือน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พออายุมากขึ้น หลายคนเริ่มเห็นความไม่มั่นคงของชีวิต แม้จะฝากท้องไว้กับบริษัทที่่คิดว่ามั่นคงที่สุดแล้ว แต่เราก็เห็นว่าในความมั่นคงก็ยังมีความล่มสลายให้ใจหายได้ทุกวัน ดังนั้นชีวิตเป็นของเรา ใครที่อยากหลุดจากวงโคจรของมนุษย์เงินเดือน ห้ามพลาดค่ะ!

 

1.เปิดรับสิ่งใหม่ๆ มีใจใฝ่เรียนรู้

ตอนนี้ถ้ายังไม่รู้ว่าอยากทำธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับอะไร คุณต้องหมั่นเปิดรับสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ อัพเดทข่าวสาร ลองเข้าสัมมนา Workshop ต่างๆ เพื่อพัฒนาตัวเอง แล้วจะได้ตกผลึกด้วยว่า สุดท้ายแล้ว คุณชอบอยู่กับอะไรที่สุด แล้วก็ถือโอกาสสร้าง Connection ดีๆ เพราะ Connection เหล่านี้ อาจช่วยชี้ทางสว่างให้เราหลุดออกมาจากชีวิตมนุษย์เงินเดือนง่ายกว่าที่คิดก็ได้นะคะ

 

 

2.เมื่อเจอธุรกิจที่ใช่ ให้ลงมือทำทันที

หลังจากใฝ่หาความรู้หลายๆด้าน และพัฒนาตัวเองจนรู้แล้วว่า สิ่งไหนคือสิ่งที่ใช่ งานอะไรที่ทำแล้วมีความสุข แน่นอนค่ะ อย่ามัวแต่คิดฟุ้งฝันถึงวันแห่งความสำเร็จโดยไม่ลงมือทำ หากคุณคิดไอเดียดีๆ สำหรับธุรกิจคุณได้ให้ลิสต์ออกมา เมื่อได้โครงสร้างทางธุรกิจแล้ว พอจะทำลงมือทำจริงๆ สิ่งที่จะตามมาคือ คุณจะเกิดอาการกลัวนั่น กลัวนี่ และตรงนี้แหละค่ะ คือบทพิสูจน์บทแรกว่า คุณกล้าพอที่จะให้ตัวเองประสบความสำเร็จไหม ถ้าคุณกล้าที่จะก้าว กล้าที่จะข้ามผ่านความกลัว และลงมือทำตามสิ่งที่คุณวางเป้าหมายไว้ คุณก็ประสบความสำเร็จไปแล้วครึ่งตัวค่ะ

3.เลือกสภาพแวดล้อมที่ใช่ เพื่อถีบตัวเองให้ประสบความสำเร็จเร็วขึ้น

ถ้าเราอยากประสบความสำเร็จ จงพาตัวเองไปคลุกคลีกับคนที่เขาประสบความสำเร็จ หรือมีประสบการณ์โชกโชนในสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ เพราะเขาจะช่วยชี้แนะได้ว่า ตรงไหนดีหรือไม่ดี บางครั้งสิ่งที่เขาเคยพลาดมาก่อน เขาเล่าให้เราฟัง เราจะได้ระวังไม่พลาดอย่างเขา และหากเราอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแต่คนพัฒนาตัวเอง คนคิดบวก เวลาที่เราท้อ คนกลุ่มนี้จะช่วยส่งพลังบวกมาให้เรา ทำให้เราไม่หยุดยั้งที่จะไปต่อ

4.คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย ยังใช้ได้แม้ในโลกของธุรกิจ

คุณไม่สามารถทำทุกอย่างได้ทั้งหมด คุณมีความสามารถพิเศษเฉพาะด้าน และในยุคนี้ใครที่มีความสามารถเฉพาะด้านอย่างโดดเด่นจะถูกคิดถึงมากกว่าคนจับฉ่ายที่ไม่มีอะไรโดดเด่นสักอย่าง และคุณต้องการส่วนเติมเต็ม เพื่อที่จะได้รันให้ธุรกิจเติบโตได้ไวขึ้น การมีหุ้นส่วนหรือพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจเป็นเพื่อนรักสักคนที่ไว้ใจได้ และเขามีความเชี่ยวชาญบางอย่างที่แตกต่างจากคุณมาก จะช่วยผ่อนแรงในการทำงานของคุณ และในยามท้อแท้ เราจะมีเพื่อนคอยให้กำลังใจ อีกทั้งยังทำให้เราไม่กลัวอุปสรรค เพราะรู้ว่าเราไม่ได้สู้คนเดียว มีคนร่วมหัวจมท้ายไปด้วยกัน

5.คิดบวกเข้าไว้ ไม่หวั่นแม้วันที่ไม่ได้ดังใจ 

แน่นอนว่าการทำธุรกิจเป็นของตัวเอง สิ่งที่สำคัญมากที่สุดก็คือ "ใจ" ค่ะ เราต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า ไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม มีวันดีก็ต้องมีวันร้าย แต่ถ้าเราเจอกับวันร้าย ใจของเราเข้มแข็งพอที่จะผ่านวันเหล่านั้นไปได้หรือเปล่า ลองไปศึกษาประวัติของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จดูสิคะ ทุกคนล้วนเคยผ่านอุปสรรคมาทั้งสิ้น และหากวันไหนที่คุณต้องเจอกับวันที่ไม่ได้ดั่งใจ เจออุปสรรคถาโถมเข้ามา ขอให้คุณคิดบวกเข้าไว้ คิดไว้ว่า "มารไม่มี บารมีไม่เกิด" ถ้าเรามีสติ คิดบวกเข้าไว้ เดี๋ยวเราก็จะเห็นหนทางแก้ปัญหา แล้วเราก็จะทำงานได้อย่างมีความสุขอีกครั้งค่ะ

 

Let's do it!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook